หาทุนมือเปล่า โดย ตัน ภาสกรนที (วิถีตัน) ก้าวแรกของผมไม่ได้เริ่มจาก“ทุน”ที่มากกว่า สมัยเรียนหนังสือ ผมฐานะไม่ดี หน้าตาไม่ดี แถมเรียนไม่เก่ง เคยไร้เพื่อน รู้สึกเป็นส่วนเกิน ถึงขั้นคิดอยากจะฆ่าตัวตาย แต่เพราะเชื่อว่าคนเราประสบความสำเร็จได้หลายวิธี
ผมเลยเลิกเรียนหนังสือ ออกแบบชีวิตใหม่ตามวิถีที่ผมเชื่อ ผมชอบทำธุรกิจ และผมจะทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ..เป็นคำตอบที่ผมให้กับตัวเอง “ปมด้อย” ก็เป็นทุนได้ เมื่อเราใช้มันให้เกิดเป็นพลังความมุ่งมั่น คุณค่า “ความกดดัน” บางอย่างมีไว้ให้คนไม่หล่อไม่รวยเท่านั้นได้เก็บเกี่ยว
ทุนแรกที่มีค่าที่สุดของผม คือ ความหวัง และความมุ่งมั่น 5 ปีของการเป็นลูกจ้าง งานหนัก เงินเดือนน้อย แต่ผลตอบแทนที่มากกว่า คือ ประสบการณ์ คุณค่าของการทำงานหนัก ทำงานมากกว่าคนอื่น สอนให้ผมรู้จัก "วิธีหาเงิน"
วันหนึ่งเมื่อโอกาสมาถึง ผมตัดสินใจลาออกตอนอายุ 21 ลงทุนครั้งแรกกับแผงขายหนังสือ ขยับขยายเป็นเจ้าของห้องแถว แตกธุรกิจร้านกาแฟ ทำร้านกิฟท์ช็อป
แต่ถึงที่สุดความอุตสาหะที่ลงทุนลงแรงที่ชลบุรีนานนับสิบปี ลงเอยด้วยการเป็นหนี้ร้อยล้านเพราะพลาดท่ากับธุรกิจเรียลเอสเตท สมัยวิกฤติฟองสบู่
ผมคิดอะไรในวันที่เป็นหนี้?
ปัญหาคือความจริงของชีวิต ต้องเจอกันทุกคน เพียงแต่คุณจะยอมแพ้หรือเปล่าในวันที่ฟ้าทดสอบคน กำลังใจคือสิ่งที่ต้องให้กับตัวเอง
ผมไม่หนีแต่สู้ปัญหา เจรจาประนอมหนี้ ตัดใจขายทรัพย์สินเกือบทุกอย่าง เริ่มต้นใหม่อีกครั้งที่กรุงเทพฯ บุกเบิกธุรกิจเวดดิ้งสตูดิโอ และโออิชิ เพิ่งกลับมา “ปลอดหนี้” อีกครั้งตอนบริษัทเข้าตลาดหลักทรัพย์'
ประสบการณ์สอนผมว่าอย่าแก้ปัญหาโดยสร้างปัญหาให้ใหญ่กว่าเดิม ถ้ายังมีหนี้ต้องแก้ปัญหาหนี้ให้หลุดก่อน..สิ่งแรกแก้ไม่ได้ อย่าไปทำสิ่งที่สอง
กลับมาเริ่มธุรกิจใหม่สร้างบริษัทไม่ตันอีกรอบ ผมไม่ได้ตัวชุ่มเหงื่อเหมือนแต่ก่อน แต่เอาเวลาส่วนใหญ่มาทำธุรกิจโดยใช้ “วิธีคิด”
ความสำเร็จเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงข้ามคืน แต่ผ่านการนับหนึ่งสั่งสมประสบการณ์หาเงิน..ผ่านชีวิตขึ้นๆลงๆมากว่า 20 ปี
เรียนรู้จากการใช้เหงื่อหาเงิน จนมีเงินหาเงิน.. มีแบรนด์หาเงิน...มีวิธีคิดหาเงิน
ถ้ารู้วิธีการหาเงินแล้ว..เงินหาไม่ยาก ทุนเป็นองค์ประกอบหนึ่ง แต่ไม่ไช่ความสำเร็จทั้งหมด
นึกย้อนกลับไป ไม่ว่าจะแผงหนังสือที่ใช้เงินทุนหลักหมื่น หรือโรงงานใหม่ที่ใช้เงินเป็นพันๆล้าน
ความสำเร็จไม่อยู่ที่เริ่มต้นที่เงินเท่าไหร่ จะเงินมาก เงินน้อย...เงินเท่าไหร่ ผมเริ่มต้นได้เสมอ มีเงิน ไม่มีเงิน..ไม่สำคัญเท่ากับ มี “ปัญญา” และ “ประสบการณ์” เป็นทุนติดตัว
ผมยังจำได้ดีกับประสบการณ์เจ๊งครั้งแรกในชีวิต เงินทุนก้อนแรก 5 หมื่นที่หยิบยืมมาเปิดแผงหนังสือ ละลายหายไปกับลังหนังสือที่ชุ่มฝน
ผมหมดตัวแต่ไม่หมดใจ วิ่งหาเงินก้อนใหม่ ยังดีที่มีคนเชื่อถือยอมให้โอกาสผมอีกครั้ง
การทำธุรกิจคือการโน้มน้าวใจ ถ้าข้อแรกยังสอบไม่ผ่าน ข้อสองคุณก็ไม่มีโอกาสได้สอบ
ถ้าแม้แต่คนรู้จัก คนรอบข้างและคนให้ทุนยังไม่ให้การสนับสนุน..แน่ใจแล้วหรือว่าก้าวต่อไปของคุณจะได้รับการต้อนรับจากลูกค้า
จะยากดีมีจน เราทุกคนล้วนมีทุนเป็นของตัวเอง คุณเท่านั้นที่ต้องหาให้เจอแล้วใช้มันให้เป็น
อย่ายอมแพ้ง่ายๆ ถ้ามั่นใจว่าเป็น “ตัวจริง” มีความสามารถและไอเดียดีๆ ผมเชื่อว่าสักวันก็ต้องมีคนเห็น
ถ้าวันนี้โอกาสของคุณยังมาไม่ถึง.. บางทีเพราะคุณยังพยายามไม่มากพอ หยุดท้อ.. ลุกขึ้น แล้วก้าวออกไปหา “โอกาส” ของคุณต่อเถอะครับ
http://www.facebook.com/media/set/?set=a.234408239913969.57111.142765199078274 |