บริหารได้(ดี) ไม่ต้อง(จ้าง)มืออาชีพ

บริหารได้(ดี) ไม่ต้อง(จ้าง)มืออาชีพ รายงานโดย :วรธาร ทัดแก้ว: สมมติหากคุณทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรม รีสอร์ต แต่ไม่มีความรู้เรื่องการบริหารมาก่อนจะทำอย่างไร แน่นอนคุณอาจต้องจ้างมืออาชีพมาบริหารเพื่อความสบายใจ วริสร รักษ์พันธุ์ “วริสร รักษ์พันธุ์” ทายาทเจ้าของธุรกิจโรงแรม ชุมพรคาบาน่า รีสอร์ต จ.ชุมพร แม้จะยืดอกยอมรับว่าไม่ได้เรียนรู้เรื่องการบริหารมาก่อน แต่เมื่อต้องเข้ามารับหน้าที่ขับเคลื่อนธุรกิจโรงแรมแทนบิดาแล้ว กลับสามารถบริหารชุมพรคาบาน่า รีสอร์ต ได้ดีชนิดที่ว่าห้องพักนั้นเต็มตลอด! ที่สำคัญวิธีการบริหารของเขาก็ครองใจลูกค้าและนั่งอยู่กลางใจลูกน้องได้สนิทด้วยบุคลิกของคนที่มีความโอบอ้อมอารีและความอ่อนน้อมอยู่ในตัวซึ่งใครที่ได้สนทนาด้วยรู้สึกได้ ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียง ถึงไม่ได้เรียนรู้ในเรื่องบริหารมาก่อน ซ้ำช่วงที่เข้ามารับหน้าที่บริหารชุมพรคาบาน่า รีสอร์ต ใหม่ๆ สิ่งที่คาดไม่ถึงก็คือหลังวิกฤตเศรษฐกิจ ปี 2540 โรงแรมต้องประสบกับปัญหาหนี้สินมากเป็นประวัติการณ์จากการกู้เงินมาขยายกิจการในปี 2539 ซึ่งยังไม่เสร็จดีด้วยซ้ำแต่ต้องมาประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจดังกล่าว ทำให้ต้องใช้วิธีกู้หนี้โปะหนี้จนกลายเป็นดินพอกหางหมู เมื่อรวมทั้งต้นทั้งดอกแล้วจำนวน 300 กว่าล้านบาท วริสร เล่าอีกว่า ยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นตรงไหนอย่างไร แต่ก็โชคดีที่รู้จัก อาจารย์วิวัฒน์ ศัลยกำธร ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจในทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงดีที่สุดคนหนึ่ง ได้แนะนำให้ใช้หลักบริหารชุมพรคาบาน่าโดยยึดทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงด้วยการพึ่งตนเองให้ได้ ตั้งโครงการอุ้มชูไม่จำกัด ด้วยความที่รู้สึกศรัทธาในทฤษฎีเศรษฐกิจพอเพียงอยู่แล้ว เพียงแต่ยังไม่ได้ลงมือทำจริงจังสักที จึงถือเป็นโอกาสที่จะได้ลงมือปฏิบัติจริงและเต็มที่เสียที ดังนั้น สิ่งแรกเขาจึงตั้งโครงการอุ้มชูไม่จำกัดขึ้นมา โดยเขากล่าวว่า การตั้งโครงการนี้ก็เพราะได้นึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเวลาที่เกิดเหตุการณ์หรือวิกฤตต่างๆ ขึ้นในบ้านเมือง ก็จะทรงเป็นห่วงและไม่ทรงทอดทิ้งประชาชน ดังนั้น เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจหรืออะไรก็ตาม พนักงานของชุมพรคาบาน่า รีสอร์ต ซึ่งเป็นคนในท้องถิ่นก็จะไม่ถูกทอดทิ้งเหมือนกัน และนี่เองเป็นที่มาของโครงการอุ้มชูไม่จำกัดขึ้น ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างเขากับพนักงานที่ต้องพึ่งพาอาศัยกันและกันทำงานในอาชีพที่ถนัดนอกเหนือจากการทำงานปกติภายใต้แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างสัมพันธภาพที่ดีและสามารถมีรายได้พิเศษนอกเหนือเวลาทำงานปกติด้วย ก้าวต่อมา...เศรษฐกิจพวกเรา วริสร กล่าวว่า เมื่อตั้งโครงการอุ้มชูไม่จำกัดแล้วก็ได้คิดทำอาหารปลอดภัย และทำเกษตรธรรมชาติให้พอกินพอใช้ในพื้นที่ของโรงแรม เช่น การปลูกข้าวปลอดสารพิษโดยพนักงาน ซึ่งถ้าพื้นที่ไม่พอก็จะไปขอใช้พื้นที่ของพนักงานในการปลูก ทำให้เกิดโครงการ “เศรษฐกิจพวกเรา” ตามมา วริสร กล่าวว่า ตอนนี้ข้าวอินทรีย์หรือข้าวปลอดสารพิษชุมพรคาบาน่า รีสอร์ต พึ่งตนเองได้ 100% ไม่ต้องซื้อจากที่อื่น ทำให้เงินทองยังอยู่ในเครือข่ายเศรษฐกิจพวกเรา จากเดิมต้องไปซื้อที่พ่อค้าแม่ค้าในตลาด แต่เดี๋ยวนี้ไม่ต้องแล้วเพราะเราทำกันเองในท้องถิ่น หรืออย่างน้อยถ้าไปในที่อื่นก็มีคนที่เป็นเครือข่ายของเราอุ้มชูไม่จำกัดอยู่ “จากโครงการเศรษฐกิจพวกเรา ต่อมาก็เป็น ‘รอดพอดี’ นั่นก็คือพนักงานชุมพรคาบาน่าทุกคนจะไม่มีการเกษียณอายุ แต่จะอยู่กันไปเรื่อยๆ แบบพี่แบบน้อง ซึ่งตอนนี้อายุของพนักงานสูงสุดจะอยู่ที่อายุ 77 ปี” วริสร กล่าว ไม่จ้างมืออาชีพบริหาร อย่างไรก็ตาม จากการที่วริสรนำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในโรงแรมทุกวันนี้ทำให้เขาสามารถใช้หนี้ 300 กว่าล้านบาทได้เกินครึ่งไปแล้ว ที่สำคัญเขาไม่มีความคิดที่จะจ้างมืออาชีพมาบริหารอีกต่อไป แม้ว่าก่อนนี้เคยจ้างมาแล้วแต่ปรากฏว่าพอมาบริหารก็อยู่ไม่ได้ เพราะว่าเขาไม่คิดแบบธรรมะ ไม่คิดว่าถ้าเป็นเศรษฐกิจตาโต ได้แก่ อำนาจกับเงิน เขาก็จะใช้อำนาจกับเงินอย่างเดียว ไม่ใช้ความรู้กำกับด้วยคุณธรรม ปัจจุบันชุมพรคาบาน่า รีสอร์ต ที่บริหารโดยวริสรได้กลายเป็นแหล่งเรียนรู้ในเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงที่มีชื่อเสียง ที่ใครๆ ก็อยากเดินทางไปเที่ยว http://www.posttoday.com/lifestyle.php?id=79560 http://www.cabana.co.th/location_f.html