ในวันถัดมาลูกชายคนเดียวของเขาพยายามที่จะขี่ม้าป่าตัวหนึ่งในบรรดา12ตัวนั้น
เขาถูกสลัดตกลงมาขาหักและต้องพิการนับแต่บัดนั้น
เมื่อเพื่อนบ้านรู้ข่าวก็พากันมาแสดงความเสียใจและบอกว่า
"ลูกชายท่านต้องกลายเป็นคนพิการไปตลอดชีวิต ช่างโชคร้ายอะไรหนอ"
แต่ชายชราผู้นั้นถามอีกเช่นเคยว่า "ท่านทราบได้อย่างไรว่ามันคือโชคร้ายน่ะ"
อีก1ปีต่อมา...มีขุนศึกคนหนึ่งมาที่เมืองนี้
เพื่อเกณฑ์ชายหนุ่มที่มีร่างกายปกติแข็งแรงสมบูรณ์ทุกคนไปรบ..พวกเขาแพ้สงครามและทุกคนถูกฆ่าตายหมด ชายหนุ่มเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ก็คือลูกชายขาพิการของชายชราผู้นั้น....
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...
เราไม่รู้หรอกว่าเมื่อไหร่เหตุการณ์ไหนจะเป็นโชคร้ายหรือเหตุการณ์ไหนจะเป็นโชคดีที่แท้จริง... ดังนั้นเราอย่าไปด่วนตัดสินอะไรด้วยความยึดติด
หากถึงคราวโชคดีก็อย่าหลงระเริงจนเกินไป แต่หากถึงคราวโชคร้ายก็อย่าไปฟูมฟายจนขาดสติ...
Fwd.