1
2

อัญมณีประจำราศี > เมษายน – เพชร (Diamond)

หยาดเพชร - ฝน ธนสุนทร






พลอยประจำเดือนเกิด เมษายน – เพชร (Diamond)
Diamond
Birthstone for April. Symbol
of
Everlasting Love and Perfection.

เพชร เป็นแร่มีรูปร่างผลึก 8 เหลี่ยม หรือ 12 เหลี่ยม มีความโปร่งใส และกึ่งโปร่งใสมีประกายแวววาว โดยเพชรจัดอยู่ในพวกอัญมณีที่มีค่า สวยงาม และเป็นที่รู้จักกันเช่นเดียวกับอัญมณีอื่นๆ แต่จะเป็นของที่หายากกว่าอัญมณีอื่นด้วยเช่นกันจึงมีการกล่าวว่า ผู้ที่จะได้ครอบครองเพชรนั้นจะต้องเป็นเศรษฐีหรือเชื้อพระวงศ์ ในเรื่องของความเชื่อในอดีตผู้ที่สวมใส่เพชรจะมีอำนาจป้องกันสิ่งชั่วร้ายที่จะเข้ามาถึงตัวเองได้

เพชร มีหลายสี สีที่นิยมที่สุดคือสีขาวบริสุทธิ์ สีที่หายากคือสีแดง ฟ้า เขียว ส้ม ชมพู เรียก "แฟนซีไดมอนด์" มีราคาสูงมาก การเจียระไนเป็น 52 เหลี่ยมนับว่าสวยที่สุด เพชรเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ ความแข็งแกร่ง แหล่งของเพชรมีอยู่ทั่วโลก ส่วนมากพบที่บราซิลและแอฟริกาใต้

จึงถือได้ว่าเพชรเปรียบเสมือนเป็นเครื่องรางของขลังมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ เพราะเหตุผลในข้อนี้ในอดีตจึงมีผู้ชายสวมใส่เพชรมากกว่าผู้หญิง ตำนานโบราณกล่าวว่า เพชรมีแหล่งกำเนิดมาจากกระดูกยักษ์ชื่อมหาพลสูตรที่คิดพิธีอดอาหารเพื่อเป็นเกียรติยศให้ปรากฏในแผ่นดินแต่พอครบ 7 วันก็สิ้นชีวิตเทวดาจึงนำกระดูกไปฝังทุกแห่ง จึงบังเกิดกลายเป็นเพชรรัตน์


ที่มาของชื่อ
คำว่า เพชร ในภาษาไทย มาจาก वज्र (วชฺร) ในภาษาสันสกฤต หมายถึง สายฟ้า หรืออัญมณีชนิดนี้ก็ได้ ส่วนในภาษาอังกฤษ "diamond" มีรากศัพท์มาจากภาษากรีกโบราณ αδάμας (adamas) ซึ่งมีความหมายว่า ไม่มีใครชนะได้ ภายหลังได้แผลงเป็น adamant, diamaunt, diamant และ diamond ในที่สุด


ในทางวิทยาศาสตร์ เพชรเกิดจากธาตุคาร์บอน (C) เกือบบริสุทธิ์ คือประมาณ 99.95% ที่ถูกทับถมอยู่เป็นเวลานานใต้พื้นโลกด้วยแรงกดกว่า 3,000 ตัน อยู่ลึกประมาณ 80 กิโลเมตรของอ๊อกตาฮีดรอน (Octahedron) ที่มี ต่อมาหินคิมเบอร์ไลต์ (Kimbelite) ได้ดันเพชรขึ้นมาระดับพื้นผิวโลก นอกจากนี้ยังพบเพชรอยู่ในบริเวณลานแร่ (Alluvium) อยู่ประมาณร้อยละ 90 ของเพชรที่พบทั้งหมด


แหล่งกำเนิดเพชร
เพชรเป็นแร่ซึ่งเกิดจากความกดดันและอุณหภูมิที่ฝังตัวอยู่ใต้พื้นโลกเพชรถูกนำขึ้นมาพร้อมกับพวกแมคม่า(Magma) พร้อมแร่ชนิดอื่นๆทางภูเขาไฟ แหล่งที่พบเพชรนั้นมีหลายประเทศแต่ก็มีปริมาณเพชรที่แตกต่างกันไป โดยประเทศที่มีการพบเพชร ได้แก่
1. อินเดีย เป็นประเทศแรกที่ค้นพบเพชร กล่าวว่าประเทศอินเดียมีการขุดเพชรมามากกว่า 5000 ปีมาแล้ว ซึ่งเพชรในประเทศอินเดียเป็นเพชรเม็ดใหญ่มีคุณภาพสูง และมีมาก
2. บราซิล เป็นประเทศที่ค้นพบเพชรรองมาจากประเทศอินเดีย โดยพบในปี พ.ศ.2288 แต่เพชรมีขนาดเล็กและสวยงามไม่เท่าอินเดีย ซึ่งส่วนใหญ่ใช้ในวงการอุตสาหกรรม
3. แอฟริกา พบเหมืองแร่ใหม่เมื่อ พ.ศ.2410 หลังจากที่เพชรในประเทศบราซิลเริ่มลดน้อยลง เพชรในประเทศแอฟริกามีคุณภาพสูง สวยงาม มีขนาดใหญ่และมีปริมาณมาก
4. รัสเซีย มีการขุดเพชรขึ้นมาใน ค.ศ.1970 มีปริมาณเพชรมากกว่าแอฟริกา

เพชรแบ่งได้เป็น 4 ชนิด
การแบ่งแยกชนิดของเพชรนั้นขึ้นอยู่กับความไม่สะอาดต่างๆ ของธาตุอื่นๆ ที่แทรกเข้ามาในผลึกเพชร โดยแบ่งแยกออกเป็นดังนี้
1. ชนิด la มีไนโตรเจน ประมาณร้อยละ 0.1 ได้แก่ เพชรที่ขุดตามธรรมชาติ
2. ชนิด lb มีไนโตรเจน ประมาณร้อยละ 0.2 ได้แก่ เพชรสังเคราะห์
3. ชนิด lla ไม่มีไนโตรเจน ชนิดนี้หายากมาก
4. ชนิด llb เป็นเพชรที่มี boron อยู่ในผลึกจะมีสีฟ้า หายากมาก

การจำแนกประเภทของเพชร
1. Natural Diamond หรือ เพชรธรรมชาติ หรือเพชรแท้
เป็นเพชรที่เกิดจากอะตอมของคาร์บอนใต้ชั้นเปลือกโลกที่มีความร้อนและความดันสูงมารวมตัวกันกลายเป็นเพชร ซึ่งเป็นเพชรที่เหมืองต่างขุดหากันเพื่อนำมาขาย นำมาเจียระไนจนเป็นเครื่องประดับชิ้นงามและมีราคาสูงในตลาดอัญมณี โดยบริษัท De Beers เป็นบริษัทผูกขาดเพชรรายใหญ่ของโลก

2. Diamond Simulant หรือเพชรเทียม เพชรสีเลียนแบบ
เป็นเพชรที่เลียนแบบธรรมชาติให้ดูคล้ายเพชรแต่คุณสมบัติต่างๆ ไม่ใช่เพชรซึ่งเพชรประเภทนี้จะมีส่วนประกอบทางเคมีอยู่ เช่น เพชรรัสเซีย (Synthetic Cubic Zirconia) และมอยส์ซาไนส์สังเคราะห์ (Synthetic moissanite) ซึ่งเพชรเทียมเหล่านี้จะมีราคาต่ำกว่าเพชรแท้เล็กน้อย ส่วนประกอบของเพชรเทียมนี้ไม่ใช่คาร์บอน แต่เป็นเซอร์โคเนียม หรือ ซิลิคอนคาร์ไบด์ ซึ่งเพชรที่เกิดจากการสังเคราะห์นี้จะมีความวาวและมีความแข็งที่ใกล้เคียงกับเพชรแท้มาก

3. Synthetic Diamond หรือเพชรสังเคราะห์ เป็นเพชรที่สังเคราะห์ขึ้นมาจากห้องแล็บ
โดยใช้เทคนิค High Pressure/High Temperuture ซึ่งเป็นเทคนิคที่ใช้ความร้อนมหาศาลในการสังเคราะห์เพื่อเลียนแบบวิธีการเกิดเพชรในธรรมชาติ จึงทำให้เพชรชนิดนี้มีคุณสมบัติเหมือนเพชรแท้ทุกประการเลยก็ว่าได้ แต่กระนั้นเพชรสังเคราะห์นี้มี่ค่าใช้จ่ายในการผลิตที่สูงมากทำให้นำมาใช้ในประโยชน์ทางวิทยาศาสตร์เท่านั้น


หลักสากล 4Cs
การจำแนกระดับต่างๆของเพชรให้ดูถึงความบริสุทธิ์ที่เพชรมี ในหลักสากล สามารถแบ่งออกเป็น 4Cs ใหญ่ๆ ด้วยกันคือ Clarity (ความบริสุทธิ์) , Carat (น้ำหนักเพชรเทียบเป็นกะรัต) , Color (สีของเพชร) และสุดท้าย Cut (รูปแบบและทรงการเจียระไน)

ระดับความบริสุทธิ์ (Clarity)
การจำแนกความบริสุทธิ์ของเพชร สามารถจำแนกได้ตามหลักสากล ดังนี้

1.Flawless (FL) - เป็นเพชรชั้นยอดน้ำงามที่สุด ไม่มีตำหนิหรือมลทินใดๆในทั้งเนื้อเพชรและผิวของเพชร เมื่อมองภายใต้กล้องขยาย 10 เท่า (10X)

2.Internal Flawless (IF) - เป็นเพชรชั้นยอดที่ไม่มีตำหนิภายในเนื้อเพชรเลย เมื่อมองภายใต้กล้องขยาย 10 เท่า (10X)

3.Very Very Small Inclusion (VVS1 / VVS2) - เป็นระดับของเพชรที่มีมลทินในเนื้อเพชรให้เห็นได้น้อยมากๆ ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า จะต้องใช้กล้องกำลังขยาย 10 เท่า ส่องจึงเห็น และจะต้องใช้เวลาในการค้นหาค่อนข้างนาน แล้วแต่ความชำนาญของผู้ตรวจสอบ จำแนกออกเป็นระดับ 1 และ 2 ตามลำดับ หากตำหนิน้อยมากจะใช้ VVS1 หากตำหนิที่สามารถเห็นได้ชัดมากขึ้นจะใช้ VVS2

4.Very Small Inclusion (VS1 / VS2) - เป็นระดับของเพชรที่มีมลทินในเนื้อเพชรในระดับที่ไม่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า จะต้องใช้กล้องกำลังขยาย 10 เท่า ส่องจึงเห็น และจะต้องใช้เวลาในการค้นหาสักพัก แต่จะใช้เวลาน้อยกว่าเพชรความสะอาดระดับ VVS ตำหนิและมลทินสามารถเห็นได้ชัดเจนมากกว่าระดับ VVS และอาจมีสีต่างๆในเนื้อของมลทินที่สามารถมองเห็นได้

5.Small Inclusion (SI1 / SI2) - เป็นระดับของมลทินที่สามารถมองเห็นได้ทันทีภายใต้กล้องกำลังขยาย 10 เท่าและบางกรณีสามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่จะมีขนาดที่เล็กอาจจะต้องสังเกต หรือใช้กระดาษขาวทาบและมองกับแสงไฟจึงเห็นชัดขึ้น ในระดับสายตาของผู้ยังไม่ชำนาญการ จะต้องใช้เวลานานในการสังเกต

6.Inclusion (I1 / I2 / I3) - เป็นระดับมลทินที่สามารถสังเกตด้วยตาเปล่าได้อย่างชัดเจน ซึ่งอาจจะมีเยอะมาก จนทำให้สังเกตได้เยอะ

กะรัต (Carat)
น้ำหนักซึ่งเป็นมาตรฐานในการวัดน้ำหนักของอัญมณี ซึ่งเทียบกับมาตราเมตริกได้ 0.2 กรัม ทั้งนี้ มาตรน้ำหนักกะรัตนี้ สามารถวัดระดับความบริสุทธิ์ของทองคำได้อีกด้วย ซึ่งทองคำ 24 กะรัตมีค่าความบริสุทธิ์ 100%

ที่มาของคำว่ากะรัต มาจากเมล็ดของผล การัต ซึ่งเมล็ดของผลชนิดนี้จะมีน้ำหนักเท่ากันทุกเมล็ด ซึ่งในสมัยโบราณนิยมใช้กันมาก เพราะไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจนในการวัด จึงนำเอาเมล็ดจากผลการัต มาเป็นหน่วยในการวัดน้ำหนักของอัญมณี

สี (Color)
การจำแนกเฉดสีของเพชร สามารถเรียงจาก D ไปจนถึง Z ซึ่งหากแทนด้วยอักษร D จะหมายถึง มีความขาวใส มากที่สุด ซึ่งบางครั้งคนไทยจะเรียกว่า "น้ำ" เพชรน้ำยิ่งสูงก็จะยิ่งขาวและไม่มีสีเหลืองเจือปน เพชรระดับไร้สี (Coloress) ได้แก่ เพชรน้ำ 100, 99, 98 หรือ เพชรสี D,E,F (ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเรื่องสีได้ที่ เพชร, แหวนเพชร)จะหายากและมีราคาสูงสุด ส่วนเฉดสีอื่นๆ จะไล่ไปเรื่อยๆเช่น สีนวลอ่อน อาจจะแทนด้วยอักษร G สีเหลืองแชมเปญ จะไล่ลงไปเป็น L เหลืองเข้ม จะใช้แทนด้วย P จนกระทั่งไปถึงตัวอักษร Z ที่จะเป็นสีเหลืองสด และถูกแยกออกเป็นเฉดสีเพชรแฟนซี

การจำแนกสีของเพชร จะแยกเฉพาะโทนสี ขาว และเหลืองเท่านั้น หากแยกออกไปจากนี้จะเป็นรูปแบบเพชรแฟนซี ซึ่งจะมีสีสันสดใสและแปลกตาออกไป
เหตุที่แยกโทนสีเฉพาะสีเหลืองเพราะว่า คาร์บอนในตัวของเพชร เมื่อได้รับความร้อนหรือสารเคมีที่เป็นองค์ประกอบอื่นๆ จะทำให้เพชรมีสีแตกต่างออกไป
เช่น เพชรสีเหลืองมีธาตุในโตรเจนเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย สีน้ำเงิน อาจมีไทเทเนียมและเหล็กเจือปน หรือสีแดงอาจจะเป็นโครเมียมเจือปน ส่วนเพชรชมพูนั้นเกิดจากโครงสร้างของตัวเพชรเอง ส่วนสีเขียวนั้นเป็นเพชรที่ได้รับรังสี ซึ่งกระบวนการเหล่านี้ทำให้เกิดเป็นเพชรแฟนซี ที่มีสีสันแตกต่างออกไป และราคาแพงมากกว่าสีขาว เนื่องจากหายาก แต่อย่างไรก็ตาม เพชรสีขาวใสสะอาด เป็นที่นิยมมากกว่าเพชรแฟนซี แต่ในปัจจุบันได้มีผู้ผลิต หลายราย นำเพชรสีขาวมาปรับปรุงคุณภาพเพื่อให้เกิดเป็นเพชรสีแฟนซี ต่างๆ ขึ้น เช่น ทำการอบ การเผา หรือการฉายรังสี ทำให้เกิดสีต่างๆ เช่น สีเขียว สีเหลือง และสีฟ้า เป็นต้น

Cutting การเจียระไน
อันนี้ก็สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่นๆ เพชรที่ดี สวย จะต้องเล่นไฟดีๆ ถ้าฝีมือคนเจียระไนไม่ดี ก็สามารถที่จะทำให้เพชรหมดค่าไปได้ง่ายๆ เลย ทั้งนี้การที่เพชรจะเล่นไฟ ได้สวยงามนั้นจะต้องมีการ ทำมุมต่างๆของเหลี่ยมเพชร กันได้อย่างพอเหมาะลงตัวถึงจะทำให้ เพชรสวย


How to วิธีการดูเพชรแท้ เขี่ยเพชรเทียม




DIAMOND


DIAMONDApril's birthstone
OriginsAfrica
Colors FoundVarious
FamilyCarbon
Hardness10.00
Refractive Index2.41 - 2.42
Relative Density3.53

The word Diamond comes from the Greek word "adamas," meaning unconquerable or invincible.
"Diamonds are forever," sang Shirley Bassey, while Marilyn insisted they were "a girl's best friend." Celebrated in song, over the last century Diamond (April's birthstone) has become the most marketed of gemstones.
Legends and lore
The myths and facts associated with the Diamond transcend cultures and continents.
The world's first known reference to this gemstone comes from an Indian Sanskrit manuscript, the "Arthsastra" (which translates as "The Lesson of Profit") written by Kautiliya, a minister to Chandragupta of the Mauryan Dynasty (322 BC - 185 BC).
Plato wrote about Diamonds as living beings, embodying celestial spirits.
Roman literature makes its first distinct mention of Diamonds only in the 1st century AD, in reference to the alluvial Diamonds found in India.
The ancient Greeks and Romans believed they were tears of the gods and splinters from falling stars. Cupid's arrows were supposed to be tipped with Diamonds, thus having a magic that nothing else can equal.
The Hindus believed that Diamonds were created when bolts of lightning struck rocks. They even placed them in the eyes of some of their statues.
Jewish high priests turned to Diamonds to decide the innocence or guilt of the accused. A Diamond held before a guilty person was supposed to dull and darken, while a Diamond held before an innocent person glowed with increasing brilliance.
The Romans wore Diamonds because they were thought to possess broad magical powers over life's troubles, being able to give to the wearer strength, invincibility, bravery and courage during battle.
Kings of antiquity led the battles wearing heavy leather breastplates studded with Diamonds and other precious gems because it was believed that Diamonds possessed god-given magical qualities and powers far beyond the understanding of humankind. Thus, warriors stayed clear of kings and those who were fortunate enough to have the magical Diamonds in their breastplates.
An act of Louis IX of France (1214-1270) established a sumptuary law reserving Diamonds for the King, indicating the rarity and value of this gem.
Until the 14th century only kings could wear Diamonds, because they stood for strength, courage and invincibility. Small numbers of Diamonds began appearing in the 14th century in European regalia and jewelry, set mainly as an accent among Pearls. But the possession of extraordinarily large and noble Diamonds was always the privilege of royal houses and rich families. As an example, the imperial crown of the Russian Tsarina Catherine the Second (1729-1796) was mounted with 4,936 sparkling Diamonds.
In the Middle Ages and the Renaissance, every ring set with a precious gem was not considered as much a piece of jewelry, but more as an amulet that bestowed magical powers upon its wearer. When set in gold and worn on the left side, it was believed that Diamonds held the power to drive away nightmares, to ward off devils and phantoms, and soothe savage beasts. A house or garden touched at each corner with a Diamond was supposed to be protected from lightning, storms and blight. Diamonds were also supposed to impart virtue, generosity and even to calm the mentally ill.
Not only was it commonly believed that Diamonds could bring luck and success, but also that they could counter the effects of astrological events.
Just the facts
As a gemstone lover, you may have heard about the 4 C's related to valuing gemstones and in particular, Diamonds. While other factors such as origin sometimes need to be taken into consideration when valuing colored gemstones, below is a basic guide to the four C's that Diamond professionals and connoisseurs the world over rely on: cut, color, clarity and carat weight.
Color
Colorless and near-colorless Diamonds are rare, beautiful and highly prized among connoisseurs. To the untrained eye, most Diamonds look white. However, to the professional there are small differences in the degrees of whiteness seen.
Cut
With Round Brilliant cut Diamonds accounting for over 80% of Diamond sales worldwide, ask anyone "What shape is a Diamond?" and they will probably say round. Despite this shape, there are many other beautiful Diamond cuts that warrant serious consideration. The eight most popular Diamond cuts are Emerald cut, Heart cut, Marquise cut, Oval cut, Round Brilliant cut, Pear cut, Princess cut and Radiant cut.
Unlike colored gemstones, Diamonds are cut, shaped and proportioned to a remarkably uniform ideal. In 1919, the Russian mathematical genius Marcel Tolkowsky, a member of a large and powerful Diamond family, published his opinions of what Diamond proportions result in the optimum balance of brilliance and fire.
Carat weight
As mentioned above, unlike colored gemstones, Diamonds are cut to a uniform ideal for maximum brilliance (white light reflections), fire (flashes of color) and scintillation (play of light). With this uniform cutting and proportions, we can very conveniently and accurately equate Diamond carat size with their millimeter size.
ROUND BRILLIANT CUT DIAMOND
1 millimeter0.01 carat6.0 millimeter0.75 carat
2 millimeter0.03 carat6.5 millimeter1.00 carat
3 millimeter0.10 carat7.0 millimeter1.25 carat
4 millimeter0.25 carat7.5 millimeter1.65 carat
5 millimeter0.50 carat
Clarity
Inclusions are tiny natural features within the body of a Diamond. Nearly all gemstones contain some inclusions, however many are microscopic and can only be seen under magnification. While the prevalence and acceptability of inclusions varies from gemstone to gemstone, in general, if they do not interfere with the beauty of a gemstone, they are not only accepted, but are also a fascinating hallmark of authenticity that records a gem's natural relationship with the earth.
What is the GIA Diamond Grading System?
Developed by the GIA (Gemological Institute of America), this system is now commonplace for the retailing of Diamonds across the globe and consists of a Diamond Clarity Scale and a Diamond Color Scale.
GIA Diamond Clarity Scale
(FL) FLAWLESS: Shows no inclusions or blemishes of any sort under 10X magnification when observed by an experienced grader.
(IF) INTERNALLY FLAWLESS: Has no inclusions when examined by an experienced grader using 10X magnification, but will have some minor surface blemishes.
(VVS1 and VVS2) VERY VERY SLIGHTLY INCLUDED: Contains minute inclusions that are difficult even for experienced graders to see under 10X magnification.
(VS1 and VS2) VERY SLIGHTLY INCLUDED: Contains minute inclusions such as small crystals, clouds or feathers when observed with effort under 10X magnification.
(SI1, SI2 and SI3) SLIGHTLY INCLUDED: Contains inclusions (clouds, included crystals, knots, cavities and feathers) that are noticeable to an experienced grader under 10X magnification. The SI3 Diamond clarity grade was created because many in the Diamond industry felt that there was too wide a gap between SI2 and SI1. After the EGL (European Gemological Laboratory) started issuing certificates with the SI3 grade, the Rapaport Diamond Report (the definitive price guide for Diamonds) added SI3 to its price list.
(I1, I2 and I3) INCLUDED: Contains inclusions (possibly large feathers or large included crystals) that are obvious under 10X magnification.
(PK) PIQUE: Inclusions easily visible to the naked eye.
GIA Diamond Color Scale
Prior to the introduction of the GIA grading system, the letters A, B and C were used to grade Diamonds. As the GIA wanted a fresh start, they decided to begin with the letter D.
D, E, F. These purest tints are rare and comparatively expensive. Their rare color assigns them a higher market price.
G, H, I. Often offering much better value, to the untrained eye they seem the exact same color as the more expensive D, E and F colors.
J, K, L. Discounted for their barely perceptible yellowish tints, Diamonds in this range offer excellent value.
M - Z. Further discounted for their more distinct yellow hues.
Z+. Diamonds whose color intensity is outside the normal range are called "Fancy Colors" and come in about any color you can imagine (e.g., pink, red, green, purple, black, blue, yellow and more).

Pairs and Suites

Pairs or suites of Diamonds matched for color, clarity and cut are more highly valued per carat or per gem than single Diamonds of the same quality. Given the rarity of many Diamonds, a matching set is disproportionately hard to find and thus commands a higher per carat price than if each of the Diamonds from the suite were sold separately.
Colored Diamonds
Most Colored Diamonds found in jewelry today are treated. The process known as color enhancement involves using clean Diamonds and modifying their color with a combination of electron bombardment and heat using safe electron-accelerator technology. This enhancement exactly duplicates the "natural process" Colored Diamonds undergo during their formation within the earth. All color enhanced Diamonds sold by GemsTV are treated in the US to certified international standards.
Unlike some other Diamond treatments, Color Enhanced Diamonds are treated to fulfill preferences for vivid color only; this coloring technique does not try to hide or dissipate flaws. The myriad of popular Diamond colors produced using this technology includes blue, green, red, orange, yellow, pink, purple and black. The real beauty and popularity of these Diamonds lies in the fact that they combine both the rich color hues of colored gems such as Rubies and Sapphires, with the unforgettable brilliance and sparkle of a Diamond. In other words, they virtually become "two gems in one."
What are Conflict Diamonds?
A Conflict Diamond (also called a Blood Diamond) is a Diamond mined in a war zone and sold, usually clandestinely, in order to finance an insurgent or invading army's war efforts. The Kimberley Process is a global system to eradicate Conflict Diamonds and has two parts:
  • A government-regulated system adopted in 2000 by more than 40 countries, the United Nations, and the Diamond industry to control the export and import of rough Diamonds across borders. It requires that rough Diamonds mined after January 1, 2003 be shipped in tamper-resistant containers and accompanied by government-validated Kimberley Process Certificates. Only participating countries may legitimately export rough Diamonds and only to co-participating countries.
  • To strengthen the government program, the international Diamond and jewelry industry represented by the World Diamond Council (WDC) initiated and committed to a voluntary system of warranties. It requires that every time Diamonds (rough, polished or Diamond jewelry) change hands, the seller will affirm on the invoice that the Diamonds have been purchased through authorized channels not involved in funding conflict.
Naturally, GemsTV is Kimberley Process compliant.
http://gemclub.blogspot.com/2009/04/diamond.html
ข้อมูล สำนักหอสมุดกลาง มหาวิทยาลัยรามคำแหง
http://www.gemstv.com



1
2

Wish You Happinessss

Success is not the key to happiness. Happiness is the key to success. 
If you love what you are doing, you will be successful. 

~ Albert Schweitzer ~

 คัมภีร์ 5 ห่วง  วิถีแห่ง "ซามูไร" วิถีแห่งนักรบ "บูชิโด"   แนวคิดของตัวเม่น   GOOD LUCK สร้างแรงบันดาลใจเพื่อความสำเร็จ ในชีวิตและธุรกิจด้วยตัวคุณเอง    Why complicate life ?   3 x 8 = เท่าไหร่ ?????   "ฉันชื่อ..โอกาส"

Wish You Happinessss