10 สารต้านอนุมูลอิสระ
10 สารต้านอนุมูลอิสระ
1.สารสกัดจากเมล็ดองุ่น
สารซูเปอร์แอนตี้ออกซิแดนท์คุณค่าสูงกว่าวิตามินซี 20 เท่า และวิตามินอี 50 เท่า อยู่ในกระแสเลือดได้นานถึง 72ชม.สามารถป้องกันและลดการทำลายล้างจาก สารอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกายเราตลอดเวลา ทั้งจากปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน โดยเฉพาะระบบหลอดเลือด หัวใจ ผิวหนัง และตา ช่วยชะลอการเสื่อมของผิวพรรณไม่ให้แก่ก่อนวัยอย่างตรงจุด ปริมาณการใช้ วันละ 20-60 มก.
2.ชาเขียว
สารต้านอนุมูลอิสระประเภทฟลาโวนอยด์หลายชนิด โดยเฉพาะสาร EGCG ที่มีฤทธิ์มากกว่าวิตามินอีถึง 20 เท่า สามารถลดอัตราการเป็นมะเร็งของอวัยวะ โดยเฉพาะมะเร็งปอด, มะเร็งลำไส้, มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งตับ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเป็นพิษจากการสูบบุหรี่ ปริมาณการใช้ วันละ 300-1,000 มก.
3. สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส
ช่วยแก้ปัญหาเรื่อง ฝ้าด้วยการควบคุมการทำงานของกระบวนการสร้างเม็ดสี ให้อยู่ในสภาวะที่สมดุล มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ปริมาณการใช้ วันละ 75 มก.
4. โคเอนไซม์คิวเท็น
สร้างพลังงานในระดับเซลล์ให้ทำงานได้อย่างปกติ เซลล์ที่ต้องการพลังงานสูงและต้องการโคเอนไซม์คิวเท็นมากเป็นพิเศษ ได้แก่ เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์สมอง เพื่อให้มีความตื่นตัว เพิ่มทักษะในการจดจำและผ่อนคลายจากความตึงเครียด ส่วนเซลล์ผิวหนัง ต้องการโคเอนไซม์คิวเท็นเพื่อช่วยฟื้นฟูความสดใส ปริมาณการใช้ วันละ 6-15 มก.
5.เนชันรัลเบต้าแคโรทีน
บำรุงสายตาและผิวพรรณ ป้องกันการเกิดมะเร็งที่ปอดจากการสูบบุหรี่ ช่วยลดการก่อเซลล์มะเร็งที่ผิวหนัง เบต้าแคโรทีนจากธรรมชาติที่สกัดได้จากสาหร่าย เป็นแหล่งของเบต้าแคโรทีนที่เข้มข้น และปลอดภัย ปริมาณการใช้ วันละ 6-15 มก.
6. ลูติน
เป็นสารธรรมชาติพบได้มากในพืชผักที่มีสีเขียวเข้ม เช่น ผักกาดเขียวใบหยิก ผักปวยเล้งลูตินจะเป็นสารอาหารที่ช่วยป้องกันการเสื่อมของจุดรับภาพและจอ ประสาทตาได้ดีปริมาณการใช้ วันละ 6-20 มก.
7. กรดอัลฟาไลโปอิค
สารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติมีบทบาทสำคัญในการช่วยปรับปรุงกระบวนการเผาผลาญ น้ำตาลให้เป็นพลังงานจึงช่วยป้องกันและบรรเทาโรคแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวาน ได้ดีปริมาณการใช้ วันละ 50-200 มก.
8.สารสกัดจากใบแปะก๊วย
ป้องกันความเสื่อมของเซลล์สมองช่วยบำรุงสุขภาพสมองอย่างมีประสิทธิภาพและ เป็นที่ยอมรับทั่วโลก เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และยังช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตันที่สมองเช่นกัน ปริมาณการใช้ วันละ 40-80 มก.
9. วิตามินซี
ป้องกันโรคหวัด และบรรเทาอาการภูมิแพ้ ช่วยสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวพรรณ คลายความเครียด ความอ่อนเพลีย แก้สภาวะการเป็นหมันในผู้ชาย โดยช่วยเพิ่มความแข็งแรง และปริมาณของตัวอสุจิอีกด้วยปริมาณการใช้ วันละ 1,000-4,000 มก.
10. วิตามินอี
บำรุงผิวพรรณ ป้องกันโรคหัวใจและการอุดตันของเส้นเลือดในหัวใจ ทั้งยังช่วยป้องกันการกลายพันธุ์ของเซลล์อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง ต่างๆปริมาณการใช้วันละ200-400มก.
1.สารสกัดจากเมล็ดองุ่น
สารซูเปอร์แอนตี้ออกซิแดนท์คุณค่าสูงกว่าวิตามินซี 20 เท่า และวิตามินอี 50 เท่า อยู่ในกระแสเลือดได้นานถึง 72ชม.สามารถป้องกันและลดการทำลายล้างจาก สารอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกายเราตลอดเวลา ทั้งจากปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายใน โดยเฉพาะระบบหลอดเลือด หัวใจ ผิวหนัง และตา ช่วยชะลอการเสื่อมของผิวพรรณไม่ให้แก่ก่อนวัยอย่างตรงจุด ปริมาณการใช้ วันละ 20-60 มก.
2.ชาเขียว
สารต้านอนุมูลอิสระประเภทฟลาโวนอยด์หลายชนิด โดยเฉพาะสาร EGCG ที่มีฤทธิ์มากกว่าวิตามินอีถึง 20 เท่า สามารถลดอัตราการเป็นมะเร็งของอวัยวะ โดยเฉพาะมะเร็งปอด, มะเร็งลำไส้, มะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งตับ นอกจากนี้ยังช่วยลดความเป็นพิษจากการสูบบุหรี่ ปริมาณการใช้ วันละ 300-1,000 มก.
3. สารสกัดจากเปลือกสนฝรั่งเศส
ช่วยแก้ปัญหาเรื่อง ฝ้าด้วยการควบคุมการทำงานของกระบวนการสร้างเม็ดสี ให้อยู่ในสภาวะที่สมดุล มีประโยชน์ต่อผิวพรรณ ปริมาณการใช้ วันละ 75 มก.
4. โคเอนไซม์คิวเท็น
สร้างพลังงานในระดับเซลล์ให้ทำงานได้อย่างปกติ เซลล์ที่ต้องการพลังงานสูงและต้องการโคเอนไซม์คิวเท็นมากเป็นพิเศษ ได้แก่ เซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ เซลล์สมอง เพื่อให้มีความตื่นตัว เพิ่มทักษะในการจดจำและผ่อนคลายจากความตึงเครียด ส่วนเซลล์ผิวหนัง ต้องการโคเอนไซม์คิวเท็นเพื่อช่วยฟื้นฟูความสดใส ปริมาณการใช้ วันละ 6-15 มก.
5.เนชันรัลเบต้าแคโรทีน
บำรุงสายตาและผิวพรรณ ป้องกันการเกิดมะเร็งที่ปอดจากการสูบบุหรี่ ช่วยลดการก่อเซลล์มะเร็งที่ผิวหนัง เบต้าแคโรทีนจากธรรมชาติที่สกัดได้จากสาหร่าย เป็นแหล่งของเบต้าแคโรทีนที่เข้มข้น และปลอดภัย ปริมาณการใช้ วันละ 6-15 มก.
6. ลูติน
เป็นสารธรรมชาติพบได้มากในพืชผักที่มีสีเขียวเข้ม เช่น ผักกาดเขียวใบหยิก ผักปวยเล้งลูตินจะเป็นสารอาหารที่ช่วยป้องกันการเสื่อมของจุดรับภาพและจอ ประสาทตาได้ดีปริมาณการใช้ วันละ 6-20 มก.
7. กรดอัลฟาไลโปอิค
สารต้านอนุมูลอิสระธรรมชาติมีบทบาทสำคัญในการช่วยปรับปรุงกระบวนการเผาผลาญ น้ำตาลให้เป็นพลังงานจึงช่วยป้องกันและบรรเทาโรคแทรกซ้อนในผู้ป่วยเบาหวาน ได้ดีปริมาณการใช้ วันละ 50-200 มก.
8.สารสกัดจากใบแปะก๊วย
ป้องกันความเสื่อมของเซลล์สมองช่วยบำรุงสุขภาพสมองอย่างมีประสิทธิภาพและ เป็นที่ยอมรับทั่วโลก เพิ่มการไหลเวียนของโลหิต และยังช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดอุดตันที่สมองเช่นกัน ปริมาณการใช้ วันละ 40-80 มก.
9. วิตามินซี
ป้องกันโรคหวัด และบรรเทาอาการภูมิแพ้ ช่วยสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจน เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิวพรรณ คลายความเครียด ความอ่อนเพลีย แก้สภาวะการเป็นหมันในผู้ชาย โดยช่วยเพิ่มความแข็งแรง และปริมาณของตัวอสุจิอีกด้วยปริมาณการใช้ วันละ 1,000-4,000 มก.
10. วิตามินอี
บำรุงผิวพรรณ ป้องกันโรคหัวใจและการอุดตันของเส้นเลือดในหัวใจ ทั้งยังช่วยป้องกันการกลายพันธุ์ของเซลล์อันเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็ง ต่างๆปริมาณการใช้วันละ200-400มก.