เที่ยว "5ภูสวย" รับลมหนาว โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ ภูชี้ฟ้า ภูยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ช่วงนี้คนกรุงเทพฯกำลังตื่นเต้นกับสายลมหนาวที่พัดผ่านมาทักทาย หลังจากที่ทนร้อนทนเปียกกันมาหลายเดือน แต่อยู่ในเมืองถึงจะหนาวก็หนาวไม่สะใจ แล้วก็ไม่รู้ว่าจะหนาวอยู่อีกสักกี่วันกี่สัปดาห์ ดังนั้นหากอยากหนาวนานและหนาวจัด ก็เตรียมแพ็คกระเป๋าไปเจอลมหนาวกันบนยอดภูต่างๆกันดีกว่า รับรองว่าได้หนาวกันจับใจ กับ 5 ภูที่เรานำมาเสนอกันวันนี้ "ยลทะเลหมอกบนภูชี้ฟ้า" ในหน้าหนาวอย่างนี้นอกจากจะไปรับลมหนาวแล้ว หลายคนก็ยังอยากเห็นทะเลหมอกสวยเป็นปุย ดังนั้นหากมาที่ "ภูชี้ฟ้า" ในจังหวัดเชียงราย รับรองไม่ผิดหวัง เพราะมีคนกล่าวว่าทะเลหมอกที่นี่สวยงามและมีเสน่ห์มากที่สุด ในหน้าหนาวของทุกๆปีจุดหมายของหลายๆ คนจึงมุ่งไปที่ภูชี้ฟ้า ในจังหวัดเชียงราย เพื่อไปชมทัศนียภาพที่งดงาม ทั้งพระอาทิตย์ยามเช้า ทะเลหมอกขาวเป็นปุย และอากาศหนาวๆ ที่แสนสดชื่น ชื่อของภูชี้ฟ้าได้มาจากลักษณะของหน้าผาที่มีปลายยอดแหลมชี้ขึ้นสู่ท้องฟ้า หน้าผานี้ยื่นเป็นแนวยาวไปทางฝั่งประเทศลาว และที่ราบบนหน้าผาก็เป็นจุดชมวิวที่นักท่องเที่ยวจะขึ้นไปยืนชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกกันบนนี้ ผาหล่มสัก สัญลักษณ์ของภูกระดึง และหากใครได้มาเยือนภูชี้ฟ้าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ก็จะได้ชมดอกเสี้ยวหรือชงโคป่า ที่จะออกดอกสีขาวอมชมพูบานสะพรั่งไปทั่วบริเวณเชิงภูชี้ฟ้า เป็นภาพที่โรแมนติกเหมาะกับวันวาเลนไทน์ได้เป็นอย่างดี "ภูกระดึง ตราตรึงความงาม" อุทยานแห่งชาติภูกระดึงในจังหวัดเลยก็ยังคงเป็นอีกสถานที่หนึ่งที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเสมอมา กับคำว่า "ครั้งหนึ่งในชีวิต ข้าคือผู้พิชิตภูกระดึง" ก็ยังเป็นป้ายที่หลายๆ คนอยากไปถ่ายรูปคู่ด้วย ด้วยทัศนียภาพที่งดงามชวนเที่ยว ประกอบไปด้วยป่าเขาที่มีธรรมชาติอันบริสุทธิ์งดงาม อากาศที่เย็นสบาย มีป่าไม้ ลำธาร ทุ่งหญ้า และดอกไม้สวยๆ ให้ชื่นชมตามที่ธรรมชาติสรรค์สร้างขึ้นมา จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าใครๆก็ยังนึกถึงภูกระดึงทุกครั้งที่ลมหนาวโชยมา ชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ภูกระดึง บนภูกระดึงนี้จะมีสถานที่ท่องเที่ยวให้ทัศนามากมาย เช่น อย่างแหล่งท่องเที่ยวไฮไลต์ที่ถ้าเดินขึ้นภูกระดึงมาแล้วจะต้องไม่พลาดไปชมกันก็มี "ผานกแอ่น" สถานที่ชมพระอาทิตย์ยามทอแสงแรกของวัน และยังมองเห็นทิวทัศน์เบื้องล่างเป็นท้องทุ่งและเทือกเขาที่งดงามจับตา และที่พลาดไม่ได้ก็คือ "ผาหล่มสัก" สัญลักษณ์ของภูกระดึงที่มีต้นสนแผ่กิ่งก้านอยู่ริมชะง่อนหินที่ยื่นออกไปในอากาศ ที่หลายๆคนต้องเข้าไปนั่งถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก และมาชมพระอาทิตย์ตกดินกันที่นี่ และนอกจากผาแล้วที่นี่ก็ยังมีน้ำตกให้เที่ยวกันเช่นที่ "น้ำตกเพ็ญพบใหม่" ที่ในช่วงเดือนธันวาคมใบเมเปิลบริเวณนั้นจะเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดง ก่อนจะแห้งและร่วงหล่นไป และก็ยังมีน้ำตกตาดร้อง น้ำตกวังกวาง สระอโนดาด เป็นจุดท่องเที่ยวที่หลายๆ คนแวะชมกัน สัมผัสอากาศหนาวสุดในสยามได้ที่ภูเรือ "ภูเรือ หนาวสุดในสยาม" หากอยากไปสัมผัสความหนาวแบบเข้ากระดูก ภูเรือคงจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด เพราะที่นี่มีสโลแกนว่า "เมืองแห่งทะเลภูเขา สุดหนาวในสยาม ดอกไม้งามสามฤดู" เพราะมีทั้งทิวทัศน์ที่งดงาม สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกอันน่าประทับใจได้ที่บริเวณผาโหล่นน้อยและที่ยอดภูเรือ โดยในช่วงเดือนธันวาคมหรือมกราคมที่อากาศหนาวจัด ก็จะมีแม่คะนิ้งให้ได้ชมกันด้วย และอย่าลืมไปไหว้ขอพร "พระพุทธรูปนาวาบรรพต" อันเป็นที่เคารพศรัทธาของชาวภูเรือ ที่ประดิษฐานในซุ้มเพื่อความเป็นสิริมงคลกันก่อน และด้วยความที่ภูเรือเป็นจุดที่มีอากาศหนาว จึงสามารถเพาะปลูกพืชเมืองหนาวได้หลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นต้นคริสต์มาส ดาวเรือง ไฮเดรนเยีย พิทูเนีย เห็ดหอม องุ่น ฯลฯ ซึ่งก็มีสวนหรือฟาร์มพืชผักหลายแห่งที่เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว หรือหากอยากชมดอกไม้เมืองหนาวสวยๆ ก็สามารถไปชมกันได้ที่ "ตลาดไม้ดอกเมืองหนาวบ้านหนองบง" ที่เป็นแหล่งจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับแหล่งใหญ่ ที่นอกจากจะมากไปด้วยพืชพันธ์ ไม้ดอกไม้ประดับสวยสดชื่นแล้ว ที่นี่ยังมี "เทอร์โมมิเตอร์ยักษ์" ตั้งโดดเด่นเป็นสัญลักษณ์แห่งภูเรือ เอาไว้ให้นักท่องเที่ยวถ่ายรูปและรับรู้อุณหภูมิว่าวันนี้หนาวกี่องศา ทิวเขาสลับซับซ้อน ทิวทัศน์ของดอยภูคา "ชมพูภูคา ดอกไม้งามแห่งภูคา" อุทยานแห่งชาติดอยภูคา ตั้งอยู่ในเขต อ.ปัว จ.น่าน ดอยภูคาได้รับสมญานามว่าเป็น "ป่าต้นน้ำ ป่าดึกดำบรรพ์ปลายทางหิมาลัย ขุนเขาใต้ทะเล" เป็นเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน และถือเป็นส่วนหนึ่งของปลายเทือกเขาหิมาลัย โดยมียอดภูคาเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของจังหวัดน่าน สูงถึง 1,980 เมตร ดอยภูคาเป็นต้นแม่น้ำสำคัญหลายสาย เช่น แม่น้ำน่าน ลำน้ำปัว และเป็นแหล่งของพันธุ์ไม้หายากใกล้สูญพันธุ์หลายชนิด ที่ลือชื่อโด่งดังมากเป็นพิเศษ ได้แก่ "ชมพูภูคา" พันธุ์ไม้หายากที่หาดูได้เพียงที่ดอยภูคาเพียงแห่งเดียวเท่านั้น จุดชมต้นชมพูภูคาที่เข้าถึงง่ายที่สุดจะอยู่ริมถนนห่างจากที่ทำการอุทยานฯไปทางเส้นที่มุ่งหน้าสู่อ.บ่อเกลือไป 5 กิโลเมตร ชมพูภูคา หนึ่งเดียวในโลกที่ จ.น่าน และด้วยเพราะเป็นพื้นที่สูงมีอากาศเย็นในเขตป่าดิบของอุทยานฯยังเป็นแหล่ง "ต้นเต่าร้างยักษ์" (ปาล์มดึกดำบรรพ์) และพบว่ามี เมเปิ้ลใบ 5 แฉก ที่ต่างจากเมเปิ้ลที่อื่นซึ่งมี 3 แฉกเท่านั้น ช่วงฤดูหนาวก็จะได้พบดอกนางพญาเสือโคร่งออกดอกสีชมพูบานสะพรั่งหวานทั่วทั้งดอยทั้งบริเวณที่ตั้งเต็นท์พักแรม ลานดูดาว และโดยรอบอุทยานฯ และยังเป็นแหล่งนกเฉพาะถิ่นที่หายากสองชนิด คือ นกมุ่นรกคอแดง และนกพงใหญ่พันธุ์อินเดีย หนาวนี้จึงเป็นอีกหนึ่งภูที่น่ายล "ภูทับเบิก" ชมภูเขากระหล่ำ ขึ้นไปรับความหนาวบนจุดสูงสุดแห่งเทือกเขาเพชรบูรณ์ ที่มีความสูงถึง 1,768 เมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ถือเป็นจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามแห่งหนึ่งของเมืองไทยในระดับอันซีนไทยแลนด์ ที่ในช่วงฤดูฝนและหนาวในวันท้องฟ้าเป็นใจจะมีหมอกให้ชมมากเป็นพิเศษ โดยจากจุดชมวิวธารพายุ สามารถมองเห็นทะเลหมอกที่ห่มคลุมผืนป่าดิบได้ชัดเจน ชมภูเขากะหล่ำที่ภูทับเบิก ที่ภูทับเบิกนี้ยังถือเป็นแหล่งปลูกกะหล่ำปลีแหล่งใหญ่ของไทย ที่มีแปลงกะหล่ำปลีกว้างใหญ่ปลูกกันบนภูเขาเป็นลูกๆ กินอาณาเขตนับร้อยไร่ มองดูเป็นทิวทัศน์ที่งดงามละลานตาไปอีกแบบหนึ่ง และนอกจากนั้นในช่วงกลางวันก็จะเห็นชาวเขามาวางแผงขายของอยู่ทั่วไปอีกด้วย และนอกจากจะเป็นมาชมทะเลหมอกและไร่กะหล่ำปลีแล้ว บริเวณจุดชมพระอาทิตย์ตกนั้น เมื่อมองไปในยามเย็นจะเห็นพระอาทิตย์ลับเหลี่ยมผา ครั้นพอค่ำมืดก็จะเห็นดาวบนดิน ด้วยแสงไฟระยิบระยับจากหมู่บ้านเบื้องล่างทำให้ดูคล้ายกับมีดาวลอยอยู่เกลื่อนดิน เป็นภาพที่น่าประทับใจอีกอย่างหนึ่งของภูทับเบิก ศูนย์บริการการท่องเที่ยว อำเภอภูเรือ โทร.0-4289-9004 อุทยานแห่งชาติภูเรือ โทร.0-4288-4144 ศูนย์ประสานงานการท่องเที่ยวจังหวัดเลย โทร.0-4281-2812, 0-4281-1405 อุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทร.0-4287-1333, 0-4287-1458 อุทยานแห่งชาติดอยภูคา โทร.0-5470-1000 วนอุทยานภูชี้ฟ้า โทร.0-5371-4914 ภูทับเบิก สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวเพชรบูรณ์โทร.0-5674-8650 ถึง 1 |