คุณๆประสบกันบ้างรึเปล่าว่า ในชีวิตไม่มีคนมาจีบ ทั้งๆที่หน้าตาดี หรือไม่ก็ ทำไมไม่มีแฟนเป็นตัวเป็นตนกับเค้าหว่า?...
บางทีหน้าตาดีของเรา นิสัยดีของเรา อาจไม่ตรงกับใจเขา ถ้าเอาหลักการตลาดมาอธิบายก็ต้องบอกว่า สินค้าดีไม่ใช่จะการันตีว่าจะขายดีเสมอไป…
Product มันเป็นแค่ P ตัวที่หนึ่ง ยังต้องดู Price (ราคา), place (ช่องทางการจัดจำหน่าย), และ Promotion ควบคู่ไปด้วย
* Price *
ของเราไม่ได้หมายถึงสินสอด แต่หมายถึงสิ่งที่เขาต้องจ่ายเพื่อมาจีบหรือเป็นแฟนเรา บางคนตั้งกำแพงเยอะว่าแฟนฉันต้องแบบนั้นแบบนี้ เจ้ากี้เจ้าการ เปลี่ยนแปลงชีวิตแฟนใหม่ตั้งแต่หัวจรดเท้า เท้าจรดหัว ขี้หึง จุกจิก... แบบนี้แปลว่าคุณตั้งราคาคุณไว้สูง คนจะเข้าหาคุณต้องมีรถขับ ต้องรวย ต้องหล่อ อันนี้ก็ถือเป็นราคาที่คุณตั้งไว้เหมือนกัน
* Place *
คือช่องทางการจัดจำหน่าย แต่ประยุกต์มาอธิบายได้ว่า คุณมีช่องทางให้เขาพบปะเจอะเจอได้มากแค่ไหน บางคนมีชีวิตอยู่สองที่ คือบ้านกับมหาวิทยาลัย บางคนอยู่เฉพาะเฝ้าโต๊ะกลุ่มโต๊ะเดียว เกาะเพื่อนแจ แถมยังไม่เคยทำกิจกรรมอะไรเลย เลิกปุ๊บกลับบ้าน มีรถที่บ้านมารับ ไม่มีใครรู้จักพบเห็นอะไรดีๆในตัวคุณเท่าไหร่ หรือมีคนชอบแต่ไม่เคยมีโอกาสแม้แต่จะได้ยิ้มให้ เคยไหมครับเห็นโฆษณาในทีวี แล้ววิ่งไปดูในห้าง ไม่มีขาย ร้านปากซอยก็ไม่มี ที่ไหนก็ไม่มี จนไม่อยากซื้อแล้ว
* Promotion *
อันนี้ถ้าดีจริง แจ๋วจริง ไม่ต้องใช้มากหรอกครับ Promotion ทางการตลาดหมายถึงการส่งเสริมการขาย พวกประชาสัมพันธ์ การสร้างภาพต่างๆ การลดแลกแจกแถม .. ประเภทจีบวันนี้ดูหนังฟรีสองเรื่อง อย่างคนแถวนี้ เธอก็ลุกมาทำไดอารี่ เอารูปสวยๆปิ๊งๆของเธอไปแปะไว้ ผมก็อนุมานเอาว่าเธอจะทำโปรโมชั่นตัวเธอเอง การเป็นนักกีฬา เป็นหัวหน้าห้อง เป็นลีดเดอร์ เป็นคนเรียนเก่ง แล้วได้รับการยกย่องเชิดชู เป็นตัวแทนนักเรียน ได้รางวัลโน่นนั่นนี่ ล้วนแล้วแต่เป็นการ Promotion ในเชิง PR ครับ
สมัยนี้เขาว่ากันไปถึง P ตัวที่ห้าที่หกแล้ว คือ...
* Packaging *
ถ้าประยุกต์มาก็น่าจะหมายถึง บุกลิค หน้าตา การแต่ง ตัวการพูดจา อะไรที่ดูได้ ฟังได้
ตัวที่หกคือ People ปกติหมายถึงคนที่ทำงานเกี่ยวข้องกับสินค้าบริษัทนั้นๆ แต่กรณีที่เราคุยกัน ผมว่ามันคือเพื่อนที่คุณคบหาอยู่ พ่อแม่ พี่น้อง ซึ่งจะส่งผลถึงภาพพจน์คุณด้วย สมมติมีคนมาจีบคุณ เป็นพวกครอบครัวเหลิมๆเนี่ย เอามั้ยล่ะ.. ง่า.. อย่าคิดมาก