Happinessss
1
2
แค่เพียง "เสี้ยววินาที"
Cake - แปลว่า...ขอบคุณ
แค่เพียง "เสี้ยววินาที"
นิทานก่อนนอน เรื่อง "ไคลล์"
เรื่องเกิดขึ้นในวันหนึ่ง เมื่อครั้งผมยังเป็นน้องใหม่ในโรงเรียนมัธยม
ผมเห็นเด็กคนหนึ่งซึ่งเรียนอยู่ชั้นเดียวกัน
กำลังเดินกลับบ้านหลังเลิกเรียน
ผมจำได้ว่าเขาชื่อ
"ไคลล์"
ผมเห็นเขากำลังขนหนังสือทุกเล่มของเขากลับบ้าน
ผมคิดว่าทำไมนะถึงยังมีคนหอบหนังสือทั้งหมดของตัว
กลับบ้านในวันศุกร์ด้วย หมอนี่มันจะต้องเป็นพวกคนประหลาดแน่ๆเลย
ผมเองนั้นมีแผนการสำหรับวันหยุดเอาไว้แล้วนั่นคือไปงาน party
และเล่นฟุตบอลกับพวกเพื่อนๆตอนบ่ายพรุ่งนี้
คิดไปแล้วผมก็ยักไหล่จะเดินจากไป
แต่ขณะนั้นผมก็เห็นเด็กกลุ่มหนึ่งวิ่งแข่งกันตรงมายังไคลล์
จนชนเขาล้มลงคลุกฝุ่นข้างทาง
หนังสือในอ้อมแขนของเขาก็ตกกระจัดกระจาย
ผมเห็นแว่นตาของเขากระเด็นไปตกบนพื้นหญ้า
ห่างจากตัวเขาประมาณ 10 ฟุต
เขาเงยหน้าขึ้นและผมก็ได้เห็นความโศกเศร้าในดวงตาของเขา
ผมตกใจมาก จึงรีบวิ่งไปหาเขา
ขณะที่เขากำลังคลำหาแว่นตาของตัวเองอยู่
ผมสังเกตเห็นว่าตาของไคลล์มีน้ำตาคลอ
ตอนที่ผมยื่นแว่นตาให้เขาผมก็พูดกับเขาว่า
"พวกนั้นนี่มันงี่เง่าจริงๆ นายเป็นอะไรมั้ย?"
ไคลล์มองผมและพูดว่า
"เฮ้ ขอบคุณนะ"
ด้วยใบหน้าที่สดใสขึ้นจากรอยยิ้ม
ที่แสดงถึงความสำนึกขอบคุณอย่างจริงๆ
ผมช่วยเขาเก็บหนังสือ และถามว่าเขาอาศัยอยู่ที่ไหน
มันน่าแปลกใจมากที่กลายเป็นว่าบ้านของเขาอยู่ใกล้ๆบ้านผม
ผมถามเขาว่าทำไมผมถึงไม่เคยพบเขามาก่อนเลย
เขาบอกว่าก่อนหน้านี้เขาได้ไปเข้าเรียนอยู่ในโรงเรียนเอกชน
ซึ่งแน่นอนว่าผมก็ไม่เคยได้คบหากับเด็กโรงเรียนเอกชนด้วย
ผมช่วยเขาหอบหนังสือและเราสองคน
ก็พูดคุยกันไปตลอดทางที่กลับบ้าน
ผมพบว่าไคลล์เป็นเด็กหนุ่มที่น่าสนใจทีเดียว
ผมถามเขาว่าต้องการจะมาเล่นฟุตบอลด้วยกัน
กับผมและเพื่อนในวันเสาร์รึเปล่า
เขาตอบตกลง
ดังนั้นเราสองคนก็ได้ใช้เวลาในวันหยุดด้วยกันกับพวกเพื่อนๆผม
และยิ่งผมได้รู้จักไคลล์มากขึ้นเท่าไรผมก็รู้สึกว่าไคลล์นิสัยดีมาก
พวกเพื่อนๆของผมเองก็รู้สึกเช่นเดียวกัน
ในเช้าวันจันทร์ถัดมาผมก็ได้เจอไคลล์อีกพร้อม
หนังสือกองโตเต็มหอบแขน ผมหยุดเขาและพูดกับเขาว่า
"ให้ตายเถอะ นายคิดที่จะเพาะกล้ามด้วยกองหนังสือพวกนี้ทุกวันเลยงั้นเหรอ ?"
ไคลล์หัวเราะและแบ่งหนังสือครึ่งหนึ่งให้ผมช่วยถือ
จากวันนั้นมาจนตลอด 4ปี ไคลล์และผมก็กลายเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก
จนเมื่อพวกเราได้เป็นรุ่นพี่ปีสุดท้าย
พวกเราก็ต่างเริ่มคิดถึงเรื่องการเรียนต่อในมหาวิทยาลัย
ไคลล์ตัดสินใจไปเรียนต่อที่มหาวิทยาลัย Georgetown
ส่วนผมก็จะไปเรียนที่ Duke
ผมรู้ดีว่าเราจะยังคงเป็นเพื่อนกันอยู่เสมอ
และระยะทางห่างไกลนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับความสัมพันธ์ของเราเลย
ไคลล์จะเรียนให้จบแพทย์
และผมก็จะเรียนทางด้านธุรกิจโดยใช้ทุนการศึกษาของทีมฟุตบอล
ไคลล์ถูกเลือกให้เป็นผู้กล่าวคำอำลาในพิธีจบการศึกษาของชั้นเรา
ผมยังคงล้อเลียนเขาอยู่ตลอดเวลาในเรื่องที่ว่าเขาเหมือนพวกคนประหลาด
ในขณะที่เขาต้องเตรียมสุนทรพจน์สำหรับงานการจบการศึกษา
ผมก็รู้สึกดีใจมากที่ไม่ใช่เป็นผมที่จะต้องขึ้นไปพูดบนเวที
ในวันงานจบการศึกษา ผมมองดูไคลล์และคิดว่าเขาดูดีมากทีเดียว
ไคลล์นับว่าเป็นหนึ่งในบรรดาคนหนุ่มที่ในที่สุด
ก็สามารถค้นพบตัวเองในช่วงชีวิตของนักเรียนมัธยม
ไคลล์มีรูปร่างล่ำสันขึ้น และดูเหมาะมากกับแว่นตา
เขามีนัดกับสาวๆมากกว่าผมอีกและพวกผู้หญิงก็รักเขาทุกคน
ให้ตายเถอะมันทำให้ผมอดนึกอิจฉาไม่ได้ในบางครั้ง
ผมสังเกตเห็นว่าไคลล์กำลังกังวลเกี่ยวกับการกล่าวสุนทรพจน์
ผมจึงเข้าไปตบหลังให้กำลังใจและพูดว่า
"เฮ้ นายจะต้องทำได้เยี่ยมอย่างแน่นอน!"
ไคลล์มองผมด้วยสายตาเช่นทุกครั้ง
สายตาที่แสดงความขอบคุณอย่างจริงๆ
เขายิ้มพร้อมพูดว่า
"ขอบคุณ"
ไคลล์กระแอมและได้เริ่มต้นสุนทรพจน์ของเขาว่า
"วันจบการศึกษาเป็นโอกาสที่เราจะได้ขอบคุณบรรดาผู้ซึ่งได้ช่วยเหลือพวกเรา
ให้ผ่านพ้นปีแห่งความยากลำบากพวกเขาเหล่านั้นก็คือ
พ่อ แม่ คุณครู พี่น้องของคุณ หรือแม้แต่โค้ชกีฬาของคุณด้วย
แต่อันที่จริงแล้วผู้ที่คอยช่วยเหลือคุณมากที่สุดนั้นก็คือเพื่อนๆของคุณนั่นเอง
ผมได้มายืนอยู่ ณ ที่นี้ก็เพื่อที่จะบอกคุณทุกคนว่า
การได้รับความเป็นเพื่อนจากใครบางคนนั้น
นับเป็นการได้รับของขวัญอันสุดวิเศษ
และผมขอยืนยันสิ่งนี้ด้วยการเล่าเรื่องของผมให้พวกคุณ "
ผมมองไคลล์เพื่อนคนนี้ของผมอย่างไม่เชื่อสายตา
ในขณะที่เขาเล่าถึงวันแรกที่เราสองคนได้พบกัน
เขาเล่าว่า
"เขาได้วางแผนที่จะฆ่าตัวตายในช่วงวันหยุด"
โดยเขาเตรียมการทำความสะอาดล๊อคเกอร์เก็บของที่โรงเรียน
และขนของทุกอย่างในนั้นกลับบ้าน
เพื่อที่แม่ของเขาจะได้ไม่ต้องลำบากมาทำให้เขาอีกในภายหลัง
ไคลล์มองนิ่งมาที่ผมพร้อมยิ้มน้อยๆ
น่าขอบคุณจริงๆที่ผมได้ถูกช่วยชีวิตไว้
เพื่อนของผมช่วยผมไว้จากการตัดสินใจกระทำ
สิ่งซึ่งจะทำให้ผมไม่มีโอกาสได้มายืนพูดอยู่ ณ ที่นี้อีกเลย
ผมได้ยินเสียงเฮือกหายใจจากกลุ่มคนที่อยู่ในพิธี
ในขณะที่ได้ฟังเด็กหนุ่มรูปหล่อที่เป็นที่ชื่นชอบของพวกเขาเล่าให้ฟัง
ถึงช่วงเวลาแห่งความอ่อนแอในชีวิตผมได้เห็นแม่ และพ่อของไคลล์มองมาที่ผม
พร้อมรอยยิ้มแสดงความขอบคุณอย่างเดียวกัน
และในบัดนั้นเองที่ผมได้เข้าใจถึงความหมายอันลึกซึ้งของคำที่ว่า
คนเราไม่ควรประเมินค่าในการกระทำของตนเองน้อยไป
เพราะเพียงแค่สิ่งเล็กน้อยที่คุณแสดงต่อใครบางคน
ก็สามารถที่จะเปลี่ยนชีวิตของเขาคนนั้นได้ทันที
ไม่ว่าจะเป็นในทางดี หรือ ทางร้ายก็ตาม ในความเป็นเพื่อนนั้น
พวกเราได้ถูกกำหนดให้มาพบเจอกัน
เพื่อที่จะได้ช่วยเป็นแรงผลักดันในชีวิตของกันและกันในทางใดทางหนึ่ง
ไคลล์จบสุนทรพจน์ของเขาว่า
"เพราะเพื่อนคือเทพหรือนางฟ้า
ผู้ที่จะช่วยโอบอุ้มเราให้สามารถยืนหยัดบนขาได้อีกครั้ง
เมื่อปีกของเราลืมวิธีการที่จะบินไปชั่วขณะหนึ่ง"
Fwd.
บทความใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
1
2
Wish You Happinessss
Success is not the key to happiness.
Happiness is the key to success.
If you love what you are doing,
you will be successful.
~ Albert Schweitzer ~
Wish You Happinessss