1
2

โลก Online (Offline)



โลก Online (Offline)
โดย : บุญชัย ปัณฑุรอัมพร

เทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย สะดวก รวดเร็ว เปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิตและการทำงาน จนทำให้มนุษย์ปรับตัวกันไม่ถูก
ตอนลูกยังเล็กๆ เราว่าลูกดื้อ ทั้งๆ ที่ จริงๆ แล้วลูกไม่ได้ดื้อ แต่ลูกแค่ไม่ทำตามใจเรา พอลูกเข้าสู่วัยรุ่น เราก็ว่าลูกทิ้ง ทั้งที่แท้จริงลูกไม่ได้ทิ้งเราหรอก ลูกแค่ต้องมีสังคมของลูก แต่ที่น่าเป็นห่วงคือ เวลากลับมาบ้านลูกก็ยังอยู่กับ Social Network พ่อกับแม่มีความรู้สึกเหมือนจิตวิญญาณ ของลูกหายไป มีแต่ตัวที่อยู่ใกล้กัน พ่อกับแม่ทำหน้าที่เหมือนเป็นแค่คนจ่ายสตางค์ คนขับรถ คนครัวของลูก เวลาลูกหลับเท่านั้นที่รู้สึกว่า ลูกอยู่ใกล้ตัวเราจริงๆ นี่คือ เสียงพร่ำบ่นที่ได้ยินทั่วไปในสังคมทุกวันนี้

ที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง เห็นเด็กวัยรุ่นนั่งกันอยู่ห้าคน ไม่เห็นคุยกัน สองคนนั่งกด BB กดไปยิ้มไป น้องผู้ชายอีกคนก็เอา IPad นั่งปัดขึ้น ปัดลงไม่ได้หยุด น้องผู้หญิงอีกคนก็เปิด Laptop เล่นเกมส์ อีกคนก็ดู IPhone ที่ถืออยู่ในมือ เวลาผ่านไป 15 นาที ก็ยังไม่เห็นใครคุยกับใครเลย

บนรถไฟฟ้า BTS เด็กนักเรียนสามคนนั่งกดโทรศัพท์กันมาตลอดทาง ไม่เห็นเขาจะคุยกันเอง คนหนึ่ง BB ไปทำหน้าเครียดไป อีกสองคนกดไปยิ้มไปอย่างมีความสุข รถไฟฟ้าผ่านไปหลายสถานี หนึ่งในนั้นเงยหน้า ผละสายตาจากโทรศัพท์ ทำท่าตกใจพร้อมตะโกนใส่เพื่อนอีกสองคนว่า “ตายห่…แล้ว เลยมาสองสถานี”

ในห้องเรียนของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง นักศึกษาแทบทุกคนจะพก Smart Phone เข้าไปในห้องเรียนด้วย อาจารย์เดินเข้ามายังไม่ทันได้เอ่ยปากสักคำ นักเรียนคนหนึ่งก็ยกมือที่กำโทรศัพท์มือถือขึ้นถาม “อาจารย์ครับ เมื่อไรเลิกครับ” ในขณะที่นักเรียนแทบทุกคนก็ก้มหน้าก้มตาง่วนอยู่กับโทรศัพท์ของตัวเอง อาจารย์ตอบว่า “รอเดี๋ยวนะ ขอหยิบโทรศัพท์ก่อน เดี๋ยวจะบอกไปทางกรุ๊ป BB ของพวกเรา” …ฮา (ไม่แน่ใจจริงๆว่า อาจารย์เองก็สอนหนังสือด้วยวิธี BB เข้ากรุ๊ปของนักเรียนทั้งห้องด้วยความเงียบหรือเปล่า)

ที่แผนกต้อนรับของโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เจ้าหน้าที่สี่ในห้าคนที่อยู่กันเป็นกลุ่ม ต่างก็มี Smart Phone คนละเครื่อง ทุกคนต่างก็ใจจดใจจ่ออยู่กับมือถือของตนเอง บ้างดูเน็ต บ้างกดแชท บ้างก็เล่นเกมส์ บ้างก็กำลังสั่งซื้อสินค้า สังเกตจากยูนิฟอร์มก็ยังเห็นระดับหัวหน้าคนหนึ่ง กำลังกดโทรศัพท์อยู่ด้วยเช่นกัน กระทั่งหัวหน้าที่ใหญ่กว่ามาพบเข้าจึงเอ่ยขึ้นว่า “แต่ละคนอยู่ในโลกส่วนตัวแต่เช้าเลยนะ”

ที่สำนักงานแห่งหนึ่ง พนักงานในแผนกการตลาดที่นั่งรวมกันอยู่ ต่างก็ก้มหน้าก้มตากดมือถือ บ้างก็เปิดคลิปดูด้วยกันพร้อมเสียงหัวเราะคิกคัก, ที่โรงงานแห่งหนึ่ง พนักงานฝ่ายผลิตส่วนใหญ่ต่างเร่งมือทำงานกันเพื่อให้งานออกให้ได้มากที่สุด พนักงานบางคนกลับนั่งส่ง SMS อยู่ แบบนี้ก็มีให้เห็นเนืองๆ หรือคู่รักที่ไปทานข้าวด้วยกัน ฝ่ายชายก็นั่งเบื่อๆ เซ็งๆ รอดูว่า เมื่อไรแฟนสาวจะวางเจ้า Smart Phone ลง เพราะอาหารก็เย็นหมดแล้ว

I Just Texted to Say I Love You
(ลองเข้า Youtube พิมพ์ I just texted to say I love you สิครับ
http://www.youtube.com/watch?v=d8E1AtDE3gY)

มองเห็นผู้คนที่อยู่กันในโลก Online แล้วให้หวนคำนึงถึงคุณภาพชีวิตบนโลก Offline จริงๆ ผู้คนดูเหมือนจะมีเพื่อนกันมากขึ้น แต่ในความเป็นจริงกลับมีเพื่อนน้อยลง ลูกอยู่ติดบ้านมากขึ้น แต่ดูเหมือนลูกไม่ได้อยู่บ้าน พนักงานมาทำงานแต่เช้าและกลับดึกมากขึ้น แต่ดูเหมือนไม่ได้อยู่กับงาน รูปแบบการดำเนินชีวิตและการทำงานถูกเปลี่ยนไปด้วยเทคโนโลยีการสื่อสารที่ทันสมัย สะดวก รวดเร็ว จนปรับตัวกันไม่ถูก วิถีชีวิตประจำวันบนโลก Offline ไม่เหมือนเดิม ปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันลดลง ผู้คนไม่ได้อยู่กับปัจจุบัน ทำหลายสิ่งหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ใจไม่อยู่กับตัว ตัวไม่อยู่กับใจ สมาธิสั้น คุณภาพชีวิตและคุณภาพงานก็ลดลง

อันที่จริงโลก Online ก็ไม่ต่างอะไรกับโลก Offline ที่มีทั้งเรื่องที่ดีกับเรื่องที่ไม่ดี เรื่องที่ดี เป็นประโยชน์มีสาระความรู้ มีสถานที่น่าโคจรไปพบไปค้นหาต่างก็มีเหมือนๆกัน การจะเลือกไปในทางที่ดีหรือไม่ จึงอยู่ที่บุคคลมากกว่า เพราะหลายๆ องค์กรมองเห็นประโยชน์ จาก Smart Phone จัดหาให้พนักงานได้ใช้ในการจัดทำข้อมูลระหว่างกัน ส่งต่อข้อมูลไปยังศูนย์กลาง ส่งต่อสื่อสารข่าวสารทางการตลาด การบริหารจัดการสินค้าคงคลัง ติดตามฟังความเห็นความต้องการของลูกค้า ตลอดจนการจัดกิจกรรมส่งเสริมทางการขาย และประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย

ประเด็นสำคัญอยู่ที่การจัดการอย่างไรให้ผู้คนใช้อุปกรณ์ทันสมัยเหล่านี้ให้ผสมผสานเข้ากับชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความกลมกล่อม (Blend) คลุกเคล้าให้เข้ากันได้แนบเนียนที่สุด

หากยังจำภาพยนตร์เรื่อง Avatar ได้ ทั้งมนุษย์ผู้ร้ายและฝ่ายดีตัวเขียวๆ ได้ใช้วิธีเดียวกันในการเข้าต่อสู้ มนุษย์ผู้ร้ายคิดค้นอาวุธ เป็นหุ่นยนต์เหล็กที่ต้องใช้มนุษย์เข้าไปบังคับขับเคลื่อน ในขณะที่ฝ่ายเจ้าตัวเขียวใช้จิตวิญญาณ โดยต้องนำปลายมัดผมเสียบติดกับเจ้านกยักษ์ให้ได้เพื่อให้มีจิตวิญญาณเดียวกัน ผู้ชนะคือผู้ที่สามารถ Blend ตัวเองให้เข้ากับอาวุธได้ดีกว่า

วันนี้เราอาจจะยัง Blend โลก Online กับโลก Offline ให้ดีไม่ได้อย่างเจ้าตัวเขียว แต่ขอแค่ Balance ให้ดี ดึงรอยต่อของการเปลี่ยนแปลง (Transition) ให้ยาวออกสักนิด ให้เวลาผู้คนต่างยุคต่างสมัยสร้างวิวัฒนาการในการปรับเปลี่ยนอย่างค่อยเป็นค่อยไป อาจจะด้วยวิธีการต่อไปนี้

ข้อแรก ต้องไม่เป็นตัวอย่างในการอยู่กับโลก Online อย่างไม่เหมาะสม ในฐานะผู้นำองค์กร ผมเองยังเคยรับ Mail ในขณะที่ประชุมอยู่ ในฐานะพ่อ ผมเองเคยนั่งกด BB ในขณะที่ลูกเข้ามาปรึกษางานการแสดงที่โรงเรียน

Disconnect to Connect

DTAC - Disconnect to Connect
(เขียนมาถึงตรงนี้ ทำให้นึกถึงหนังโฆษณา Disconnect to Connect ของ Dtac http://www.youtube.com/watch?v=6Kr3np1e6nQ&NR=1 และบทสัมภาษณ์ของผู้บริหาร http://www.youtube.com/watch?v=629YCSfKRuw&feature=related)

ข้อสอง พร้อมใจกันตั้งกติกาโดยไม่ตั้งเป็นระเบียบข้อบังคับ ระหว่างพนักงานทุกระดับ พ่อแม่ลูกตกลงกันในเรื่องของการใช้ Smart Phone เช่น ที่ทำงาน จะไม่นำเข้าไปในห้องประชุม ไม่มีการรับส่งในขณะพูดคุยกัน ไม่ติดต่อเรื่องส่วนตัวในเวลางาน ที่บ้านไม่มี Online ในเวลาที่พูดคุยกัน ดูทีวีด้วยกัน หรือช่วงที่ทำการบ้าน เวลาเข้านอน หรือบนโต๊ะอาหาร ฯลฯ ทุกคนจะเป็นแบบอย่างที่ดี สร้างให้เป็นวัฒนธรรมและมีจิตสำนึกที่ดีต่อกัน เชื่อใจกัน ดีกว่าการกำหนดบทลงโทษที่หยุมหยิม แต่มุ่งเน้นที่ KPI มากกว่า

ข้อสาม ยังคงเน้นการจัดการประชุม เสวนา อบรม สัมมนา แบบยุคที่โลก Online ยังไม่ขยายตัว เพื่อเน้นสร้างมนุษยสัมพันธ์ระหว่างกันให้คงอยู่ โดยใช้ Online สำหรับการสรุป ทบทวน และติดตามเท่านั้น กับที่บ้านก็ยังคงให้มีกิจกรรมกีฬา วาดรูป ทำอาหารร่วมกัน

ข้อสี่ จัด Incentive ให้เป็นกรุ๊ปสำหรับพนักงานเพื่อให้ดูแลกันเอง วิธีนี้จะทำให้พนักงานที่ติดโลก Online ระวังตัว ไม่ทำตัวให้เป็นอุปสรรคต่อความสำเร็จของกลุ่ม

ข้อห้า จัดอบรมวิธีการอยู่และรู้เท่าทันโลก Online ไม่ให้บั่นทอนต่อโลกแห่งชีวิตจริงของแต่ละวัน ตลอดจนเรื่องดีและเรื่องไม่ดีของโลก Online

ข้อหก เข้า Online ร่วมกันเป็นกรุ๊ปที่สนใจในกิจกรรมเดียวกัน เป็นการสร้างให้มีส่วนร่วมในโลก Online ด้วยกัน เป็นเพื่อนกันนอกเวลางาน เป็นเพื่อนกับลูกในโลก Online ได้เช่นกัน

ล่าสุดเห็นโฆษณากินใจ ที่กำลังบอกกับโลกว่า ที่จริง Online ก็ช่วยสร้างสายใยแห่งรักให้กับครอบครัวได้เช่นกัน นี่ไงครับที่บอกว่า ต้อง Balancing โลก Online (Offline) ให้เป็น!!

'dtac 3G' TVC with English sub-title
(พิมพ์ dtac 3G http://www.youtube.com/watch?v=hjgtI9cN364&feature=share)

http://bit.ly/ngcJsg

Disconnect to Connect



เมนู'ปลาทู'ใกล้ตัวอุดมโอเมก้า-3


ปลาทูนึ่ง Dr.Fuu



เมนู'ปลาทู'ใกล้ตัวอุดมโอเมก้า-3

‘โอเมก้า-3’ ชื่อนี้เป็นที่คุ้นหู ด้วยคนทั่วไปเข้าใจว่า เป็นสารอาหารที่มีอยู่ในปลาทะเลน้ำลึก กินแล้วช่วยให้มีความจำที่ดี แม้เป็นความเข้าใจที่ไม่ผิด แต่ยังรู้กันไม่ครบ เหตุนี้เองผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์หลายสาขาจึงรวมตัวกันเปิดตัว ‘โอเมก้า- อะคาเดมี เอเชีย’ ศูนย์ความรู้ออนไลน์เกี่ยวกับโอเมก้า-3 ไว้โดยเฉพาะ

บนเว็บไซต์
www.omega3academy.com/th เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษาข้อมูลของโอเมก้า-3 ส่งผลอย่างไรต่อสุขภาพ จากเนื้อหาที่อ่านเข้าใจง่าย

ซึ่ง ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ อายุรแพทย์โรคหัวใจ และเลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลปิยะเวท ฝากเตือนผู้สนใจว่า หากขาดความรู้ที่ถูกต้อง การกินโอเมก้า-3 ทั้งที่มีอยู่ในอาหารตามธรรมชาติหรืออาหารเสริม อาจส่งผลกระทบต่อการออกฤทธิ์ของยาที่กินเพื่อรักษาโรคอยู่ก็เป็นได้

สำหรับ ‘โอเมก้า-3’ ชื่อเต็มๆ คือ กรดไขมันโอเมก้า-3 สายโซ่ยาว
ประกอบด้วยกรดไขมันสี่ชนิด คือ DHA DPA EPA ซึ่งมีเฉพาะในปลาที่มีน้ำมันมาก และ ALA ที่พบในน้ำมันพืชและผักสีเขียวบางชนิด เช่น ผักโขม ผักแขนง
โดยรวมแล้ว เป็นไขมันอิ่มตัวเชิงซ้อนที่ดีต่อสุขภาพ ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ แต่ได้จากอาหารที่กินเข้าไป
สรรพคุณ ช่วยบำรุงหัวใจและหลอดเลือด ลดระดับไตรหลีเซอไรด์ในเลือด รักษาระดับคอเลสเตอรอลให้เหมาะสม

นอกจากนี้ โอเมก้า-3 ยังดีต่อสมอง การพัฒนาสมองด้านการคิดและการควบคุมการทำงานของสมอง ป้องกันอาการหลงลืมในผู้สูงอายุ ลดความบกพร่องของสายตาในกลุ่มคนสูงวัย และดีกับข้อต่อ เพราะสามารถจำกัดการเพิ่มจำนวนของเซลล์ที่ผิดปกติเมื่อเป็นโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์

ด้าน อ.ศัลยา คงสมบูรณ์เวช นักกำหนดอาหารขึ้นทะเบียนวิชาชีพ(อเมริกา)และที่ปรึกษาโภชนบำบัด โรงพยาบาลเทพธารินทร์ เผย ปัจจุบันคนไทยเรากินปลา 30 กิโลกรัมต่อปี หรือคิดเป็น 100 กรัมต่อวัน จัดว่าน้อยเกินไป ทั้งบางคนยังคิดว่า โอเมก้า-3 มีอยู่ในปลาที่มีราคาแพง อาทิ แซลม่อน ทั้งที่ๆ ปลาทู อาหารคู่ครัวไทย หาง่าย ราคาถูก ก็อุดมไปด้วยโอเมก้า-3 ในปริมาณมาก เช่นเดียวกับปลาช่อน ปลาสวาย และปลาอินทรีย์

ส่วนการกินให้ได้คุณค่าโอเมก้า-3 สูงสุดนั้น อ.ศัลยา แนะให้เลี่ยงการนำปลาไปทอดในน้ำมันด้วยความร้อนสูงและนาน เนื่องจากจะลดทอนโอเมก้า-3 ให้น้อยลงไป
อย่างนี้ ‘มุมสุขภาพ’ ขอเสนอเมนูมีโอเมก้า-3 และไม่ใช้วิธีทอดน้ำมันในการประกอบอาหาร นั่นคือ


‘ต้มส้มปลาทูสด’
เป็นเมนูกินดีไม่เสียสุขภาพประจำสัปดาห์นี้

ส่วนผสมประกอบด้วย…
ปลาทูสด 3-4 ตัว
รากผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
พริกไทย 5 เม็ด
หอมแดง 4 หัว
กะปิดี 1 ช้อนชา
น้ำเปล่าหรือน้ำซุป 2 ถ้วย
น้ำมะขามเปียก 1/2 ถ้วย
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
ขิงซอย 1 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมหั่นท่อน 1/2 ถ้วย
ผักชีเด็ดเป็นใบ 1/4 ถ้วย

ขั้นตอนในการทำ เริ่มด้วยนำรากผักชี พริกไทย หอมแดง กะปิ โขลกรวมกันให้ละเอียดเข้ากันดี จากนั้นตั้งน้ำให้เดือด ใส่ส่วนผสมที่โขลกไว้ลงไป ต้มต่อไปจนน้ำในหม้อเดือด ปรุงรสด้วยน้ำมะขามเปียกข้น น้ำตาลปี๊บ และน้ำปลา เมื่อน้ำแกงเดือดอีกครั้ง ให้ใส่ปลาทูสดและขิงซอยลงไป ไม่นานปลาทูก็จะสุก ให้ใส่ต้นหอม ปิดเตาโรยผักชีเป็นอันเสร็จ.

ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
takecareDD@gmail.com


สกุลปลาทู
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

ปลาทู (อังกฤษ: Chub mackerel)
เป็นชื่อสามัญในภาษาไทยที่ใช้เรียกปลาทะเลจำพวกหนึ่งในสกุล Rastrelliger ในวงศ์ Scombridae ซึ่งเป็นวงศ์เดียวกับปลาโอ, ปลาอินทรีและปลาทูน่า มีพฤติกรรมมักอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูงบริเวณกลางน้ำถึงผิวน้ำ ตั้งแต่บริเวณชายฝั่งจนถึงระดับความลึก 200 เมตร ในน่านน้ำไทย พบทั้งหมด 3 ชนิด เป็นปลาที่ผูกพันกับวิถีชีวิตคนไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นอาหารทะเลหลักของคนไทยมาช้านาน

ประวัติ
ในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้จ้าง ดร.ฮิว แมคคอร์มิค สมิธ นักมีนวิทยาชาวอเมริกันมาเป็นที่ปรึกษากรมรักษาสัตว์น้ำ (กรมประมงในปัจจุบัน) เพื่อสำรวจพันธุ์ปลาต่าง ๆ ในประเทศไทย มีหลวงมัศยจิตรการ (ประสพ ตีระพันธุ์) เป็นผู้ช่วยและวาดภาพปลา ท่านผู้นี้เป็นผู้วาดภาพปลาทูภาพแรกในประเทศไทย ใน พ.ศ. 2468 ไทยนำเรืออวนตังเกจากจีนมาใช้ทำให้จับปลาทูได้มาก ปลาทูที่เหลือทำเป็นปลาทูเค็มส่งไปขายต่างประเทศ เช่น อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ฮ่องกง จนในภาษาอินโดนีเซียเรียกปลาทูเค็มว่า Ikan siam
พ.ศ. 2503 รัฐบาลไทยนำเครื่องมืออวนลากจากเยอรมนีตะวันตกมาใช้และเมื่อมีการประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับแรกทำให้การประมงขยายตัวมากขึ้น จนกระทั่งจำนวนปลาทูในอ่าวไทยลดจำนวนลงในที่สุด

ที่อยู่
ในอดีตเชื่อว่าปลาทูที่จับได้ในอ่าวไทยมาจากเกาะไหหลำ แต่ปัจจุบันพบว่าปลาทูเกิดในอ่าวไทยเป็นปลาผิวน้ำ รวมกันเป็นฝูงบริเวณใกล้ฝั่ง พบเฉพาะบริเวณอุณหภูมิผิวน้ำไม่ต่ำกว่า 17 องศาเซลเซียส ความเค็มของน้ำไม่เกิน 32.5 % แต่ทนความเค็มต่ำได้ถึง 20.4 % จึงพบในบริเวณน้ำกร่อยได้ ปลาทูวางไข่แบบไข่ลอยน้ำ ไข่ที่ได้รับการผสมจะลอยน้ำอยู่ได้ ช่วงที่วางไข่คือกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม

การบริโภค
ปลาทู นำมาเป็นอาหารไทยมีจำหน่ายในรูปแบบ ปลาทูสด และปลาทูนึ่ง ซึ่งมีลักษณะการขายเป็นใส่ภาชนะที่เรียกว่า เข่งปลาทู นิยมนำมาทอด รับประทานคู่กับน้ำพริกกะปิ หรือ ทำเป็นน้ำพริกปลาทู ส่วนปลาทูสดนิยมนำมาทำเป็นต้มยำปลาทู
เนื้อปลาทูมีสารโอเมก้า 3 ค่อนข้างมาก ในเนื้อปลาทู 100 กรัมมีสารโอเมก้า 3 ราว 2-3 กรัม ช่วยลดอัตราการตายจากโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดตีบ และยังลดโคเลสเตอรอล ไตรกลีเซอไรด์ รวมทั้งลดความหนืดของเลือด ลดการอักเสบ ทำให้ความข้นในเลือดอยู่ในเกณฑ์ปกติ

ชนิดพันธุ์
ปลาทูตัวสั้น หรือ ปลาทูสั้น (ชื่อสามัญ: Short-bodied mackerel, ชื่อวิทยาศาสตร์: Rastrelliger brachysoma) เป็นสายพันธุ์ที่นิยมบริโภคมากที่สุด
ปลาทูปากจิ้งจก (ชื่อสามัญ: Island mackerel, ชื่อวิทยาศาสตร์: Rastrelliger faughni)
ปลาลัง หรือ ปลาทูโม่ง (ชื่อสามัญ: Indian mackerel, ชื่อวิทยาศาสตร์: Rastrelliger kanagurta)

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับปลาทู

วิธีการเลือกปลาทูนึ่ง
ปลาทูที่นึ่งใหม่ๆ จะมีกลิ่นหอมชวนรับประทาน ตัวอวบอ้วน เนื้อนุ่มแน่นและไม่เละยุ่ย
ท้องและผิวไม่ถลอก ถ้าขอบตาแดง ผิวเหลือง แสดงว่าเป็นปลาที่มีคุณภาพไม่ดี เป็นปลาที่ได้จากอวนลาก จึงต้องมีการใช้น้ำยาเคมีรักษาสภาพของปลา ความอร่อยของปลาทูนึ่งยังขึ้นอยู่กับปลาทูที่สดที่นำมาต้มด้วย ถ้าใช้ปลาทูไม่สด ไม่ใช่ปลาทูโป๊ะ จะไม่อร่อยเท่าปลาทูแม่กลองที่เวลานึ่ง คนทำจะหักคอก่อนใส่เข่ง เพื่อให้พอดีกับขนาดของเข่ง เรียกกันว่า “ปลาหน้างอคอหัก”

วิธีเลือกปลาทูสด
ปลาทูสดลูกตาจะนูน ตาดำมีสีสดใส ส่วนหลังของลำตัวจะมีสีเขียวเป็นพื้น ส่วนท้องจะมีสีขาว หรือสีเงิน หางปลายังมีสีเหลือง ตามลำตัวมีเมือกลื่นๆ เหงือกมีสีแดงออกชมพู ปลาไม่มีกลิ่น เนื้อแน่น เมื่อใช้นิ้วกดที่กลางลำตัวแล้วปล่อยนิ้วออก รอยยุบจะกลับคืนสภาพเดิมได้หมดหรือเกือบหมด

ส่วนปลาทูที่ไม่สดลูกตาจะยุบ ตาดำจะขุ่น บริเวณลูกตาอาจมีเลือดคลั่ง สีพื้นของลำตัวซีด เหงือกมีสีแดงซีด ปลามีกลิ่นคาวหรือคาวจัด ลำตัวอ่อนเหลวและไม่มีเมือกจับ

ซื้อปลาแบบไหนถึงจะอร่อย
หลังจากที่ชาวประมงจับปลาทูขึ้นมาได้ราว 5 – 10 นาที ปลาก็จะตาย ปลาทูที่ตายใหม่ๆ นี้ถ้ารีบนำไปประกอบอาหารไม่ว่าจะเป็นต้ม ผัด แกง ทอด เนื้อจะนุ่มหวานอร่อย กลิ่นหอม ถ้านำไปต้ม มันปลาทูสีเหลืองจะลอยฟ่องขึ้นหม้อ แค่เห็นก็อร่อยแล้ว

แต่ปลาทูสดที่เห็นขายกันอยู่ตามตลาดหรือซุปเปอร์มาร์เก็ตนั้นไม่ใช่ปลาทูสด 100%
เป็นปลาทูที่ต้องผ่านหลายกระบวนการกว่าจะมาวางขายตามท้องตลาด ความสดของปลาก็ลดลงเหลือ 60 – 80% ยิ่งถ้าเป็นปลาทูที่ขายตามจังหวัดที่ห่างไกลทะเลแล้ว อาจเก็บมาเป็นอาทิตย์ก็ได้

อนึ่งปลาทูจะมีความสดมากหรือน้อยนั้นจะทราบได้ก็ต่อเมื่อมีการดมกลิ่นชิมรสเนื้อปลา
ซึ่งถือว่าปลาที่มีความสดมากนั้น จะมีกลิ่นหอมของเนื้อปลาชวนรับประทาน รสชาติอร่อย เนื้อนุ่มไม่กระด้างไม่เปื่อยยุ่ย โดยเฉพาะปลาทูที่จับได้ที่ก้นอ่าวไทยตามทะเลที่พื้นดินเป็นเลน เนื้อจะอร่อยกว่าปลาทูที่จับได้ตามทะเลที่เป็นพื้นทราย

สารพัดความอร่อย หลากหลายเมนูจากปลาทู
ถ้าหากจะเอ่ยถึงอาหารไทยที่ถือว่าเป็นหนึ่งเมนูเด็ดที่คนไทยลืมไม่ได้ น่าจะเป็น

“น้ำพริกกะปิกับปลาทูทอด” ที่เป็นเมนูที่มีมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ
เป็นหนึ่งในอาหารประจำชาติของไทยเลยก็ว่าได้

สำหรับปลาทูที่จะนำมากินคู่กับน้ำพริกกะปิให้มีความอร่อยเด็กดวง ก็คงจะหนีไม่พ้น “ปลาทูโป๊ะ” หรือ “ปลาทูนึ่ง” เมืองแม่กลอง

นอกจากนี้อาหารที่ทำจากปลาทู ก็มีหลากหลายเมนูให้เลือก
ล้วนแล้วแต่เป็นเมนูสำหรับคนที่ชองกินปลาเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะเป็นน้ำพริกปลาทู ปลาทูทอด ปลาทูต้มยำ ปลาทูต้มส้ม ปลาทูฉู่ฉี่ ปลาทูผัดฉ่า ปลาทูนึ่ง ปลาทูต้มมะดัน ข้าวผัดน้ำพริกปลาทู ปลาทูแดดเดียว ปลาทูราดพริกแกง ฯลฯ ซึ่งปลาทูถือเป็นอาหารไทยราคาเยาที่รสชาติยอดเยี่ยมไม่เป็นรองใคร

โดย ผู้จัดการออนไลน์




คุณครูขาหนูอยากได้ แท็บเล็ต แบบนี้ค่ะ^^ (Iris – My Kinda Tablet)


IRIS by Liu-Wei, Yao Kai-Chi, Hong Ruei Hong & Cheng Ya-Fang



Iris – My Kinda Tablet
The era of Tablet PC is upon us and it’s kinda mesmerizing to see the kind of functions and features you can pack into the device. For instance the Iris Tablet PC is a transparent touchpad with an OLED display. It uses wireless charging technology, can scan documents, translates texts and can work as an efficient navigator. The coolest two apps is how you can use it for planning interior designing using AR and split the screen up for shared use. The kind of concept that I look forward to!
Designers: Liu-Wei, Yao Kai-Chi, Hong Ruei Hong & Cheng Ya-Fang

http://www.yankodesign.com/2011/08/25/iris-my-kinda-tablet/




1
2

Wish You Happinessss

Success is not the key to happiness. Happiness is the key to success. 
If you love what you are doing, you will be successful. 

~ Albert Schweitzer ~

 คัมภีร์ 5 ห่วง  วิถีแห่ง "ซามูไร" วิถีแห่งนักรบ "บูชิโด"   แนวคิดของตัวเม่น   GOOD LUCK สร้างแรงบันดาลใจเพื่อความสำเร็จ ในชีวิตและธุรกิจด้วยตัวคุณเอง    Why complicate life ?   3 x 8 = เท่าไหร่ ?????   "ฉันชื่อ..โอกาส"

Wish You Happinessss