1
2

9ไอเดีย จัดมุมที่ถูกลืม

มุม - Moom - Playground



9ไอเดีย จัดมุมที่ถูกลืม
จำฉันได้ไหม...ฉันยังมีประโยชน์อยู่นะ” นี่อาจเป็นเสียงสะท้อนจากมุมที่คุณไม่ค่อยได้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นห้องใต้หลังคา ห้องใต้บันได หรือห้องแม่บ้านด้านหลัง คงเพราะมันไปหลบอยู่ในหลืบ หรือทำให้คุณรู้สึกอึดอัดไม่อยากเข้าไป อย่างไรก็ตามห้องเหล่านี้ยังคงมีประโยชน์กับคุณเสมอ เพียงแค่ลองปรับ ขยับ เพิ่มไอเดียเข้าไป ห้องดังกล่าวก็จะกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ... และเราก็มีไอเดียที่ว่านั้นมาฝากคุณด้วย มาดูกันเลยดีกว่า
1.ใต้หลังคา...น่านอน น่าเก็บของ
บรรยากาศของห้องใต้หลังคาทั้งสงบและเป็นส่วนตัวมากๆ ถ้าบ้านคุณมีหลังคาสูง ก็สามารถดัดแปลงเป็นห้องนอนเล็กๆ จะนอนเองหรือไว้รับแขกได้สบาย แต่หลายคนอาจท้วงว่าอากาศร้อนๆอย่างในบ้านเรา ห้องใต้หลังคาก็คือเตาอบดีๆนี่เอง เอาละนอนไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ทำเป็นพื้นที่เก็บของก็ได้ บ้านที่มีห้องใต้หลังคาอยู่แล้ว อาจเจาะช่องทำบานเปิดบริเวณผนังด้านทิศเหนือ เพื่อรับแสงแดดและระบายอากาศ แต่หากที่บ้านไม่มีพื้นที่ใต้หลังคา ทว่าใจชอบ ลองรื้อเพดานออกบางส่วน แล้วต่อเป็นชั้นลอยใช้เก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้แล้ว โดยหาบันไดแบบพับเก็บได้มาพาด จะได้ไม่เปลืองเนื้อที่


2.ใต้บันได ...ไว้เก็บของ
แบ่งพื้นที่ใต้บันไดเป็นสองส่วน ส่วนแรกคือส่วนใต้บันไดที่มีพื้นที่เตี้ยๆ บริเวณนี้ออกแบบเป็นตู้ลิ้นชักเก็บของที่ยังพอหยิบใช้อยู่บ้าง ส่วนที่สองคือส่วนใต้ชานพักบันไดซึ่งมีความสูงพอสมควรสามารถทำเป็นห้องเก็บของที่หยิบใช้บ่อย แต่ไม่อยากให้เกะกะเมื่อเวลาไม่ได้ใช้งาน ภายในวางตู้เล็กๆหรือกล่อง สำหรับเก็บของใช้ โดยแยกประเภทให้ชัดเจน จะได้หยิบใช้สะดวก


3. โถงพักบันได...ไว้โชว์
บริเวณนี้สามารถจัดเป็นแกลเลอรี่ส่วนตัวของเจ้าของบ้านได้ ไม่ว่าจะอวดภาพเขียนสวยๆ หรือภาพถ่ายของคนในครอบครัว โดยเลือกใส่ในกรอบรูปเก๋ๆ วางไว้ตรงขอบหน้าต่างหรือติดบนผนัง ก็ดูน่ารักดี


4. ห้องซักผ้า...สร้างระเบียบ
บ้านจัดสรรจำนวนไม่น้อยที่ออกแบบให้มีห้องแม่บ้านด้วย แต่เนื่องจากมีพื้นที่ไม่กว้างมากนัก และมักอยู่หลังบ้านติดกับส่วนซักล้าง เราจึงไม่ค่อยได้ใช้งานเท่าไร จริงๆแล้วบริเวณนี้เราสามารถปรับเป็นห้องซักรีดได้ โดยจัดลำดับการใช้งานให้ดี เริ่มจากเครื่องซักผ้าซึ่งต้องมีการเจาะท่อน้ำดีและน้ำทิ้ง อาจแยกไปวางด้านหลังห้องหรือที่ส่วนซักล้าง ใกล้กันวางตะกร้าผ้าไว้สองใบ ใบหนึ่งสำหรับใส่ผ้านำไปตาก อีกใบสำหรับเก็บผ้าแห้งเตรียมนำมารีด ถัดมาอาจทำที่แขวนยึดติดกับผนังแล้วเรียงไม้แขวนเสื้อให้เป็นระเบียบ แยกขนาดไม้ให้สามารถหยิบใช้ได้สะดวก ถัดมาอีกจัดเป็นมุมรีดผ้าโดยออกแบบให้พับเก็บบนผนังได้ เป็นการประหยัดเนื้อที่ มุมหนึ่งของห้องวางตู้ใบใหญ่สำหรับเก็บอุปกรณ์ต่างๆ เช่น อุปกรณ์ซักล้าง ไม้กวาด ตะกร้า หน้าตู้อาจหาบันไดไม้มาพิง แล้วปรับใช้เป็นที่แขวนของได้ นอกจากนี้บริเวณลานซักล้างด้านหลังยังสามารถปรับพื้นที่ส่วนหนึ่งทำเป็นกระบะทรายให้เด็กๆมาเล่นได้


5. ห้องดนตรีส่วนตัวหลังบ้าน
ห้องแม่บ้านขนาดเล็กซึ่งมีพื้นที่แค่ 2 x 3 เมตร ไหนๆก็ไม่ค่อยได้ใช้งานแล้ว ลองปรับเป็นห้องซ้อมดนตรีดูไหม เพราะคุณสมบัติของห้องดนตรีส่วนใหญ่ก็มีขนาดเล็กและมีหน้าต่างบานเปิดแค่สองบาน เมื่อปิดหน้าต่างก็ช่วยกันเสียงไม่ให้ไปรบกวนคนข้างนอกมากนัก แถมแสงสว่างยังลอดเข้ามาได้ ทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด แต่ถ้าอยากให้เสียงเพลงดังกระหึ่มแบบไม่ต้องสนใคร ลองกรุแผ่นกันเสียงรอบห้องก็จะช่วยได้อีกทาง ส่วนพื้นห้องปูพรมชิ้นก็เหมาะดี เพราะช่วยเก็บเสียงได้ด้วย มุมหนึ่งของห้องวางตู้สูงไว้จัดเก็บหนังสือเพลง แอมป์พลิไฟล์เออร์ และสายกีตาร์ต่างๆ ถ้ามีอิเล็กโทนก็วางไว้ชิดมุมหนึ่งของห้อง ส่วนกีตาร์ตัวไหนหยิบมาเล่นบ่อย ก็ลงทุนซื้อที่วางกีตาร์แบบตั้งพื้นที่พับเก็บได้ จะช่วยให้หยิบใช้ง่ายขึ้น ส่วนตัวที่ไม่ค่อยได้หยิบมาเล่น อาจทำชั้นวางติดผนังเพื่อเก็บให้เป็นระเบียบ หรือจะเก็บใส่กล่องกีต้าร์ให้เป็นสัดส่วนก็ได้ แถมช่วยป้องกันความเสียหายได้ด้วย


6. เก็บรองเท้า เก็บร่ม หน้าบ้าน
พื้นที่ที่เชื่อมโยงระหว่างโรงรถกับโถงหน้าบ้านสามารถออกแบบเป็นที่เก็บของใช้ที่ต้องเปรอะเปื้อนมาจากภายนอกบ้าน อย่างหมวก รองเท้า หรือร่มได้ แยกเป็นพื้นที่ส่วนเปียกและส่วนแห้ง โดยใช้วัสดุปูพื้นที่แตกต่างกันเป็นตัวแบ่งเขต ในพื้นที่ส่วนเปียกอาจเตรียมตะแกรงซ้อนบนกระบะสเตนเลสไว้พักรองเท้าที่เปื้อนหรือเปียก ควรให้อยู่ใกล้บริเวณที่นั่งใส่รองเท้า ผนังด้านหนึ่งติดตะขอเกี่ยวทำเป็นที่แขวนร่มโดยข้างใต้อาจทำกระบะรองรับน้ำที่หยดจากร่มอีกชั้น เพื่อไม่ทำให้พื้นที่ใกล้เคียงต้องเปียกและสกปรกไปด้วย


7. ของใช้ติดตัว...ไม่ต้องกลัวลืม
ผนังโล่งหน้าบ้านที่เราต้องผ่านเข้าผ่านออกทุกวัน ลองหาตู้ที่มีชั้นวางของเปิดโล่ง มีช่องเยอะๆสลับกับบานเปิดบ้างมาวาง ไว้ใส่ของสำคัญหรือเก็บของใช้ประจำตัว เช่น ปากกา กุญแจรถ อาจแปะกระดาษโน้ตไว้ส่งข่าวให้คนที่ตื่นทีหลังก็สะดวกดี


8. เก็บอุปกรณ์เครื่องมือในโรงรถ
โรงรถส่วนใหญ่มักปล่อยผนังให้ว่างๆไร้ประโยชน์ ลองเพิ่มตู้ติดผนังความลึกไม่มากแค่ 20-25เซนติเมตร สำหรับเก็บอุปกรณ์ช่าง แต่ถ้าเครื่องมือมีขนาดใหญ่ ก็อาจติดแค่ตะขอเกี่ยว แล้วแขวนเรียงเครื่องมือเหล่านั้นให้เป็นระเบียบ


9. มุมทำงานในสวน
โรงเรือนหลังเล็กในสวนสามารถใช้เป็นมุมสุดเก๋สำหรับนั่งทำงานและห้องเก็บของได้ แยกบานเปิดให้เป็นสัดส่วนคล้ายเป็นห้องห้องหนึ่ง กั้นพื้นที่เป็นสองห้อง ห้องแรกด้านในใช้เก็บของ อีกห้องปรับเป็นมุมทำงาน วางโต๊ะแบบพับเก็บติดกับผนัง เพื่อประหยัดเนื้อที่ แต่ถ้ามีพื้นที่เพียงพออาจทำเป็นห้องทำงานในสวนได้แบบเต็มพื้นที่เลย โดยให้ช่างไม้ทำบ้านปีกไม้หรือบ้านเคบินหลังเล็กๆ ด้านนอกตกแต่งด้วยไม้ให้ดูสวยงาม ข้างในแยกสัดส่วนใช้เป็นมุมทำงานฝีมือหรืองานไม้ก็เข้าท่าดี


เรื่อง : “อัจฉรา จีนคร้าม”
ภาพประกอบ : มาโนช กิตติชีวัน






เรื่อง.."ความคงทน กับ ความสวยงาม"..


ผู้หญิงธรรมดา - เก่ง จักรพงษ์





เรื่อง.."ความคงทน กับ ความสวยงาม"..

เมื่อย่างเข้าสู่เหมันตฤดู ต้นโบตั๋น ซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีลำต้น และ ดอกอันงดงาม จนได้ฉายาว่า.."เจ้าหญิง แห่งหมู่มวลดอกไม้"..ก็เริ่มออกดอกยิ้มแย้ม และทักทายให้กับ ลมหนาว ที่เข้ามาเยี่ยมเยียน


ต่างจากต้น กระบองเพชร ที่มีรูปร่างขี้ริ้ว ลำต้น คดๆ งอๆ ไม่สมส่วน ไม่สวย ไม่น่ารัก และ ลำต้นของมัน ก็เต็มไปด้วยหนาม น่าเกลียดมากมาย..
.."ดูสิ ต้นอะไรก็ไม่รู้ ช่างไม่มี ความสวยงามเอาซะเลย ช่างน่ารังเกียจ เสียนี่กระไร
สู้ฉันไม่ได้ ฉันสวยงาม คนมากมายก็นิยม ชมชอบฉัน..เราช่างต่างกัน ราวฟ้ากับดิน"
ต้นโบตั๋น  พูดเยาะเย้ย ถากถางกระบองเพชร


เจ้ากระบองเพชร จึงตอบกลับไปว่า.."อนิจจา  โบตั๋นผู้น่าสงสาร เจ้าลุ่มหลง ในตัวเองมากเหลือเกิน คนเราจะมองกัน แค่เพียง "ภายนอก" ไม่ได้หรอก การมีชีวิตอยู่ เพียงเพื่อ ความสวยงาม จะมีประโยชน์อันใดเล่า เพราะมันเป็นเพียง การ"ฉาบ" ไว้ เท่านั้น จิตใจที่แข็งแกร่ง ต่างหาก ที่จะพาเราฝ่าฟัน "อุปสรรค" ต่างๆไปได้.."


ฤดูกาล ผันเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ต่อมาเมื่อถึงฤดูร้อน ความเหือดแห้ง และ แห้งแล้งก็มาเยือน ต้นโบตั๋น  ที่เคยสะพรั่ง ไปด้วยดอกที่สวยสด..ตอนนี้กำลังจะ "ตาย"..ใบของมัน"แห้งเหี่ยว" ดอกของมันก็ "ร่วงโรย..."


แต่..กระบองเพชรนั้น ยังยืนตระหง่าน อยู่ได้ทุกฤดูกาลที่ผ่านมา ลำต้นของมันยังแข็งแรง มันไม่สะทกสะท้าน ต่อความแห้งแล้ง และ ยังคงสดชื่น มีชีวิตชีวาเหมือนเดิม..



นิทานเรื่องนี้..สอนให้รู้ว่า..
"คุณค่า" ของคน ไม่ได้อยู่ที่ความ "สวยงาม"..หากอยู่ที่ จิตใจที่ "แข็งแกร่ง" ที่สามารถ ดำรงชีวิต อยู่ท่ามกลางอุปสรรคนานาประการ ได้ต่างหาก"



หาย คำสั้น ๆ คำหนึ่ง


KLEAR หาย



หาย.... คำสั้น ๆ คำหนึ่ง
คำสั้น ๆ คำหนึ่ง ที่นึกถึงขึ้นมาเฉย ๆ เมื่อกี้ว่า เมื่อไหร่ตัวเองจะ...หาย

คำนี้ถ้านำมันไป ต่อท้าย อะไรต่อมิอะไรในชีวิตละก็ มัน ทุกข์เห็น ๆ
ไอโฟน ... หาย
เงิน ... หาย
รถ ... หาย
ความสุข ... หาย

 
แต่ถ้ามันมา นำหน้า อีกหลายคำที่ไม่ค่อยจะดี มันก็จะ กลายเป็นคำดีๆ เป็นสุขขึ้นมาได้ซะงั้น
หาย ... ป่วย
หาย ... ฟุ้งซ่าน
หาย ... เจ็บ
หาย ... ทุกข์


พอคิดไปมากกว่านั้น ว่าที่แท้มันก็คือความจริง ที่ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนแล้วแต่จะ ... หาย
ความสุข ... ก็หาย
ความทุกข์ ... ก็หาย
ตัวเรา ... ก็หายไปในที่สุด


เพราะไม่มีอะไรเลย ที่จะเป็นของเราอย่างแท้จริง 
ดังนั้น ถึงตอนนี้ จะยัง ใจ ... หาย
แต่ก็โชคดีที่เรายัง หาย ... ใจ

วันนี้เรายังโชคดีที่ยังหายใจ ถ้าหมดลมหายใจไปแล้วเราก็จะไม่มีโอกาสได้ทำอะไรอีกเลย เพราะฉะนั้น จงทำวันนี้ให้ดีที่สุด ก่อนที่มันจะสายไป


www.siamsouth.com





นิทานเซน : ปีศาจแมงมุม


จิตใต้สำนึก (Subconscious) - พิจิกา [Official Audio]



นิทานเซน : ปีศาจแมงมุม

ยังมีพระเซนรูปหนึ่ง ทุกครั้งที่กำหนดจิตใจเพื่อเข้าฌาณสมาธิ พลันปรากฏแมงมุมตัวใหญ่เข้ามารบกวนอยู่เสมอ ไม่ว่าจะไล่อย่างไรก็ไม่ไป พระเซนไม่ทราบว่าเป็นเรื่องราวใด สุดท้ายได้แต่ไปปรึกษาอาจารย์เซน


เมื่อทราบปัญหาของศิษย์ อาจารย์เซนจึงแนะนำว่า
"ครั้งต่อไปเมื่อเจ้านั่งสมาธิ จงเตรียมพู่กันจุ่มหมึกเอาไว้ หากปรากฏแมงมุมขึ้นอีก เจ้าจงใช้พู่กันในมือวาดวงกลมเอาไว้ที่ท้องของแมงมุมเพื่อทำสัญลักษณ์ คราวนี้เราจะได้รู้กันว่า ที่แท้แล้วแมงมุมตัวนี้ เป็นสัตว์ประหลาดมาจากที่ใดกันแน่"


พระเซนนำคำแนะนำของอาจารย์มาปฏิบัติ ครั้งต่อมาเมื่อเขาเริ่มนั่งสมาธิและปรากฏแมงมุมออกมารบกวนเช่นเคย จึงรีบใช้พู่กันที่เตรียมเอาไว้ วาดวงกลมบนท้องของแมงมุม
ทว่าเมื่อออกจากสมาธิ พระเซนจึงพบว่าวงกลมที่เขาวาดเอาไว้บนท้องของแมงมุม บัดนี้กลับมาอยู่บนท้องของเขาเอง


ยามนี้ อาจารย์เซนจึงกล่าวว่า 
"ความคิดร้ายดีล้วนสร้างจากใจ ที่แท้แมงมุมตัวนั้นเป็น "จิต" ของเจ้านั่นเองที่สร้างขึ้นมา"


ปัญญาเซน : อุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดของคนเรา มักเกิดขึ้นมาจากภายในจิตใจของตนเอง


ที่มา : http://www.buddhist.idv.tw





Happinessss Fb : Life Quotes Part2




Happinessss Fb : Life Quotes Part 2

1. "วิธีสร้างความตื่นเต้นเร้าใจได้เยี่ยมยอดที่สุดคือ รอจนใกล้กำหนดเส้นตายแล้วค่อยลงมือทำ"
A perfect method for adding drama to life is to wait until the deadline looms large.
หนังสือ : Wish you happiness

2. “ไม่ว่าคุณจะไปที่ไหน จงไปพร้อมกับหัวใจทั้งหมดของคุณ”
“Wherever you go, go with all your heart.”
:: ขงจื้อ / Confucius ::

3. I know I'm not perfect, but I do my best.
Please understand my mistake,
and I promise to understand yours, too.
:: happinessinyourlife.com ::

4. It happens You learn.
A frog is a frog.
A prince is a prince.


There's just no changing frogs
no matter how many times
you kiss them.


Let them hop on out of your life
and hold out for a prince.
They're out there.
By Doe Zantamata
:: happinessinyourlife.com ::

5. "อย่ากลัวเงา เพราะเงา หมายความว่า.. มีแสงสว่าง ส่องอยู่ใกล้ ๆ สักแห่ง"
Never fear shadow. They simply mean there’s a light shining some where near by.


6. สุภาษิตของอินเดีย
สุภาษิตของอินเดียกล่าวว่า เวลามองผู้หญิง ให้มองทะลุไปถึงความเป็นแม่ ถ้าเธอมีความเป็นแม่ในตัวนั่นแสดงว่า เธอมีคุณสมบัติความเป็นภรรยาของคุณได้ในอนาคต ขณะเดียวกัน ผู้หญิงถ้ามองผู้ชาย ก็ต้องมองให้ทะลุไปถึงความเป็นพ่อที่มีในตัวของเขา ถ้าคุณเห็นความเป็นพ่อที่มีอยู่ในตัวเขา นั่นก็หมายความว่า เขาพร้อมแล้วที่จะมาเป็นสามีของคุณได้ในอนาคต


บางครั้งในวัฒนธรรมอินเดียโบราณก็กล่าวว่า ผู้ชายและผู้หญิงที่แต่งงานกัน ต่างกันเป็นส่วนหนึ่งของกันและกันท่านใช้คำว่า "อรธางคินี" (ผู้เป็นครึ่งหนึ่งของสามี, ครึ่งหนึ่งของภรรยาเสมอมา) หมายความว่า ทั้งเธอและฉันต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน


ด้วยเหตุนี้ เมื่อคู่สมรสมาแต่งงานกันก็ขอให้คิดอยู่เสมอว่า ชีวิตของเรานั้นมีสัดส่วนของเธออยู่ครึ่งหนึ่ง ผู้หญิงก็ขอให้คิดอยู่เสมอว่า ชีวิตนี้มีสัดส่วนของสามีอยู่ครึ่งหนึ่งด้วยวิธีคิดแบบนี้ เวลาภรรยาหรือสามีจะทำอะไรก็ตาม ก็จะเกรงอกเกรงใจซึ่งกันและกัน ก็จะเคารพ นับถือ ให้เกียรติไว้วางใจซึ่งกันและกัน ถ้าเรามองว่า ทั้งเธอและฉันต่างก็เป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน เราก็จะระมัดระวังในการดำเนินชีวิต ไม่ละเมิดจริยธรรมทางเพศต่อคู่สมรส สิ่งนี้นับว่าเป็นคติธรรมทางวัฒนธรรมอินเดียที่งดงามและน่าหยิบยกมาเป็นแบบอย่างมาก


>>ที่มา... หนังสือ SoulMate&Marriage คู่รัก&คู่ชีวิต โดย ว.วชิรเมธี


7. "ความสุขนั้นเปรียบดังผีเสื้อ เมื่อใดที่เราไล่คว้ามันก็จะบินห่างไปไกล หากเรานั่งลงนิ่งๆ มันจะมาหาเราเอง"
Happiness is a butterfly,
which when pursued,
is always just beyond your grasp,
but which, if you will sit down quietly,
may alight upon you
:: นาทาเนียล ฮอว์ธอร์น/Nathaniel Hawthorne ::


8. ‎"Stay Strong"
"ยืนหยัด และเข้มแข็งเข้าไว้นะ"
ขอส่งกำลังใจ ให้กับคนที่กำลังท้อแท้นะ ^^



The most inspiring video you will ever watch!
9. แรงบันดาลใจ เพื่อเปลี่ยนชีวิตให้ดีกว่าเดิม (^_^)V

10. เจอคำคมในหนังสือYour World Your Way ของ AIS
"เส้นแบ่งระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลว
สามารถแสดงออกได้ใน 5 พยางค์ คือ
ฉัน-ไม่-มี-เว-ลา "


อ่านแล้วสะดุ้ง แต่นึกเถียงในใจ


ไม่เป็นไร...."ฉันมีนาฬิกา"
:: หนุ่มเมืองจันท์ ::


11. Which step have you reached today?
:: photobucket.com ::

12. ปราศจากความอ่อนน้อมถ่อมตนแล้ว
ปราศจากความอ่อนน้อมถ่อมตนแล้ว ก็ยากที่ผู้น้อยจะเอาชนะผู้ใหญ่
ปราศจากความอ่อนน้อมถ่อมตนแล้ว ก็ยากที่ผู้ต่ำต้อยจะกลายเป็นผู้สูงส่ง
ปราศจากความอ่อนน้อมถ่อมตนแล้ว ก็ยากที่นายจะได้คนเก่ง คนดี 
คนที่เป็นมืออาชีพมาเป็นลูกน้อง
และหากปราศจากความอ่อนน้อมถ่อมตนแล้ว ก็ยากที่ปัญญาชนจะได้รับการเทิดไว้ในสถานะอันสูงสุดตลอดกาล
:: พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ::

13. "แฟนเราน่ารักที่สุด เพราะคนที่น่ารักกว่าแฟนเรา เค้าก็ไม่รักเราเท่าแฟนเราหรอก!" ^^
:: Roundfinger ::

ตรงกับธรรมะข้อ..สันโดษเลยนะคะนี่ ^^ ...เพราะถ้าสำหรับความรัก ถ้าเรามุ่งหาแต่คำว่าดีกว่า..เราก็คงต้องวิ่งหา วิ่งล่าความารักเรื่อยไป แต่คนสำหรับที่รู้จักความรักจริงๆ เค้าก็จะแบบนี่แระค่ะ คือคนที่ "พอดีและดีพอ" สำหรับเราค่ะ 
:: รดา นะคะ ::


A Dream Is A Wish Your Heart Makes
14. "ความฝัน คือ ความปราถนาของหัวใจ"
A dream is a wish your heart makes.
~Cinderella


A dream is a wish your heart makes
When you're fast asleep
In dreams you lose your heartaches
Whatever you wish for, you keep


Have faith in your dreams and someday
Your rainbow will come smiling thru
No matter how your heart is grieving
If you keep on believing
the dream that you wish will come true


Cinderella: [to the clocktower chiming] Oh, that clock! Old killjoy. I hear you. "Come on, get up," you say, "Time to start another day."


"แม้จะมีคนมาสั่งให้ฉันทำโน้นทำนี่รอบตัว แต่ก็สั่งให้ฝันหยุดฝันไม่ได้"
Even he orders me around. Well, there's one thing. They can't order me to stop dreaming.


~Cinderella
Copyright Disney


15. วันนี้วันพระ :
ถ้ายอมกะเทาะเปลือกแห่งทิฐิ ความยึดถือติดมั่น รั้นดื้อถือในความคิดเห็นของตน หรือสลัดอัตตาตัวตนทิ้งไป ทำตนเป็นคนเล็กคนน้อย อ่อนน้อมถ่อมตน วางตนเป็นคนธรรมดาสามัญ ไม่ยโสโอหัง ปล่อยวางหัวโขนอย่างรู้เท่าทันโลกธรรม เดินอยู่บนวิถีทางแห่งปัญญาและความเรียบง่ายแล้ว คนเช่นนี้ก็จะสามารถค้นพบ “ทองคำแท้” ที่ซุกซ่อนอยู่ภายในตัวตนของตนได้เสมอ โดยมิพักต้องรอให้ใครต่อใครช่วยกะเทาะแต่อย่างใด
:: พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ::

16. "น้ำมีค่ามากกว่าทองคำ"
WATER IS WORTH MORE THAN GOLD

17. It's just a bad day not a bad life.


18. CREATIVITY starts from a BELIEF

19. "จิตใต้สำนึกของคนเรานั้น เป็นเหมือนที่เก็บเมล็ดพันธ์
วางใจเหมือนชาวสวนหมั่นกำจัดวัชพืชเมล็ดพันธ์ไม่ดีออกจากใจ"
:: ครูอ้อย ฐิตินาถ ณ พัทลุง ::


20. ถ้าไม่ "รัก" อย่า "กั๊ก" นะ ^^

If You Love Me (Let Me Know)
:: Olivia Newton-John ::


You came when I was happy in your sunshine
I grew to love you more each passing day
Before too long I built my world around you
And I prayed you'd love enough of me to stay


If you love me let me know
If you don't then let me go
I can't take another minute
Of a day without you in it
If you love me let it be
If you don't then set me free
Take the chains away
That keep me loving you


The arms that open wide to hold me closer
The hands that run their fingers through my hair
The smile that says "hello, it's good to see you"
Anytime I turn around to find you there


It's this and so much more that make me love you
What else can I do to make you see
You know you have whatever's mine to give you
But a love affair for one can never be


If you love me let me know
If you don't then let me go
I can't take another minute
Of a day without you in it
If you love me let it be
If you don't then set me free
Take the chains away
That keep me loving you
Take the chains away
That keep me loving you
Loving you


21. Dear Morning, Please come back later.Thank you.^^
:: happinessinyourlife.com ::


22. ทุกครั้งที่มีความรัก
ควรเผื่อใจไว้สำหรับการอกหักที่อาจจะเกิดขึ้นได้เสมอ
ทุกคนที่มีความรัก ควรภาวนาคาถากันน้ำตาไหลที่ว่า
"ไม่แน่ ไม่ได้ดั่งใจ ไม่มีอะไรสมบูรณ์" เอาไว้เสมอ
:: พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี ::


23. "ชีวิตไม่ใช่ของคุณอีกต่อไป เมื่อหัวใจไปผูกติดไว้กับผู้อื่น"
-- ภาษิตฮินดู --

24. ชีวิตที่ดีต้องมีโอกาสเลือก
“คนโสด”จึงไม่ควรทุกข์กับวันวาเลนไทน์
เพราะยังมี”โอกาส”
”คนไม่โสด”ต่างหากที่ควรจะทุกข์
เพราะไม่มีโอกาสเลือกแล้ว..ฮิ้วววว
:: หนุ่มเมืองจันท์ ::


25. Life is too short to wake up in the morning with regrets.
So, love the people who treat you right
and forget about the ones who don’t…
If you get a chance - take it.
If it changes yourself - let it.
Nobody said it would be easy,
they just promised
it would be worth it.
:: couragehopestrength ::

26. Just 3 keys to Enjoy Life :

CTRL+ALT+DEL


1. Control yourself
2. Look for Alternative solutions
3. Delete the situation which gives you tension...!!
:: InspireYourLiving ::

27. มีความสุขกับสิ่งที่มีอยู่ ^^
"ความสุขไม่เคยมาถึง ผู้ที่ไม่ชื่นชมสิ่งที่พวกเขามีอยู่แล้ว ..."
Happiness will never come to those who fail to appreciate what they already have...
:: ภาพ : chinasmack.com ::

28. อ่าน
อ่านหนังสือออก..... สำคัญ
อ่านเหตุการณ์ออก..... สำคัญกว่า
อ่านคนอื่นออก..... สำคัญยิ่ง
อ่านตนเองออก..... สำคัญที่สุด
:: ธรรมะใกล้ตัว dharma at hand ::


29. If only we can have these buttons.
For our lives....
Rewind..... to undo any mistake.
Play..... to enjoy and live happily.
Pause..... to treasure it all.
Stop..... to just take a deep breath.
Fast Forward..... to see.




Joshua Bell "Stop and Hear the Music" by the Washington Post
คลิป การแสดงของ โจชัว เบล (Joshua Bell) ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน
30. เพียงแค่หยุดมอง แล้วคุณจะพบสิ่งพิเศษที่ซ่อนอยู่
ขึ้นชื่อว่า "เช้าวันทำงาน" เชื่อเลยค่ะว่า มนุษย์งานอย่างเราทุก ๆ คน ต้องตกอยู่ในสภาวะเร่งรีบ สองเท้ารีบก้าวเพื่อที่จะไปให้ทันเข้าทำงาน ไปพบลูกค้า หรือไม่ก็ส่งลูกเข้าโรงเรียน แต่คุณรู้ไหมว่า ... ในท่ามกลางสภาวะเร่งรีบเช่นนี้ สิ่งดี ๆ อาจผ่านตัวคุณไป โดยที่คุณไม่อาจรู้ตัว หรือไม่แม้แต่จะเหลียวมองเลยก็ตาม ซึ่งเพียงแค่เสี้ยววินาทีเล็ก ๆ นั้น ถ้าคุณหยุดมองที่จะสนใจสักนิด คุณอาจจะได้พบสิ่งดี ๆ ที่พิเศษซ่อนอยู่ก็ได้...


เฉกเช่น เรื่องราวที่เรานำมาให้ได้อ่านกันในวันนี้ เป็นเหตุการณ์จริงที่ถูกแชร์ส่งต่อกันในเฟซบุ๊กกันอย่างมากมาย ... โดยเป็นเรื่องของชายคนหนึ่ง ที่เป็นถึงนักดนตรีระดับโลก ไม่ว่าเขาเปิดการแสดงเมื่อไร บัตรก็ถูกจองเกลี้ยงภายในพริบตา แต่กลับกลายเป็นคนที่ผู้คนสนใจทั่วไปไม่สนใจ เพียงเพราะเขายืนแสดงดนตรีที่สถานีรถไฟใต้ดิน ... โดยที่ไม่มีใครรู้ว่า เขาเป็นถึงนักดนตรีระดับโลกที่คนต่อแถวเข้าคิวซื้อตั๋ว เพื่อที่จะฟังเพียงเพลงบรรเลงแค่เพลงเดียวเท่านั้น


เรื่องนี้มีอยู่ว่า ... เช้าวันหนึ่งในวันที่อากาศหนาวของเดือนมกราคม ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่เมืองวอชิงตัน ดีซี ในชั่วโมงเร่งด่วน ขณะที่ทุกคนรีบไปทำงาน มีชายคนหนึ่งวางสัมภาระลงและเริ่มเล่นไวโอลิน บทประพันธ์ของบาค เป็นเวลา 45 นาที มีผู้คนผ่านไปมาประมาณ 1,100 คน


... 3 นาทีผ่านไป มีชายวัยกลางคนสังเกตเห็นนักไวโอลิน เขาชะลอฝีเท้า และก็รีบเดินต่อไป


... อีกหนึ่งนาทีต่อมา เขาได้รับเงินดอลล่าร์แรก จากผู้หญิงคนนึงที่ให้เงินโดยไม่หยุดเดิน แล้วก็เลยจากไป


... ไม่กี่นาทีต่อมาชายคนหนึ่ง เอนหลังพิงกำแพงดูการแสดงของนักไวโอลิน แต่ก็ไม่วายมองนาฬิกาแล้วก็ออกเดินต่อ


... คนที่ตั้งใจดูมากที่สุด ดูจะเป็นเด็กน้อยอายุ 3 ขวบ แต่แม่ก็พยายามบังคับให้หนูน้อยเดินต่อ และดูเหมือนเด็ก ๆ ทุกคนก็จะชอบดู แต่โดนพ่อแม่ บังคับให้รีบเดินต่อเหมือนกัน


ตลอดระยะเวลาการแสดง 45 นาที มีเพียงคนที่หยุดดู และใช้เวลา มีคนให้เงินวณิพก 20 คน เป็นจำนวน 32 ดอลลาร์ เมื่อการแสดงจบลง ความเงียบงันก็เข้าแทนที่ ไม่มีใครรู้ว่าการแสดงจบแล้ว ไม่มีเสียงปรบมือ เหมือนไม่มีใครรับรู้เลยว่าเคยมีการแสดงเกิดขึ้น


ไม่มีใครรู้ว่านักไวโอลินคนนั้นคือ โจชัว เบล (Joshua Bell) หนึ่งในนักไวโอลินที่เก่งที่สุดในโลก เขาเลือกเล่นเพลงที่เป็นบทประพันธ์ที่ยากและไพเราะที่สุดบทหนึ่ง ด้วยไวโอลินราคากว่า 100 ล้านบาท


2 วันก่อนหน้าที่เขาจะมาแสดงในรถไฟฟ้าใต้ดิน บัตรคอนเสิร์ตที่บอสตันของเขาขายเกลี้ยงในพริบตา ที่ราคาบัตรเฉลี่ยตกใบละ 3,500 บาท และเพลงที่เล่นวันนี้ก็เป็นเพลงเดียวกับในคอนเสิร์ตที่บอสตัน


นี่คือเรื่องจริงที่เป็นการทดลองของหนังสือพิมพ์ชื่อดัง The Washington Post เพื่อทดสอบการรับรู้ การจัดลำดับความสำคัญของผู้คน คำถามที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อทดสอบคือ: ในสภาพแวดล้อมทั่วไป ในช่วงเวลาที่ทุกคนรีบเร่ง เราเห็นความงามมั้ย ? เราจะหยุดเพื่อชื่นชมสิ่งที่สวยงามหรือไม่ เราจะเห็นสิ่งมหัศจรรย์ในที่ ๆ เราไม่คาดคิดหรือไม่


หรือคำตอบของการทดลองนี้อาจจะเป็น : 
ถ้าเราไม่มีเวลาหยุดเพื่อฟังนักดนตรีระดับโลกเล่นหนึ่งในบทประพันธ์เพลงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ จากเครื่องดนตรีชั้นเยี่ยมแล้วล่ะก็.. จะมีอีกซักกี่อย่างแล้วหนอในชีวิต.. ที่เราได้พลาดไป
ขอบคุณเรื่องดีๆ จาก :: http://fb.kapook.com/hilight-67908.html ::


1
2

Wish You Happinessss

Success is not the key to happiness. Happiness is the key to success. 
If you love what you are doing, you will be successful. 

~ Albert Schweitzer ~

 คัมภีร์ 5 ห่วง  วิถีแห่ง "ซามูไร" วิถีแห่งนักรบ "บูชิโด"   แนวคิดของตัวเม่น   GOOD LUCK สร้างแรงบันดาลใจเพื่อความสำเร็จ ในชีวิตและธุรกิจด้วยตัวคุณเอง    Why complicate life ?   3 x 8 = เท่าไหร่ ?????   "ฉันชื่อ..โอกาส"

Wish You Happinessss