สีเพื่อเพิ่มยอดขาย

Olivia Ong - True Colors สีกระตุ้นยอดขาย สีเป็นส่วนหนึ่งในธรรมชาติที่มีอิทธิพลต่อมนุษย์มากที่สุด โสตประสาทการรับรู้จากสีที่มีพลังทำให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกและพฤติกรรมของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตบนโลกนี้เป็นอย่างมาก สีมีหลายหมื่นหลายแสนเฉดจากแม่สีเพียงไม่กี่สี ต่อยอดแยกสีออกไปมหาศาล สีเป็นตัวแทนของการทรงสร้างของพระเจ้าที่เป็นเสมือนศิลปินเอกบุคคลแรกของจักรวาล และสีคือตัวแทนของชีวิตไม่เพียงที่จะมีผลด้านอารมณ์ความรู้สึกอย่างเดียว แต่สียังเป็นบทสะท้อนด้านจิตใจด้วยเช่นกัน นักออกแบบ นำสีมาเป็นเสมือนการสร้างบรรยากาศในผลงานทั้ง 2 มิติและ 3 มิติ โดยเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ผลงานออกแบบครบองค์ประกอบมากที่สุด พลังแห่งสี ยังมีอิทธิพลต่อการบำบัดจิตใจ หลายคนกล่าวว่าเป็นเสมือนยารักษาที่สัมผัสผ่านสายตามีอานุภาพในการเคลื่อนไหวในจิตใจ มีผลต่อการแสดงออกของพฤติกรรม มัณฑนากร ที่แม่นเรื่องสีมีผลงานที่มีเสน่ห์มีผลงานที่เย้ายวนใจให้ชวนหลงใหล อีกทั้งการกำหนดสีที่เหมาะสมเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ภาพลักษณ์ของผลงานที่ออกแบบดูดีมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวขึ้นมาทันที เฉดสีในโลกมีหลายหมื่นหลายแสนเฉดสี แต่การที่เราจะสามารถค้นหาเฉดสีได้เหมาะเจาะกับผลงานออกแบบนั้น สามารถค้นหาเฉดสีได้จากแหล่งกำเนิดสีดังนี้ 1. เลือกจากเฉดสีธรรมชาติ ความลงตัวที่พระเจ้าได้สร้างสรรค์ทุกสรรพสิ่งในโลกนี้อย่างประณีตพิถีพิถัน เราเพียงแค่เลียนความมหัศจรรย์ในธรรมชาติเหล่านี้ เช่น ทุ่งหญ้าเขียวสดตัดกับท้องฟ้าสีคราม ทุ่งดอกไม้กับแสงตะวันตกดิน สีของท้องฟ้าที่บันทึกเก็บไว้ของเช้าวันหนึ่งในหน้าหนาว สีของดอกไม้ที่ได้รับการสกัดให้สวยงาม คู่สีที่สัมพันธ์กันของปีกผีเสื้อและดอกไม้สด และอีกหลาย ๆ ปรากฏการณ์ที่เราสามารถเลือกใช้ได้ 2. เลือกเฉดสีในผลงานที่มนุษย์สร้างสรรค์ ผลงานที่สวยงามจากการรังสรรค์ของมนุษย์ เช่น 1. จากผลงานภาพเขียนจิตรกรรม ผลงานจากศิลปิน 2. จากผลงานกราฟฟิคโฆษณาในนิตยสารต่างประเทศและในประเทศที่มีรสนิยม 3. จากผลงานออกแบบภายในและสถาปัตยกรรมที่เกิดขึ้นจากผลงานของนักออกแบบมืออาชีพ 4. จากผลิตภัณฑ์สีสวยๆ ในตลาด 3. จากโปรแกรมคอมพิวเตอร์ 4. จากเฉดสีของผู้ผลิตสี ขั้นตอนการออกแบบ และคัดเลือกสีมีดังนี้ 1. เลือกกลุ่มสีเฉพาะโครงการให้ตรงกับบุคลิกของโครงการ โดยสามารถหาข้อมูลจากผลิตภัณฑ์, ลักษณะการให้บริการ 2. มีองค์ประกอบสัดส่วนที่เหมาะสมไม่มากไม่น้อยเกินไปโดยขึ้นอยู่กับการวางแนวความคิดของงานออกแบบ 3. มีสีหลัก สีรอง มีพระเอกนางเอก พระรองคือมีการไล่น้ำหนักสีและเน้นสีหลักไล่โทนอย่างเหมาะสม 4. จับคู่สีที่ไปกันได้ โดยดูจากเฉดสีที่ปรากฏในธรรมชาติและผลงานที่มนุษย์สร้างสรรค์ โดยสีจะมีเนื้อคู่ที่เข้ากันได้อย่างสวยงามทั้งตรงกันข้ามหรือกลมกลืน พลังของสี สามารถก่อเกิดอิทธิพลต่อผู้พบเห็น มีแรงส่งที่ทำให้เกิดการบำบัดด้านจิตใจโดยสะท้อนออกมาเป็นพฤติกรรมในการดำรงชีวิต อุปนิสัย กิริยาบทต่าง ๆ ตามเฉดสีและลักษณะเฉพาะของมนุษย์เพื่อบำบัดดังนี้ สำหรับคนซึมเศร้า หลักลอยไม่มั่นคง ไม่มีความมั่นใจในตนเองควรแต่งบ้านด้วย สีแดง ทุกอย่างจะดีขึ้น ทำให้กระฉับกระเฉงขึ้นและมีความมั่นอกมั่นใจมากขึ้น ถ้าตกแต่งร้านจะเป็นร้านที่ต้องการให้เกิดความมั่นใจในการใช้ผลิตภัณฑ์ ร้านที่ต้องการความกระฉับกระเฉงกระตุ้นยอดขายและร้านที่มีลูกค้าหลากหลาย เช่น ร้านอาหาร เป็นต้น สีเหลือง เหมาะสำหรับร้านประเภทที่กระทบกับจิตใจ และสุขภาพที่ดี เช่น คลินิกสมัยใหม่ อาคารทางศาสนา สีเหลืองเป็นสีสัญลักษณ์ของการคิดแง่บวก ร่าเริง สดใสเหมาะอย่างมากสำหรับร้านค้าบางร้านที่ภาพพจน์ตกต่ำลงต้องการปรับเปลี่ยนภาพให้ไปในทางบวกดีขึ้น สีน้ำเงิน สีม่วง เหมาะสำหรับร้านที่ดูมีมิติลึกลับ ประเภทลูกค้ากลุ่มเฉพาะ เช่น ร้านจำหน่ายเครื่องเสียงเฉพาะ ร้านขายผลิตภัณฑ์วัสดุประเภทกระจก *** สีน้ำเงิน ไม่เหมาะกับร้านอาหาร และยากมากสำหรับนักออกแบบฝึกหัด สีฟ้า เหมาะสำหรับร้านหรือสำนักงานที่มีการสื่อสารอยู่ตลอด เช่น สื่อมวลชน, สำนักพิมพ์, ห้องประชุม, รัฐสภา, สถานีโทรทัศน์, วิทยุ เป็นสีแห่งการสื่อสารจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ สีเขียว สำหรับร้านค้า สำนักงาน ด้านการบริการสำหรับครอบครัว เช่น ร้านอาหาร สปา, แฟมิลี่คาราโอเกะ, สวนสนุก, เกมส์รูมต่างๆ เพราะสีเขียวสะท้อนความรักของครอบครัว สีชมพู สำหรับร้านค้าประเภทหวาน ความรักโรแมนติก เช่น ร้านกิ๊ฟท์ช็อป ร้านถ่ายรูปเจ้าสาว ร้านไอศกรีม ร้านขนม ฯลฯ สีขาว เป็นสีกลางที่สามารถใช้ได้กับทุกบุคลิก เป็นสีที่เชื่อมให้ทุกสีประสานกันได้ และเป็นสีแห่งความสะอาดเหมาะสำหรับร้านประเภทสุขภาพ สีดำ สีสำหรับคนมีความมั่นใจดูลึกลับ อมตะ ส่วนใหญ่จะไม่ค่อยตกแต่งด้วยสีดำเพราะ สังคมหลายสังคมมักจะมองสีดำเป็นสีแง่ลบ แต่ก็เหมาะกับร้านที่สะท้อนความเป็นตัวตน และต้องการเน้นผลิตภัณฑ์ให้เด่นสว่างขึ้น สีน้ำตาล เป็นสีแห่งความอบอุ่น ดูธรรมชาติ และเป็นสีที่ควรไปผสมกับคู่สีอื่นๆได้ เป็นตัวแทนของไม้ซึ่งเป็นวัสดุกลางประเภทหนึ่ง คุณลองปรับเปลี่ยนสีให้เหมาะกับลักษณะเฉพาะของร้านคุณดูสิครับโดยให้สอดคล้องกับบุคลิกของผู้ใช้งาน ลูกค้า และพนักงาน อาจจะมีพลังทำให้ยอดขายของร้านคุณดีขึ้นมาหลายเท่าตัวเลยเชียวครับ โดย อ.เอก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=65247 อารมณ์และความรู้สึกของ...สี การเลือกใช้สีมีผลที่อารมณ์และความรู้สึกของผู้พบเห็น และยังสะท้อนความเป็นตัวตนของบุคคลที่เลือกใช้เฉดสีต่างๆ ด้วย สีขาว (White) เป็นสีที่แสดงถึงความบริสุทธิ์ สะอาด ผ่องใส ความถูกต้อง สีเทา (Gray) เป็นสีที่แสดงถึงแสดงถึงความมั่นคง ปลอดภัย ความสงบนิ่ง เรียบง่าย และเดียวดาย สีดำ (Black) เป็นสีที่แสดงถึงแสดงถึง ความลึกลับน่าค้นหา ความมืด สีแดง (Red) เป็นสีที่แสดงถึงแสดงถึง ความรุ่งเรืองโชติช่วง พลังอำนาจ สีชมพู (Pink) เป็นสีที่แสดงถึงความเป็นผู้หญิง มีพลังแจ่มใสเต็มไปด้วยความรัก ความอ่อนไหว เยือกเย็น สีเหลือง (Yellow) เป็นสีที่แสดงถึงความสว่าง สดใส ร่าเริง ความมั่งคั่ง และเป็นมิตร สีเขียว (Green) เป็นสีที่เป็นตัวแทนของธรรมชาติ ให้ความรู้สึกสดชื่น สบายตา มีชีวิตชีวา เป็นสีแห่งพลัง สีน้ำเงิน (Navy) เป็นสีที่แสดงถึง ความมั่นคง ความสงบ ความสุขุม หรูหรามีระดับ สีม่วง (Purple) เป็นสีที่แสดงถึงความหนักแน่น มีเสน่ห์ และหากนำสีม่วงทาสีห้องให้กับเด็ก จะส่งผลให้เด็กเกิดจินตนาการเรียนรู้อีกด้วย สีส้ม (orange) เป็นสีที่แสดงถึงแรงบันดาลใจเต็มเปี่ยม ทันสมัย สดใส กระฉับกระเฉงและมีพลัง สีน้ำตาล (Rust) เป็นสีทีแทนความอบอุ่นมั่นคงไปด้วยหลักทรัพย์ ความเป็นมิตร ความซื่อสัตย์ สีฟ้า (Blue) เป็นสีแห่งความสดชื่น ปลอดโปร่งโล่งสบายและสดใส ชาวจีนมักจะมองสีฟ้าว่าเป็นสีแห่งการเปลี่ยนแปลงและเจริญเติบโตเช่นเดียวกับสีเขียว ข้อมูลโดย สี JBP หลักการใช้สี การใช้สีกับงานออกมานั้น อยู่ที่นักออกแบบมีจุดมุ่งหมายใด ที่จะสร้างความสนใจ ความเร้าใจต่อผู้ดู เพื่อให้เข้าถึงจุดหมายที่ตนต้องการ หลักของการใช้มีดังนี้ 1.การใช้สีวรรณะเดียว ความหมายของสีวรรณะเดียว (tone) คือกลุ่มสีที่แบ่งออกเป็นวงล้อของสีเป็น 2 วรรณะ คือ ววรรณะร้อน (warm tone) ซึ่งประกอบด้วย สีเหลือง สีส้ม สีแดง สีม่วง สีเหล่านี้ให้อิทธิพล ต่อความรู้สึก ตื่นเต้น เร้าใจ กระฉับกระเฉง ถือว่าเป็นวรรณะร้อน วรรณะเย็น (cool tone) ประกอบด้วย สีเหลือง สีเขียว สีน้ำเงิน สีม่วง สีเหล่านี้ดู เย็นตา ให้ความรู้สึก สงบ สดชื่น (สีเหลืองกับสีม่วงอยู่ได้ทั้งสองวรรณะ) การใช้สีแต่ละครั้งควรใช้สีวรรณะเดียวในภาพทั้งหมด เพราะจะทำให้ภาพความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน (เอกภาพ) กลมกลืน มีแรงจูงใจให้คล้อยตามได้มาก 2.การใช้สีต่างวรรณะ หลักการทั่วไป ใช้อัตราส่วน 80% ต่อ 20% ของวรรณะสี คือ ถ้าใช้สีวรรณธร้อน 80% สีวรรณะเย็นก็ 20% เป็นต้น ซึ่งการใช้แบบนี้สร้างจุดสนใจของผู้ดู ไม่ควรใช้อัตราส่วนที่เท่ากันเพราะจะทำให้ไม่มีสีใดเด่น ไม่น่าสนใจ 3.การใช้สีตรงกันข้าม สีตรงข้ามจะทำให้ความรู้สึกที่ตัดกันรุนแรง สร้างความเด่น และเร้าใจได้มากแต่หากใช้ไม่ถูกหลัก หรือ ไม่เหมาะสม หรือใช้จำนวนสีมากสีจนเกินไป ก็จะทำให้ความรุ้สึกพร่ามัว ลายตา ขัดแย้ง ควรใช้สีตรงข้าม ในอัตราส่วน 80% ต่อ20% หรือหากมีพื้นที่เท่ากันที่จำเป็นต้องใช้ ควรนำสีขาว หรือสีดำ เข้ามาเสริม เพื่อ ตัดเส้นให้แยกออก จาก กันหรืออีกวิธีหนึ่งคือการลดความสดของสีตรงข้ามให้หม่นลงไป สีตรงข้ามมี 6 คู่ได้แก่ สีเหลือง ตรงข้ามกับ สีม่วง สีแดง ตรงข้ามกับ สีเขียว สีน้ำเงิน ตรงข้ามกับ สีส้ม สีเขียวเหลือง ตรงข้ามกับ สีม่วงแดง สีส้มเหลือง ตรงข้ามกับ สีม่วงน้ำเงิน สีส้มแดง ตรงข้ามกับ สีเขียวน้ำเงิน สีร้อน (สีอุ่น) Warm Colors นับจากโทนสีเหลือง ชมพู แดง ส้ม ม่วง น้ำตาล สีเหล่านี้ให้ความหมายที่เร่าร้อน ก้าวร้าว มีอิทธิพลต่อการดึงดูดและกระตุ้นอารมณ์ได้ มากมายกว่าโทนสีอื่นๆ สีเหล่านี้จะใช้มากกับงานประเภท หัวหนังสือ นิตยาสาร แค้ตตาล้อก ตลอดจนป้ายโฆาราต่างๆซึ่งจะกระตุ้นความสนใจต่อผู้พบเห็นได้เร็ว สีโทนร้อน คือสีที่ให้ความหมาย รื่นเริง สดชื่น ฉูดฉาด บาดอารมณ์ สีเย็น (Cool Colors) เริ่มจากสีเทา ฟ้า น้ำเงิน เขียว สีโทนนี้จัดอยู่ในสีโทนเย็น ให้ อารมณ์ความรู้สึก สงบ สะอาด เย็นสบาย สีขาว (White) คือสีแห่งความสะอาด บริสุทธิ์ ไร้เดียงสา เหมือนกับสำนวนที่ ชอบพูดว่า "เด็กที่เกิดมาเหมือนผ้าขาวที่ยังไม่มีรอยแปดเปื้อน" สีดำ (Black) คือ สัญลักษณ์แห่งความโศกเศร้าและความตาย และบางความหมายใช้แทนความชั่วร้าย ในความหมายของคนยุโรป อเมริกา แทนความเป็นผู้ดี ขรึม มั่นคง สีแดง (Red) คือสีแห่งความกระตือรือร้น เร่าร้อน รุนแรง สะเทือนอารมณ์ มีพลังความสว่างโชติช่วง เป็นสัญลักษณ์แห่งความรัก ดึงดูด ความสนใจ หากเป็นสีชมพู ซึ่งความเข้มของสีจะจางลงจะให้ความรู้สึกหวานโรแมนติก สีเหลือง (Yellow) คือสีแห่งความสุขสดชื่น ร่าเริงมีชีวิตชีวา เป็นสีที่เข้าได้กับทุกสี สีเขียว (Green) คือสีของต้นไม้ ใบหญ้า เป็นสัญลักษณ์ของความสงบ เรียบง่าย ความเข้มของสีเขียวให้ความหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ สีฟ้า (Blue) คือ สีแห่งท้องฟ้าและน้ำทะเล เป็นสัญลักษณ์ของความสงบ เยือกเย็น มั่นคง แต่เต็มไปด้วยพลัง หากเป็นสีฟ้าอ่อนจะให้ความรู้สึก สดชื่น สวยงาม กระฉับกระเฉงเป็นหนุ่มสาว สีม่วง (Purple) คือสีแห่งความลึกลับ ซ่อนเร้น เป็นสีที่มีอิทธิพลต่อจิตนาการ และความอยากรู้อยากเห็นหับเด็ก เช่น เรื่องเทพนิยายต่างๆ สีน้ำตาล (Brown) เป็นสีสัญลักษณ์แห่งความร่วงโรยเปรียบเสมือนต้นไม้มีใบร่วงหล่นเมื่อถึงอายุขัย เป็นสีที่ให้ความหมายดูเหมือนธรรมชาติ เช่น สีน้ำตาลอ่อนและสีแก่นของลายไม้เป็นต้น สีแจ๊ด (Vivid Colors) คือสีที่สะดุดตาเร็วมองเห็นได้ไกล โทนสีตัดกันแบบตรงข้าม เช่น แดงกับดำ เหลืองกับน้ำเงิน เขียวกับแดง ดำกับเหลืองเป็นต้น สีจำพวกนี้นิยมใช้กันมากในงานของเด็กเล่น ภัตตาคาร ร้านอาหาร ประเภทฟาสท์ฟู้ด ค่าเฟ่ ข้อเสียของสีประเภทนี้หากใช้จำนวนสีมากจะดูลายตา พร่า วิธีใช้ที่ดีควรใช้หนึ่งหรือสองสีเป็นตัวเน้นหนัก สีจาง (สีอ่อน) Light Colors ให้ความหมายที่ดูอ่อนโยน เบาหวิวเหมือนคลื่นเมฆหรือปุยฝ้าย ช่วยทำให้พื้นที่ที่แคบดูให้กว้างขึ้น โทนสีจำพวกนี้จะใช้กันมากกับเสื้อผ้า สตรี ชุดชั้นใน แฟชั่นชุดนอน ในงานศิลปะบางอย่างใช้สีอ่อน เป็นพื้นฉากหลัง เพื่อขับให้รูปทรงลอยเด่นขึ้น สีทึบ (Dull Color) คือสีอ่อนที่ค่อนข้างเข้มหรือสีที่เจือจางลง ให้ความรู้สึกที่ สลัวลาง มัว บางครั้งดูเหมือนฝัน และดูคลายเครียด สีมืดทีบ (Dark Colors) ให้ความรู้สึกหนัก แข็งแกร่ง เข้ม มีพลัง สังเกตดูได้จากสีเครื่องแต่งกายของทหาร สีสูทของผู้ชาย ชุดฟอร์มของช่าง เป็นต้น http://www.bcoms.net/photoshop/colorbasic.asp คำภีร์รวมการใช้สีเพื่อเพิ่มยอดขาย คลิกเพื่อดูภาพใหญ่ Overall Design 42% percentage of shoppers that base their opinion of a website on overall design alone 52% percentage of shoppers that did not return because of overall aesthetics ลูกค้าส่วนใหญ่ตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อ เพราะการ design และ navi ของเว็บเนี่ยละถ้าดีไซน์ดีสวย และ content อ่านง่าย มันก็ให้กระตุ้นให้คนซื้อมากขึ้น เพราะมันดูน่าเชื่อถือ แต่ถ้า design แย่และระบบ navi ไม่ดี อ่านยาก โอกาสที่ลูกค้าจะซื้อของจากเว็บเราก็น้อยตามลงไป ในส่วนนี้เค้าเปรียบเทียบเป็น%ว่า 42% ของผู้ซื้อ ตัดสินใจซื้อจากคุณภาพการดีไซน์ของเว็บ (ไม่ได้แปลโดยตรงจากที่เค้าเขียนนะพยายามเขียนให้เข้าใจง่าย) สรุป ดีไซน์สวยออกแบบดี ทำให้คนซื้อมากขึ้น 52% ของผู้ซื้อตัดสินใจไม่กลับมาที่เว็บเราอีกเพราะการออกแบบที่ไม่สวยงาม หรือตามที่เค้าว่า "aesthetics" สุนทรียภาพ นั้นเอง คลิกเพื่อดูภาพใหญ่ คลิกเพื่อดูภาพใหญ่ http://www.thaiseoboard.com/index.php?topic=208854.msg2882303;topicseen