ข้อคิดดี ๆ ของ ศ.ดร.นพ.วิทยา นาควัชระ
วิธีทำให้ชีวิตให้โล่ง และ เบาขึ้น (กำลังทำอยู่อ่ะ) เมื่อเร็วๆ นี้ผมได้เปิดตู้เสื้อผ้าดูเห็นมีเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใช้เต็มตู้ไปหมด เคยนึกจะใช้เวลาเลือกเอาสิ่งที่เลิกใช้ไปแล้วไปบริจาคที่ไหนสักแห่งแต่ก็ยังไม่ได้ทำสักที เอาล่ะ...วันนี้เริ่มทำเสียที... ปรากฏว่า รื้อ ค้น ได้เสื้อ กางเกง เสื้อกันหนาวมากมายที่ไม่ได้ใ ช้แล้วหรือไม่อยากใช้แล้วนับเป็นร้อยชิ้น เมื่อเอาของออกจากบ้านไปบริจาคแล้ว มีความรู้สึกว่าตู้เสื้อผ้าโล่งขึ้น ตัวเองก็เบาลง ใจก็สบายขึ้นอย่างประหลาด รู้แล้วล่ะ...สิ่งที่ผมทำไปแล้วนั้น คือ การทำให้ชีวิตโล่งและเบาขึ้นนั่นเอง วันนี้เรามาคุยกันถึงวิธีทำให้ชีวิตเบาขึ้น โล่งขึ้น สบายขึ้นดีไหม? วิธีทำให้ชีวิตโล่ง และ เบาขึ้น เช่น... 1. เก็บของที่ไม่ใช้ เลิกใช้ เอาไปบริจาคให้ผู้เดือนร้อน เช่น เสื้อผ้า รองเท้า เฟอร์นิเจอร์เก่าๆ อย่าไปเสียดายกับของที่ไม่ใช้แล้วเลย 2. ลดงานที่เครียดๆ ลงบ้าง เช่นงานประชุมที่เอาจริงเอาจังงานที่แข่งขันและหวังผลสูงถ้าเลือกได้ ลาออกจากการเป็นกรรมการอะไรต่อมิอะไรเสียบ้างก็ได้บรรยากาศของการประชุมมักจะเครียดเสมอสารความเครียดก็หลั่งตลอดเวลา...รู้ไหม? 3. เลือกไปงานที่สำคัญและควรจะไปเท่านั้นไม่เช่นนั้น่เราจะไม่มีเวลาเป็นของตัวเองเลย 4. อ่านหนังสือพิมพ์ หรือนิตยสารให้น้อยลง โดยเฉพาะข่าวอาชญากรรมหรือข่าว เครียดๆ ที่ซ้ำกันทุกวัน 5. เลิกดูรายการทีวี.ที่เครียด หรือรายการข่าวหนักๆ ที่ซ้ำๆ กันทุกวัน เช่น รายการที่มีพิธีกรมานั่งเถียงกัน พูดแข่ง พูดแซวกัน 2-3 คนดูไปฟังไฟแทนที่จะสบายใจกลับเครียดมากขึ้น น่าเบื่อด้วยซ้ำ 6. อย่ารับปากหรือสัญญาว่าจะทำอะไรให้ใครๆ ง่ายๆ ด้วยความเกรงใจเลยหัดปฏิเสธให้เป็น 7. อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงคนอื่นเลย ทำได้ยากมากจะทำให้เราจมปลักอยู่กับความผิดหวังในตัวคนอื่น และเกลียดชังสังคมรอบตัว พยายามรักคนอื่น และยอมรับเขาตามความเป็นจริงเถิด ถ้ารักไม่ลง ก็มองข้ามเขาไป และลดความคาดหวังในตัวเขาลงด้วย เมื่อเวลาผ่านไป เราหันไปมองเขาใหม่ เราจะเข้าใจยอมรับและรักเขาตามความเป็นจริงได้มากขึ้น 8. หัดไปไหนมาไหนคนเดียว เป็นเพื่อนตนเองได้จะลดขั้นตอนและความยุ่งยากใจ เวลา จะต้องทำอะไรหรือไปไหนได้มากขึ้น 9. ลดความบ้างาน บ้าเงิน บ้าอำนาจ บ้าเกียรติยศชื่อเสียงลงบ้างจะทำให้คุณไ ม่ เครียดกับการเฆี่ยนตัวเองให้ทำงานหนัก และแข่งขันกับคนรอบข้างตลอดเวลาจนลืมสร้างมิตรและไม่เคยพอใจตัวเองเลยไม่ว่าจะได้มามากเท่าไร 10. ถ้าจะรักใครสักคน อย่าหลงรักเขาทั้งหมดของชีวิตและอย่าเข้าไปก้าวก่ายชีวิต เขาด้วย จงคิดเพียงจะอยู่ข้างๆ เขาก็พอแล้ว การรักแบบนี้จะทำให้รักกันได้นานๆ 11. ลองแบ่งเวลาวันละ 1 ชั่วโมง ล้างจิตใต้สำนึกที่ไม่ดีออกไปให้หมด ลองทำดูตามที่แนะนำมานะครับ เราจะรู้สึกว่าชีวิตโล่งและเบามากขึ้น เหมือนใส่เสื้อผ้าหลวมๆ ไม่คับ แคบ หรือรัดรึง อึดอัด เวลาตัวเองเบาๆ ใจสบายๆ ความคล่องตัวจะมีมากขึ้น
|
"อยู่อย่างสง่า"ของศ.ดร.นายแพทย์วิทยา นาควัชระ ตั้งใจจะมีชีวิตอยู่อย่างคนมีค่าและมีชีวิตชีวา... ความตั้งใจที่จะมีชีวิตอยู่เช่นนี้มีความสำคัญมาก ทำให้ชีวิตมีจุดเป้าหมาย และอยู่อย่างคนกระตือรือร้น มีชีวิตชีวา เหมือนนั่งเครื่องบินแล้วรูว่าจะไปลงที่จุดหมายปลายทางที่ใด ถ้าขาดความตั้งใจที่จะอยู่อย่างคนมีค่า ชีวิตจะมีแต่การเล่นสนุกไปวัน ๆ มีทั้งกินเล่น นอนเล่น เดินเล่น ทำงานเล่น ๆ เรียนเล่น ๆ และมักปล่อยชีวิตไปตามยถากรรม ทำให้ไม่น่ารัก ขาดสมดุล และไม่สร้างสรรค์ ถ้าตั้งใจจะมีชีวิตอยู่อย่างคนมีค่าแล้ว เราจะเลือกและจัดสรรเฉพาะสิ่งที่ดี ๆ มีคุณค่าให้กับชีวิตตนเอง ทั้งการกิน การนอน การออกกำลังกาย การคบเพื่อน การทำงาน การเลือกคู่ครอง การอบรมบุตรหลาน จะรู้จักเลือกกินอาหารที่พอดี นอนหลับให้เพียงพอ ดื่มนําให้มากพอ มีอารมณ์ขัน มีจิตใจรักเพื่อนมนุษย์ มองไกล ใฝ่ดี มีคุณธรรม มีวินัย รู้จักทำตัวให้คนรัก รู้จักทำงานเพื่อให้ตนเองมีค่า มีศาสนาไว้ยึดเหนี่ยวโดยเฉพาะในยามตกอับ ชีวิตก็จะเหมือนเครื่องบินที่บินขึ้นไปแล้ว และรู้ว่ามีสนามบินเตรียมพร้อมให้ลงได้อย่างปลอดภัย การทำตัวให้มีชีวิตชีวา กระชุ่มกระชวยอยู่เสมอ จะทำให้ต่อสู้กับความชราได้ดีมาก ถ้าขาดความตั้งใจจะมีชีวิตอยู่แล้ว มักจะปล่อยปละตัวเอง ไม่ดูแลตัวเอง ทอดทิ้งตัวเอง จิตใจก็ไม่ดี เหนื่อย เซ็ง ท้อใจ เสมอ และมักจะไม่ชอบตัวเองด้วย แล้วใครจะชอบบุคคลที่ทอดทิ้งตัวเองเล่า ? มาตั้งใจจะมีชีวิตอยู่อย่างคนมีค่าและมีชีวิตชีวาดีกว่า แค่นึกก็สนุกแล้วชีวิตนี้ จากหนังสือ "อยู่อย่างสง่า"ของศ.ดร.นายแพทย์วิทยา นาควัชระ |