ในพิธีศพของคุณปู่ท่านนึง คุณย่าได้สนทนากับหลานสาวของเธอ
หลานสาว : คุณย่า ค่ะ คุณปู่ท่านเสียชีวิตได้อย่างไรค่ะ ในเมื่อท่านก็ยังแข็งแรงดีอยู่นี่ค่ะ
คุณย่า : ใช่จ๊ะ คุณปู่ยังแข็งแรงอยู่มาก แต่ยังมีบางเรื่องที่หนูยังไม่รู้ คือเราตกลงกันว่าจะมีอะไรกันในทุกเช้าวันอาทิตย์
หลานสาว : แล้วมันเกี่ยวกันอย่างไรล่ะค่ะคุณย่า
คุณย่า : เกี่ยวสิ เพราะคุณปู่ท่านเป็นโรคหัวใจอ่อนๆอยู่
หลานสาว : แล้วไงต่อละค่ะ
คุณย่า : ทุกครั้งที่เรามีอะไรกัน ท่านจะใช้เสียงของระฆังในโบสถ์ เป็นตัวกำหนดจังหวะ แต่น่าเศร้าจริงๆ ที่วันนั้นรถขายไอติมขับผ่านหน้าบ้าน แถมยังรัวกระดิ่งไม่ยั้งเลย ......
http://blog.fukduk.tv
ว่าด้วยเรื่องของการผายลม(จากการสำรวจจาก POST )
เรามาพิจารณานิสัยใจคอของคนจากการผายลมได้ดั้งนี้
คนใจเย็น : คนที่กลั้นผายลมจนถึงจุดละเบิด
คนไม่จริงใจ : คนที่ผายลมแล้วหันไปจ้องหน้าเด็กคนข้างๆ
คนงก : คนที่ชอบยืนดมกลิ่นผายลมของตัวเอง
คนขี้โอ่ : คนที่ผายลมเสียงดังสนั่นแล้วยืนหัวเราะชอบใจ
คนโชคร้าย : คนที่พยายามผายลมขณะที่เอามือตบไปด้วยแต่พลาด
นักวิทยาศาสตร์ : คนที่สามารถวิเคราะห์ได้หลังจากสูดกลิ่นผายลมเข้าไปว่าอาหารก่อนหน้า
นั้นประกอบด้วยคาร์โบไฮเดรต โปรตีน ไขมัน อย่างล่ะกี่เปอร์เซ็น
คนซาดิสต์ : คนที่ผายลมในผ้าห่มแล้วกดหัวคู่นอนให้เข้าไปดม
คนเจ้าเล่ห์ : คนที่ผายลมพร้อมกับกระแอมเบาๆ
คนที่สุภาพ : คนที่กล่าวขอโทษั้งก่อนและหลังผายลมแม้จะอยู่เพียงคนเดียวก็ตาม
คนผู้ดี : คนที่หลั้นผายลมไว้หลายชั่วโมงจนท้องอึดเพื่อเก็บไว้กลับไปผายลมที่บ้าน
คนที่มั่นคง : คนที่ผายลมเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง และยาวนาน
คนอำมหิต : คนที่ผายลมไร้กลิ่น แต่กลิ่นเหม็นร้ายกาจ
คนที่ดีแต่พูด : คนที่ผายลมดังปัง แต่ไร้กลิ่น
คนหลายใจ : คนที่ผายลมด้วย ปัสสาวะและอุจจาระในเวลาเดียวกัน
คนที่เป็นแพทย์ : คนที่ล้างมือก่อนผายลมทุกครั้ง
คนใจบุญ : คนที่เวลาจะผายลมจะไปยืนต้นลมเพื่อให้ทุกคนได้รับอนิสงค์โดยทั่วกัน