1
2

นิทานสอนใจ : ความปรารถนาของเมล็ดพืช, อย่าติดกับดัก Comfort Zone


เปลี่ยน - ETC.



นิทานสอนใจ : ความปรารถนาของเมล็ดพืช 

นกตัวหนึ่งคาบเมล็ดพืชบินผ่านป่าใหญ่ 
ระหว่างทางเมล็ดพืชน้อยสองเมล็ดก็ร่วงตกลงสู่พื้นดิน

       
       พื้นดินอ่อนนุ่มช่างอบอุ่น และสบายกว่าปากแหลมคมของนกตัวนั้นเป็นไหนๆ เมล็ดพืชที่หนึ่งจึงเอ่ยทักเมล็ดพืชที่สองอย่างอารมณ์ดีว่า

       เมล็ดพืชที่หนึ่ง : สวัสดีจ้ะ เธอยังสบายดีอยู่ไหม

       เมล็ดพืชที่สอง : อื้ม ก็ดีกว่าตอนอยู่ในปากของนกตัวนั้นล่ะนะ

       เมล็ดพืชที่หนึ่ง : ฉันดีใจมากเลยที่ได้นอนอยู่บนดินร่วนซุยแบบนี้ ทั้งนุ่ม ทั้งอุ่น สบายตัวแท้

       เมล็ดพืชที่สอง : ฉันเห็นด้วย เมล็ดพืชที่ไหนก็ชอบดินแบบนี้ทั้งนั้นล่ะ

       เมล็ดพืชที่หนึ่ง : ดินแบบนี้เหมาะแก่การเจริญเติบโตเป็นที่สุด เธอว่าไหม

       เมล็ดพืชที่สอง : ก็คงใช่

       เมล็ดพืชที่หนึ่ง : ฉันอยากเจริญเติบโตเป็นต้นไม้เร็วๆ จัง

       เมล็ดพืชที่สอง : ว้าย! ฉันไม่เอาด้วยหรอก ฉันไม่อยากโต ฉันอยากเป็นเมล็ดพืชไปวันๆ อย่างนี้แหละ

       เมล็ดพืชที่หนึ่ง : แต่การเปลี่ยนแปลงคือชีวิตนะ เราเป็นสิ่งมีชีวิต เราก็ต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง

       เมล็ดพืชที่สอง : ไม่นะ ฉันจะไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ฉันจะเป็นเมล็ดพืชอย่างนี้ตลอดไป ฉันกลัวการเปลี่ยนแปลง เพราะมันทำให้เราต้องเจอ และเป็นในสิ่งที่เราไม่คุ้นเคยมาก่อน

       เมล็ดพืชที่หนึ่ง : อย่ากังวลไปเลยจ้ะ การเปลี่ยนแปลงของพวกเราจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้น เพราะเราจะเจริญเติบโต ออกดอกออกผลงอกงามไปเรื่อยๆ 

       เมล็ดพืชที่สอง : ไม่จริงหรอก เธอลองคิดดูสิ ถ้าเราต้องเติบโตไปเป็นต้นไม้จริงๆ รากของเราก็จะติดหนึบอยู่ในความมืดมนของชั้นดิน ส่วนด้านบนซึ่งเป็นกิ่งก้านและลำต้นของเราก็จะถูกกระหน่ำด้วยพายุ แล้วอย่างนี้ฉันจะอยู่ได้อย่างไรล่ะ..อยู่ไม่ได้หรอก

       เมล็ดพืชที่หนึ่ง : เชื่อสิจ๊ะว่าเราจะผ่านมันไปได้ และสิ่งเหล่านั้นก็จะทำให้เราเข้มแข็งขึ้นกว่าเดิมนะ

       เมล็ดพืชที่สอง : ไม่เอา! ถ้าเธออยากโตเป็นต้นไม้ก็เชิญเป็นไปคนเดียวเลย ฉันไม่เอากับเธอด้วยหรอก

       เมล็ดพืชที่หนึ่ง เห็นว่าป่วยการที่จะโน้มน้าวความคิดของ เมล็ดพืชที่สอง เมล็ดพืชที่หนึ่ง จึงหยุดพูด และเฝ้าคอยเวลาที่ตนเองจะได้เติบโตเป็นต้นไม้ใหญ่ด้วยความตื่นเต้นทุกวัน
       
       เวลาผ่านไป เมล็ดพืชที่หนึ่ง ก็เปลี่ยนแปลงจากเมล็ดพืชเล็กๆ กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาให้ร่มเงาแก่สัตว์น้อยใหญ่ในป่าแห่งนั้น มันมีความสุขมากที่ได้เติบโต และมองเห็นสิ่งต่างๆ ในฐานะของต้นไม้ใหญ่
       
       ส่วนเมล็ดพืชผู้ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงก็ยังคงเป็นเมล็ดพืชเหมือนเดิม วันหนึ่งมีไก่ป่าตัวหนึ่งเดินผ่านมาเห็น เมล็ดพืชที่สอง มันจึงตรงเข้าไปจิกเมล็ดพืชที่สองกินเป็นอาหารจนอิ่มท้อง
       
       บทสรุปของผู้แต่ง       
       การเปลี่ยนแปลงเป็นกฎเกณฑ์แห่งธรรมชาติที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ซึ่งมีทั้งเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นและเลวลง แต่เราจะต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลงให้ได้ ไม่ว่าการเปลี่ยนแแปลงนั้นจะดีหรือไม่ก็ตาม เพราะถ้าเรายอมรับได้ แม้จะต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงที่เลวลง เราก็ยังพร้อมที่จะสู้เพื่อพบกับการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น แต่คนที่ไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง และปฏิเสธที่จะพบสิ่งใหม่ๆ ครั้นพบปัญหาก็ไม่รู้จะเดินไปทางไหน จึงถอดใจโดยง่าย และต้องพบกับทางตันของชีวิตอย่างรวดเร็ว


       
       เราคงปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงไม่ได้หรอก เพราะการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะถ้าเป็นเด็กด้วยแล้ว ยังมีเวลาอีกกว่าทั้งชีวิตที่ต้องพบกับความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ทางที่ดี อย่ากังวลไปเลยว่าเราจะต้องพบอะไรบ้าง แต่ขอให้รู้ว่าประสบการณ์ทุกอย่างจะสอนให้มีชีวิตที่เข้มแข็ง จงเติบใหญ่อย่างมั่นใจและกล้าหาญเพื่อวันสวยงามที่รออยู่ข้างหน้าเถิด



       
อย่าติดกับดัก Comfort Zone
♥ ออกจากพื้นที่แห่งความคุ้นเคย (Comfort Zone) ♥

"การเปลี่ยนแปลง" คือ การทำในสิ่งที่เราไม่ได้ทำเป็นปกติ โดยการทำอะไรใหม่ๆ แต่หลายคนทำไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง งั้นมาลองเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมจากสิ่งใกล้ๆตัวกันน่ะค่ะ 

 เปลี่ยนเส้นทางขับรถจากบ้านไปที่ทำงานงานบ้าง
 เปลี่ยนรายการอาหารมื้อกลางวัน หรือร้านที่กินบ้าง
 เปลี่ยนการแปรงฟันด้วยมือซ้ายบ้าง (สำหรับผู้ถนัดมือขวา)
 เปลี่ยนเรื่องที่สนใจบ้าง (เช่น ดารา เป็น กีฬา )
 เปลี่ยนหนังสือที่อ่าน จาก นิยาย เป็น สาระดีๆ
 เปลี่ยนบรรยากาศรอบตัวบ้าง (ถ้าพอทำได้) จะดีมาก สิ่งสำคัญอยู่ตรงนี้มากที่สุดค่ะ 

ทางด้านจิตวิทยาบอกว่า เมื่อเราเปลี่ยนแปลงตัวเองในเรื่องต่างๆ มากขึ้น ก็เปรียบเสมือนเราออกจาก Comfort Zone แล้ว 

ดังนั้น การที่เรามุ่งมั่นที่จะเปลี่ยนแปลงเรื่องสำคัญๆ จะทำให้เรารู้สึกง่ายขึ้น เพราะเราก็เปลี่ยนมาหลายอย่างแล้ว ซึ่งในช่วงแรกของการเปลี่ยนแปลง เราย่อมรู้สึกอึดอัด, รำคาญ, ไม่แน่ใจในผลลัพธ์ ซึ่งก็จะเป็นเรื่องปกติ ถ้าเราทำมันบ่อยๆ ทำให้เรารู้ตัวเองว่า เมื่อเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงตัวเอง เปรียบเสมือน กับการออกจาก Comfort Zone ซึ่งย่อมเกิดอาการต่างๆ มากมาย เราจึงต้องอดทน และผ่านไปให้ได้ เพื่อทำให้เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ประสบความสำเร็จ


Comfort Zone คือ ขอบเขตที่เรากำหนดขึ้น ซึ่งขอบเขตนั้นเป็นสิ่งที่เราปฏิเสธจะก้าวออกมา การที่จะพยายามก้าวข้ามมานั้นจะเกิดอาการกลัวและตื่นเต้น การที่เราอยู่ในที่ที่ปลอดภัยนาน ๆ จะกลัวการที่จะก้าวออกจากเขตปลอดภัย เพราะไม่แน่ใจว่านอกเขตปลอดภัยนั้นจะเป็นอย่างไร จึงขออยู่ในเขตปลอดภัยต่อไปดีกว่า

ซึ่งถ้าเปรียบกับชีวิตคนเรา ถ้าเราไม่กล้าที่จะก้าวออกมาจาก การพัฒนาตัวเองจะไม่เกิดขึ้นเลย เพราะเราจะรู้สึกว่าอยู่อย่างนี้ก็ดีแล้ว (ปลอดภัยดี จะหาเรื่องทำไม)


ที่นี้ถ้าเราจะทลาย Comfort Zone ของตัวเอง เราต้องทำอย่างไร

♥ ขั้นแรก : เราต้องหาข้อมูลให้ตัวเอง หรือ Educate Yourself 
ที่เรากลัวเพราะเราไม่มีข้อมูลที่เพียงพอ หรือกลัวเพราะไม่รู้นั่นเอง เพราะฉะนั้นถ้าเรามีข้อมูลมากพอ ความกลัวเราก็จะคลายลง

♥ ขั้นที่ 2 : "วางแผน (แหกคุกชีวิต)" 
ที่เรียกว่าคุก เพราะเราขังตัวเองอยู่ในนี้ตั้งนาน ทีนี้ก็มาดูว่าถ้าเราจะก้าวออกไปยังจุดหมาย เราต้องทำอะไรบ้าง วางแผนเป็น Action Plan เลย พอเรามีแผนเป็นรูปเป็นร่างแล้ว รับรองได้ ความกลัวหายไป 50 %

 ♥ ขั้นที่ 3 ลงมือทำ
แผนจะยังคงเป็นแค่แผน ถ้าเราไม่ลงมือทำ คนส่วนใหญ่ไปได้ไม่ถึงฝัน เพราะเราไม่รับผิดชอบ (ชีวิต) ตัวเอง 100 %  ปล่อยให้ชีวิต อยู่ในมือของคนอื่นหรือสิ่งแวดล้อมรอบ ๆ ข้าง เพราะฉะนั้นวางแผนแล้วลงมือทำ ชีวิตเราเราต้องรับผิดชอบ 100 %

♥ ขั้นที่ 4 ก้าวทีละขั้น 
หลายคนที่กลัวจะก้าว เพราะเรากะก้าวไว้ใหญ่จนเกินไป ถ้าเราไม่มั่นใจ ค่อย ๆ ไปก็ได้ 
ตัวอย่างเช่น วางแผนจะวิ่งแข่ง Half Marathon 21 กิโลเมตร ก็ต้องซ้อมวิ่งให้ผ่าน จาก 3 เป็น 5 เป็น 10 เป็น 15 จนถึง 20 กิโลเมตรก่อน ถ้าวันแรก ไปวิ่ง 21 K เลย รับรองล้มไม่เป็นท่าแน่ ๆ

♥ ขั้นที่ 5 :  ตั้งเป้าให้ท้าทายต่อไป
หลังจากประสบความสำเร็จมาทีละก้าว เราต้องตั้งเป้าให้ท้าทายต่อไป

♥ ขั้นที่ 6 คิดบวกตลอดเวลา
แน่นอนทำตามแผนมาสักพัก อาจจะมีอุปสรรคบ้าง แต่เราต้องคิดบวกตลอด อุปสรรคมันก็แค่ขวากหนาม อย่างหนึ่งเท่านั้น พอเราผ่านมันไปได้ ความภาคภูมิใจจะบังเกิด

♥ ขั้นที่ 7 ขยาย Comfort Zone
เมื่อเราทลาย Comfort Zone เดิม ออกมาแล้ว เท่ากลับว่าตอนนี้ Comfort Zone ใหม่ ได้ขยายขอบเขตมารอเราแล้ว หน้าที่ต่อไปของเราคือขยาย Comfort Zone เรื่อย ๆ ตัวเราเองก็จะได้พัฒนาตาม

อัลเบิร์ต ไอสไตน์ ที่กล่าวว่า ...
“ความฟั่นเฟือน: การกระทำซ้ำ ๆ เหมือนเดิม และคาดหวังผลลัพธ์ที่เปลี่ยนไป”
“ Insanity: doing the same thing over and over again and expecting different results”


ขอขอบคุณสำนักพิมพ์ฟรีมายด์ ที่เอื้อเฟื้อนิทานสอนใจดีๆ ในชุดหนังสือนิทานสีขาวของ ดร.อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา ไว้ ณ โอกาสนี้ด้วย
:: manager.co.th ::
อ้างอิงจาก : บทความอาจารย์ปกรณ์ วงศ์รัตนพิบูลย์
:: White MLM Team ::
:: oknation.net/blog/hrdeverywhere ::




       

1
2

Wish You Happinessss

Success is not the key to happiness. Happiness is the key to success. 
If you love what you are doing, you will be successful. 

~ Albert Schweitzer ~

 คัมภีร์ 5 ห่วง  วิถีแห่ง "ซามูไร" วิถีแห่งนักรบ "บูชิโด"   แนวคิดของตัวเม่น   GOOD LUCK สร้างแรงบันดาลใจเพื่อความสำเร็จ ในชีวิตและธุรกิจด้วยตัวคุณเอง    Why complicate life ?   3 x 8 = เท่าไหร่ ?????   "ฉันชื่อ..โอกาส"

Wish You Happinessss