เคล็ดลับขจัดกลิ่น ประสาทสัมผัสทำให้เรารู้กลิ่นได้ เมื่อจมูกของเราได้กลิ่นอะไรจึงมักเชื่อมโยงกับที่มาของกลิ่น โดยทั่วไปเราต้องการสิ่งที่มีกลิ่นสะอาด ยิ่งทุกสิ่งยิ่งดี วิธีง่ายๆ ที่จะกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ที่ติดอยู่กับเฟอร์นิเจอร์และข้าวของในบ้านด้วยอุปกรณ์ง่าย ๆ ที่หาได้จากทุกครัวเรือน ด้วย เคล็ดลับง่าย ๆ นี้ ปัญหาเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์จะไม่ใช่เรื่องกวนใจของเราอีกต่อไป ขบวนการ…กำจัดกลิ่น วันนี้คุณนายสะอาดมีวิธีง่ายๆ ที่จะกำจัดกลิ่น ไม่พึงประสงค์ออกไป จาก เฟอร์นิเจอร์ และ ข้าวของในบ้าน ด้วยอุปกรณ์ ง่ายๆ ที่หาได้จากทุกครัวเรือนน่ะค่ะ กำจัดสารพัดกลิ่นด้วยวิธีธรรมชาติ บ้านไหนที่มีกลิ่นอับชื้นหรือมีกลิ่นเหม็น สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือ รักษาความสะอาดในห้องไม่ให้มีการหมักหมมของขยะ หมั่นเปิดประตูหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวกขึ้น ส่วนในห้องอื่นๆมีข้อแนะนำในการกำจัดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ดังต่อไปนี้ เปิดหน้าต่างให้โล่ง ใช้สำลีชุบแอมโมเนียหรือน้ำส้มสายชูวางทิ้งไว้ตามจุดต่างๆภายในห้อง หรือจะใช้วิธีจุดเทียนไขทิ้งไว้ในห้องเพื่อดับกลิ่นก็ช่วยได้เช่นกัน แต่เพื่อความปลอดภัยของสุขภาพควรที่จะเลิกดีกว่า จุดเทียนไขไว้ในจานเชิง จากนั้นให้ดับสนิท ยกไปวางไว้ในห้องน้ำ ปิดประตูทิ้งไว้ประมาณ 5 นาที ก่อนจะเปิดประตูเพื่อระบายอากาศ กลิ่นไม่พึงประสงค์ก็จะหมดไป ผ่าครึ่งหอมหัวใหญ่ตามยาว แล้วนำไปวางตามจุดต่างๆในบ้าน หอมหัวใหญ่ซึ่งมีคุณสมบัติที่ดีในการดูดซับกลิ่นฉุนของสีทาบ้านให้เบาบางลง ห้องครัวที่ทำอาหารเป็นประจำมักจะมีกลิ่นฉุน เราสามารถจะลดกลิ่นเหล่านั้นได้ โดยใช้ผงกาแฟโปรยลงบนเตา พอให้เกิดควัน จากนั้นปิดครัวไว้ราว 5 นาที แล้วจึงเปิดประตูตามปกติ กลิ่นจะจางลง ในกรณีที่ไม่มีกาแฟ จะใช้เกลือป่นหรือผงถ่านละเอียดโรยตามบริเวณที่มีกลิ่นก็ได้เช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นหม้อหุงข้าวเหม็นคาว กลิ่นในเตาไมโครเวฟ หรือกลิ่นเหม็นติดภาชนะพลาสติก ก็มีวิธีในการกำจัดกลิ่นให้หมดไปดังนี้ หากเผลอนำจานชามใส่อาหารที่มีกลิ่นคาวไปแช่น้ำรวมกับหม้อข้าว จะทำให้กลิ่นคาวติดหม้อไปด้วย เวลาหุงข้าวครั้งต่อไปจะไม่อร่อย เพราะข้าวสวยร้อนๆ มีกลิ่นคาวติดไปด้วย แก้ไขโดยการนำกากชาลงไปต้มในหม้อดังกล่าว รอให้น้ำเดือดแล้วเททิ้งจากนั้นล้างซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำยาล้างจาน กลิ่นคาวในหม้อข้าวจะหมดไป มีวิธีที่ทำแสนง่าย เพียงใช้น้ำมะนาวหนึ่งลูกผสมน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว คนให้เข้ากัน แล้วนำไปเข้าเตาไมโครเวฟ เปิดเตาทิ้งไว้ประมาณ 2 นาที เพียงเท่านี้กลิ่นเหม็นก็จะหมดไป ปัญหาที่มักพบบอยๆ สำหรับการใช้ภาชนะพลาสติกคือมักจะมีกลิ่นอาหารติดภาชนะ ล้างอย่างไรก็ออกไม่หมด ปัญหานี้แก้ได้ เพียงแช่ภาชนะเหล่านั้นในน้ำส้มสายชู ทิ้งไว้ 2 วัน แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด เพียงเท่านี้ก็จะได้ภาชนะพลาสติกที่ไม่มีกลิ่นเหม็นอีกต่อไป เป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้เรานั้นหงุดหงิดอยู่บ่อยครั้งมีวิธีกำจัดดังต่อไปนี้ ใช้สำลีชุบน้ำส้มสายชูไปเช็ดตามเล็บและบริเวณอื่นๆจนทั่วฝ่ามือ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด กลิ่นหอมหัวใหญ่จะไม่มากวนใจอีก ใช้ใบผักกาดขาวถูไปมาให้ทั่วมือ จากนั้นล้างน้ำซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำสบู่ กลิ่นจะจางหายไป หรือใช้ข้าวสวยประมาณ 1 กำมือถูไปตามมือ ทิ้งไว้ประมาณ 2 -3 นาที ก็จะช่วยกำจัดกลิ่นเหม็นตามเล็บและมือได้เช่นกัน ก่อนขอดเกล็ดให้ลองใช้สารส้มถูให้ทั่วตัวปลา แล้วจึงล้างน้ำสะอาด ทั้งเมือกและกลิ่นคาวก็จะหมดไป 5 วิธี ดับกลิ่นบุหรี่ก่อกวนใจ (หนังสือสุขภาพดี) กลิ่นบุหรี่ เป็นอีกหนึ่งปัญหาสร้างความรำคาญและทำลายมลภาวะในบ้าน ตอนนี้คุณแม่บ้านหลายท่าน อาจกำลังหนักใจ ไม่รู้จะกำจัดกลิ่นอย่างไรดี เราเลยนำวิธีง่ายๆ ที่จะลดปัญหานี้มาบอก สารพันปัญหากลิ่นตัว นพ.ประวิตร พิศาลบุตร ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนัง กลิ่นตัวเกิดได้อย่างไร องอาจ / จ.สมุทรปราการ A. ตามธรรมชาติเหงื่อนั้นเป็นสิ่งจำเป็นต่อร่างกาย เพราะช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกายให้คงที่ โดยปกติต่อมเหงื่อมี 2 ชนิด ชนิดแรกเรียกว่า ต่อมเหงื่อเอ็คครายน์ (eccrine) มีกระจายทั่วร่างกาย นับได้ประมาณ 2 ล้านต่อม เป็นต่อมเหงื่อที่หลั่งเหงื่อใสๆ ออกมาเวลาร้อนจัด ส่วนต่อมเหงื่ออีกชนิดเรียกว่า ต่อมเหงื่ออะโปครายน์ (apocrine) มักอยู่ตามรักแร้ รอบหัวนม ทวารหนัก และรอบอวัยวะเพศ กลิ่นตัวทั่วไปนั้นเกิดจากการที่ต่อมเหงื่ออะโปครายน์หลั่งของเหลวสีคล้ายน้ำนมออกมา แต่เนื่องจากมีเป็นจำนวนน้อยมาก จึงไม่ค่อยได้สังเกตเห็นกัน แล้วมีแบคทีเรียตามผิวหนังออกมาย่อยสลายของเหลวนั้นทำให้เกิดกลิ่นตุๆ ขึ้นได้ พบว่าอาหารบางอย่าง เช่น หอมและกระเทียม เครื่องเทศ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วส่งกลิ่นออกมากับเหงื่อได้ เท้าที่ใส่ถุงเท้ารองเท้าอยู่ทั้งวันมีเหงื่ออับชื้นอยู่ตลอดทำให้แบคทีเรียเติบโตมาก เมื่อถอดถุงเท้ารองเท้าจะได้กลิ่นเหม็นโชยไปไกลได้ อากาศที่ร้อนอบอ้าวในฤดูร้อนและฤดูฝนทำให้มีเหงื่อมากกว่าปกติ อารมณ์ที่ตึงเครียด กระวนกระวายใจ ก็ทำให้เหงื่อออกได้ พบว่าการสูบบุหรี่ทำให้เหงื่อหลั่งมากขึ้นเช่นกัน แต่เหงื่อใสที่หลั่งโดยต่อมเหงื่อเอ็คครายน์นี้ช่วงแรกก็ไม่มีกลิ่น ต่อเมื่อเมื่อมีการเติบโตของแบคทีเรียจะเกิดกลิ่นตัวขึ้น พบว่าคนอ้วนและผู้ที่เป็นโรคเบาหวานมีโอกาสเกิดกลิ่นตัวง่ายกว่าคนทั่วไป การดูแลผิวพรรณไม่ให้เกิดกลิ่นตัว อาทิตยา / จ.กรุงเทพฯ A. ตามปกติเวลาตั้งครรภ์ ต่อมเหงื่ออะโปครายน์ที่หลั่งเหงื่อสีน้ำนมมักทำงานลดลง แต่ว่าที่คุณแม่ก็อาจส่งกลิ่นตัวได้ เพราะต่อมเหงื่อเอ็คครายน์ที่หลั่งเหงื่อใสทำงานมากขึ้น ทำให้ผิวหนังชื้นแฉะเชื้อแบคทีเรียเติบโตได้ดี โดยทั่วไปแนะนำว่าเวลาตั้งครรภ์ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่โปร่งบางและหลวมเพื่อให้เหงื่อระบายออกไปได้ง่าย ควรอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายวันละ 1-2 ครั้ง ใช้สบู่อ่อนฟอกตามตัวและตามซอกพับ ถ้าบริเวณใดอับชื้นง่าย เช่น รักแร้ ขาหนีบ หรือซอกนิ้วเท้า ก็ให้ใช้แป้งฝุ่นโรยเพื่อดูแลให้ผิวหนังบริเวณนั้นแห้ง เสื้อผ้าต้องซักให้สะอาด ผึ่งแดดให้แห้งสนิทได้ก็ดี เพราะเสื้อผ้าที่ไม่สะอาดและอับชื้นอยู่เสมอเป็นแหล่งเพาะพันธุ์เชื้อแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นตัวได้ นอกจากนั้นยังพบว่ากลิ่นตัวยังติดอยู่กับเสื้อผ้าได้ด้วย การโกนขนรักแร้ช่วยลดกลิ่นตัวได้ เพราะเชื้อแบคทีเรียชอบบริเวณที่อับชื้นอย่างเช่นที่รักแร้อยู่แล้ว ลดการรับประทานเครื่องเทศ เช่น หอม กระเทียม และลดการรับประทานหน่อไม้ฝรั่ง เพราะอาหารเหล่านี้ล้วนเสริมให้กลิ่นตัวมากขึ้นได้ ลดการดื่มเครื่องดื่มที่มีสารคาเฟอีนผสมอยู่ เช่น กาแฟ ชา และน้ำอัดลม สารคาเฟอีนกระตุ้นให้หลั่งเหงื่อได้มาก รวมทั้งงดการสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากก่อกลิ่นตัวแล้ว ยังเป็นอันตรายต่อลูกในครรภ์ด้วยครับ ถ้าดูแลรักษาตามแบบที่ว่าแล้วยังมีเหงื่อออกมากหรือมีกลิ่นตัวอยู่ ก็ควรเลือกใช้ยาลดเหงื่อ ยาดับกลิ่น หรือไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง การเลือกใช้ยาดับกลิ่นตัว ภัคจิรา / จ.ชลบุรี A. ยาลดเหงื่อ (antiperspirants) ที่ขายในท้องตลาดไม่ว่าในรูปครีม รูปแท่ง โลชัน แป้งฝุ่น หรือ โรลออน มักลดการหลั่งของเหงื่อได้ดีกว่าสเปรย์พ่น แต่จะเลือกใช้แบบใดก็ขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัว คือชอบว่าแบบใดที่ใช้ง่ายที่สุด ใช้แล้วไม่รู้สึกเหนียวเหนอะหนะ ใช้แล้วไม่แสบไม่คัน เมื่อทายาลดเหงื่อแล้วเหงื่อลดน้อยลง ย่อมเป็นการดับกลิ่นตัวไปด้วยทางอ้อม อย่างไรก็ตาม หากเหงื่อออกไม่มากแต่ก็มีกลิ่นตัว ขอแนะนำให้ใช้ยาดับกลิ่นตัวโดยตรงจะดีกว่าครับ ส่วน ยาดับกลิ่นตัว (deodorants) ไม่ลดการหลั่งของเหงื่อ ประกอบด้วยสารที่มีฤทธิ์ทำลายแบคทีเรียผสมกับสารที่มีกลิ่นหอม จึงทำให้กลิ่นตัวลดลงได้ ยาดับกลิ่นตัวในท้องตลาดก็มีอยู่หลากหลายรูปแบบกับยาลดเหงื่อนั่นเอง บางครั้งอาจมีอาการแพ้ ระคายเคือง ตามบริเวณที่ทายาดับกลิ่นตัวหรือยาลดเหงื่อได้ ควรเปลี่ยนชนิดดู เลือกใช้ชนิดที่โฆษณาว่าใช้แล้วเกิดแพ้ได้น้อย (hypoallergenic products) ถ้ายังแพ้อยู่ก็ควรไปพบแพทย์ผิวหนังเพื่อหาสาเหตุของการแพ้และหาวิธีกำจัดกลิ่นตัวที่เหมาะสมต่อไป เทคนิคต่างๆที่รักษากลิ่นตัว คุณภัทร / จ.ปทุมธานี A. เทคนิคทางการแพทย์ที่รักษากลิ่นตัว ในกรณีที่รักษาสุขอนามัย ใช้ยาลดเหงื่อยาดับกลิ่นแล้วไม่ได้ผล เช่น การดูดไขมันเพื่อเอาต่อมเหงื่ออะโปครายน์ออก (removal of apocrine sweat glands by superficial liposuction) การผ่าตัดต่อมเหงื่ออะโปครายน์ออก (removal of apocrine sweat glands by surgical excision) ยารับประทานบางชนิด (anticholinergic or beta-blocking drugs) การใช้เทคนิคไอออนโต (iontophoresis) การผ่าตัดปมประสาทซิมพาเทติก (sympathectomy) การฉีดสารพิษโบทูลินัม หรือ โบท็อกซ์ (botulinum toxin injection) มีงานวิจัยตีพิมพ์ในวารสารผิวหนังของอเมริกา (Archives of Dermatology) ศึกษาการฉีดสารโบท็อกซ์เพื่อลดกลิ่นตัว โดยใช้อาสาสมัคร 16 คน ให้สวมเสื้อยืดผ้าฝ้ายคอปกสีขาวเป็นเวลา 24 ชั่วโมง ห้ามใช้ยาดับกลิ่นยาลดเหงื่อ ห้ามรับประทานหอม กระเทียม หน่อไม้ฝรั่ง และห้ามสัมผัสกอดรัดกับคู่ครอง 2 วันก่อนและระหว่างการทดลอง หลังจากครบ 24 ชั่วโมงจะมีการดมทดสอบกลิ่นตัว (sniff test) หลังจากนั้นผู้เข้ารับการทดลองจะได้รับการฉีดโบท็อกซ์เข้าในรักแร้ด้านหนึ่ง ส่วนอีกด้านถูกฉีดด้วยน้ำเกลือเปล่า หลังจากนั้น 7 วัน คณะผู้วิจัยจะดมทดสอบกลิ่นตัวอีกครั้ง ผลการทดลองพบว่ารักแร้ด้านที่ฉีดโบท็อกซ์มีกลิ่นและมีเหงื่อลดลงอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ เมื่อเทียบกับด้านที่ฉีดน้ำเกลือเปล่า อย่างไรก็ตามเทคนิคเหล่านี้อาจมีข้อแทรกซ้อนและมีค่าใช้จ่ายสูงมาก จึงควรเลือกใช้ในกรณีที่จำเป็นจริงๆ เท่านั้นครับ ที่มาข้อมูล : นิตยสาร Health Today http://lifestyle.th.msn.com/health/tips/article.aspx?cp-documentid=3697994http://www.geocities.com/girlseed2006/tiptrick.htm http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=citylivingzone&month=07-2007&date=31&group=1&gblog=2 http://blog.spu.ac.th/moon/2008/12/03/entry-2 http://www.showded.com/myprofile/mainblog.php?user=diavolo&jucId=77062 |
ขบวนการ…กำจัดกลิ่น
