เรื่อง : คัมภีร์ทอง ในชีวิตจริงนั้น การทำธุรกิจแบบห้างหุ้นส่วนจำกัดโดยที่ไม่ได้วางแผนไว้อย่างดีนั้น มักจะจบหรือพังในไม่ช้า แต่หากวางแผนและไตร่ตรองอย่างดีแล้ว หุ้นส่วนจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จได้อย่างไม่ต้องสงสัย จากผลการสำรวจในต่างประเทศพบว่าการบริหารธุรกิจแบบหุ้นส่วนจะอยู่รอดนานกว่าธุรกิจที่บริหารคนเดียว การบริหารทั้งสองแบบมีทั้ง ข้อดี และ ข้อเสีย แต่แบบไหนจะเหมาะกับคุณ
ข้อดี * หุ้นส่วนช่วยแบ่งรับค่าใช้จ่ายตอนเริ่มธุรกิจ * หุ้นส่วนช่วยแบ่งงานและความรับผิดชอบ * หุ้นส่วนช่วยแบ่งรับความเสี่ยงทางธุรกิจ * เป็นการระดมพลังสมองและทักษะต่างๆ ที่จะเอื้อให้บริษัทประสบความสำเร็จได้ดีกว่าหัวเดียว * หุ้นส่วนช่วยสนับสนุนและกระตุ้นการทำงานซึ่งกันและกัน ข้อด้อย * การเป็นหุ้นส่วนหมายถึงการแบ่งรับหนี้สินด้วย หากหุ้นส่วนของคุณถอนตัวออกไป นั่นหมายความว่าคุณต้องรับภาระหนี้สินทั้งหมดไม่ใช่ครึ่งเดียวหรือบางส่วน * แบ่งกำไร * คุณไม่มีอำนาจเด็ดขาดในการบริหารธุรกิจ ต้องขอความคิดเห็นของผู้อื่นในการตัดสินใจ ซึ่งบางทีอาจนำไปสู่การทะเลาะได้ * ความสัมพันธ์ฉันท์เพื่อนอาจไม่ราบรื่นในความสัมพันธ์แบบหุ้นส่วน เหมือนดังคำคมของจอห์น ดี ร้อกกี้เฟลเลอร์ที่ว่า “มิตรภาพที่เกิดบนเส้นทางธุรกิจดีกว่าธุรกิจที่เกิดขึ้นบนเส้นทางมิตรภาพ” คุณควรมีหุ้นส่วนหรือไม่ หากคุณเป็นคนชอบทำงานคนเดียว ระวังนะ เพราะยิ่งคุณทำงานคนเดียว คิดคนเดียว ตัดสินใจคนเดียวมานานแค่ไหน คุณก็ยิ่งจะรับสภาพที่ต้องรับฟังความคิดคนอื่นได้ยาก นอกจากนี้แล้วหุ้นส่วนบางคนอาจไม่ได้ทำงานหนักเท่าคนอื่น แต่ต้องการจะได้ผลตอบแทนเท่ากัน หากระดับความอดทนของคุณไม่มากพอที่จะรับความไม่เท่าเทียมกันแบบนี้ล่ะก็ คุณก็ไม่ควรมีหุ้นส่วน
แล้วหุ้นส่วนที่เล็งไว้เหมาะกับคุณหรือเปล่า การเป็นหุ้นส่วนบริษัทก็เหมือนการแต่งงาน คุณควรจะใช้เวลาและพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนจะตัดสินใจเลือก คำถามต่อไปนี้จะช่วยคุณตัดสินใจดีขึ้น * คุณกับเขามีเป้าหมาย แรงกระตุ้นและสไตล์การทำงานเหมือนกันหรือไม่ * คุณกับเขามีมุมมอง วิสัยทัศน์ ความคิดริเริ่ม และวัตถุประสงค์ในการดำเนินธุรกิจเหมือนกันหรือไม่ * ทักษะและจุดแข็งของแต่ละคนเอื้อประโยชน์ซึ่งกันและกันหรือไม่ * คุณกับเขาคุยกันแล้วรู้สึกสบายใจ น่าคบหา และให้ความเคารพใช่หรือไม่ * คุณรู้สึกว่าคุณไว้ใจคน ๆ นี้ได้ใช่หรือไม่ หากคุณคิดจะทำธุรกิจกับเพื่อนหรือญาติ พึงระวังไว้ว่าการเข้ากันได้ดีกับคนๆ หนึ่งในสังคมกับการเข้ากันได้เมื่อต้องเจอความเครียดและเหนื่อยล้าจากการทำธุรกิจนั้นมันคนละเรื่องกัน มีเพื่อนที่เสียเพื่อนเพราะธุรกิจมานักต่อนักแล้ว การเป็นหุ้นส่วนนั้นเข้าง่ายกว่าออก หากคุณต้องการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ขอแนะนำให้คุณเขียนหน้าที่และความรับผิดชอบของหุ้นส่วนแต่ละคนให้ชัดเจนในสัญญา เช่น ใครจะรับผิดชอบเรื่องตัดสินใจเรื่องเงิน จะลงทุนเท่าไหร่ ใครได้ประโยชน์ แบ่งผลประโยชน์อย่างไร และใครจะตัดสินใจหากการบริหารธุรกิจแบบ “หุ้นส่วน” มันไปไม่รอด คุณควรปรึกษานักบัญชีและนักกฎหมายตั้งแต่เริ่มร่างสัญญา ที่สำคัญคือไม่ต้องเร่งรีบ ให้ใช้เวลาตึกตรองให้ดี อย่างที่บอกไว้ข้างต้น หุ้นส่วนเหมือนการแต่งงาน จะแต่งกับใครสักคนคุณก็ควรจะอยู่กับเขาให้ได้นานตลอดไป เครดิตภาพ :www.wsd.nz.com www.smethailandclub.com |