ทุกๆ อย่างในโลก มีแง่มุมมากมายให้ค้นหา
ของสิ่งเดียวกันสามารถให้ทั้งประโยชน์และโทษ
ขึ้นอยู่กับว่า ใครเป็นผู้ใช้..และใช้อย่างไร
หลายครั้งที่เราพบว่า
ขณะที่เรากำลัง สร้าง อะไรสักอย่างอยู่นั้น
กลับเป็นการ ทำลาย อะไรอีกหลายอย่าง
ของสิ่งเดียวกันสามารถให้ทั้งประโยชน์และโทษ
ขึ้นอยู่กับว่า ใครเป็นผู้ใช้..และใช้อย่างไร
หลายครั้งที่เราพบว่า
ขณะที่เรากำลัง สร้าง อะไรสักอย่างอยู่นั้น
กลับเป็นการ ทำลาย อะไรอีกหลายอย่าง
ไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่าๆ โดยไม่ต้องเอาอะไรไปแลก
บางครั้งก็คุ้มค่า…กับการยอมเสียอะไรสักอย่าง
เพื่อที่จะได้อะไรอีกอย่างกลับมา
แต่ก็มีหลายครั้ง…ที่ลืมนึกไปว่า
ของที่ได้กลับมาไม่คุ้มค่าเท่ากับของที่เสียไป
บางครั้งก็คุ้มค่า…กับการยอมเสียอะไรสักอย่าง
เพื่อที่จะได้อะไรอีกอย่างกลับมา
แต่ก็มีหลายครั้ง…ที่ลืมนึกไปว่า
ของที่ได้กลับมาไม่คุ้มค่าเท่ากับของที่เสียไป
ขณะที่เราเดินเที่ยวอยู่ในศูนย์การค้า
เราก็จะเสียเวลาที่จะได้อ่านหนังสือเล่มโปรดที่อ่านค้างไว้
เราก็จะเสียเวลาที่จะได้อ่านหนังสือเล่มโปรดที่อ่านค้างไว้
เด็กวัยรุ่นที่นั่งพับนก จะต้องฉีกกระดาษนับร้อยชิ้น
ศิลปินที่โด่งดังบนเวที…กำลังทิ้งคนที่รักไว้ที่บ้าน
ไม่มีใครบอกได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับวันพรุ่งนี้
เป็นคำถามที่ไม่ต้องตอบก็ได้…แค่เอาไว้นึกดูเล่นๆ
ศิลปินที่โด่งดังบนเวที…กำลังทิ้งคนที่รักไว้ที่บ้าน
ไม่มีใครบอกได้ว่า จะเกิดอะไรขึ้นกับวันพรุ่งนี้
เป็นคำถามที่ไม่ต้องตอบก็ได้…แค่เอาไว้นึกดูเล่นๆ
ถ้ารู้ว่าวันหนึ่งหนังสือเล่มโปรดเล่มนั้นจะหายไป
เราจะไปศูนย์การค้าอยู่ไหม
เราจะไปศูนย์การค้าอยู่ไหม
ถ้าต้องเขียนจดหมาย
เพื่อบอกข่าวสำคัญให้กับใครสักคน
เราจะฉีกกระดาษเพื่อพับนกหรือเปล่า
ถ้าคืนหนึ่งกลับมาบ้านแล้วพบว่า
คนที่เรารัก..ไม่ได้อยู่เพื่อให้เรารักอีกต่อไป
เราจะยังออกจากบ้านไปอยู่ไหม
ความสำคัญและความจำเป็นของคน
ไม่เท่ากันก็จริง…
คนที่เรารัก..ไม่ได้อยู่เพื่อให้เรารักอีกต่อไป
เราจะยังออกจากบ้านไปอยู่ไหม
ความสำคัญและความจำเป็นของคน
ไม่เท่ากันก็จริง…
แต่การเสียไปเพื่อได้มานั้น
จะต้องอยู่บนความรอบคอบ
และคิดมาอย่างดีแล้วทั้งสองด้าน
ต้นไม้หนึ่งต้นไม่อาจสร้างไม้ขีดได้นับร้อยล้านก้าน
แต่ไม้ขีดก้านเดียว
อาจทำลายต้นไม้ได้นับร้อยล้านต้น
ไม่มีใครคิดแทนใครได้
จึงเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่า…
เราควรเสียอะไรไป เพื่อได้อะไรมา
และเรา…ควรเป็น ต้นไม้หรือไม้ขีดไฟ
จึงเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่า…
เราควรเสียอะไรไป เพื่อได้อะไรมา
และเรา…ควรเป็น ต้นไม้หรือไม้ขีดไฟ
"Love is like standing in the wet cement. The longer you stay, the harder it is to leave.
And you can never go without leaving your shoes behind."
"ความรักเหมือนซีเมนต์เปียก ยิ่งคุณยืนอยู่นานเท่าไหร่ ก็ยิ่งจากไปได้ยากเท่านั้น
และคุณจะไม่มีวันจากมาได้เลย โดยที่ไม่ได้ทิ้งรองเท้าไว้ "
www.tamdee.net