Happinessss
1
2
นิทานเรื่อง 'โอกาสที่หายไป' โดย : หนูดี
นิทานเรื่อง 'โอกาสที่หายไป'
โดย : หนูดี
หลายคนที่เมื่อโอกาสมาถึงมือแล้ว มองไม่เห็น ไม่รู้ ไม่เข้าใจว่า มันคือโอกาส จึงปล่อยให้ลอยผ่านมือไป
โลกนี้มีคนเก่งมากมายที่ชีวิตนี้ไม่มีโอกาสได้แสดงฝีมือ เพราะว่าโอกาสดีๆ ไม่ได้มีมาถึงชีวิต แต่ก็มีอีกหลายคนที่เมื่อโอกาสมาถึงมือแล้ว มองไม่เห็น ไม่รู้ ไม่เข้าใจว่า มันคือโอกาส จึงปล่อยให้ลอยผ่านมือไป โดยไม่เคยได้รู้ตัวเลยว่า โอกาสงามๆ มาถึงมือเราแล้วหลุดออกไปโดยที่เรามองไม่เห็นอะไรเลย
สมองของคนเราชอบฟังนิทานหรือเรื่องเล่าต่างๆ ที่เกี่ยวกับมนุษย์ด้วยกัน นี่คือเหตุผลที่เด็กๆ ชอบฟังนิทานและพอโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ก็ชอบฟังเรื่องของคนอื่น การนินทาหรือการเล่าสู่กันฟังเรื่องของคนอื่นนั้น ในเชิงสมองไม่ได้ถือเป็นเรื่องเลวร้าย เพราะสมองมนุษย์จะตอบสนองดีมากกับเรื่องราวที่มีมนุษย์เป็นตัวเดินเรื่อง ไม่ว่าเรื่องนั้นๆ จะถูกให้คำนิยามว่า อัตถชีวประวัติ หรือ การนินทาก็ตาม แก่นของมันก็คือ มีมนุษย์หนึ่งคนขึ้นไปเป็นตัวเดินเรื่อง แค่นี้ก็เพียงพอแล้วที่สมองเมื่อได้ยินหรืออ่านเห็น ก็จะอยากติดตามเรื่องราวนั้นๆ
เมื่อมาถึงการสอนเด็ก หรือแม้แต่จะสอนผู้ใหญ่ก็ตาม การผูกเรื่องราวให้ออกมาในลักษณะนิทานหรือนิยายจะช่วยมากๆ นั่นคือเหตุผลที่โลกนี้เรามีนิทานเด็กจำนวนมาก และนิยายสำหรับผู้ใหญ่อีกมากมายเช่นเดียวกัน
หนูดีเพิ่งได้คุยกันคุณแม่คนหนึ่งที่เลี้ยงลูกวัยรุ่นสองคนมาด้วยตัวเอง ในระดับที่ถือว่าดีมากๆ หนึ่งในเคล็ดลับนั้นคือ การเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ลูกฟังเป็นประจำในลักษณะนิทานหรือเรื่องเล่าสอนใจ เล่าให้ฟังไปในรถบ้างเวลาขับรถรับส่งลูก แต่เมื่อลูกโตขึ้นไปอยู่มหาวิทยาลัยและไปอยู่หอ เธอก็จะใช้โปรแกรมไลน์ส่งเรื่องเล่านิทานสอนใจ และจะถามว่า ลูกมีความเห็นอย่างไร ซึ่งเป็นวิธีการสอนที่ทั้งเด็กทั้งแม่ดูจะเอนจอยกันด้วยดีทั้งสองฝ่าย
พอพูดถึงนิทานและเรื่องของโอกาส หนูดีก็นึกถึงเรื่องหนึ่งที่ฟังแล้วสอนใจได้ดีทีเดียว เป็นเรื่องราวของเทวดาสององค์ในสวรรค์ มีเทวดาเล็กและเทวดาใหญ่ ทั้งคู่มองลงมาที่โลกมนุษย์และเทวดาเล็กก็รู้สึกว่า โลกมนุษย์เป็นสถานที่ที่น่าตื่นเต้นมาก อยากลงมาเที่ยวที่โลกมนุษย์บ้าง และจะไปเที่ยวอาศัยอยู่ที่ไหนได้บ้าง ท่านมองไปเห็นบ้านของเศรษฐีคนหนึ่ง มีบ้านใหญ่มากเฉพาะห้องนอนสวยๆ ก็มีถึง 20 ห้องเข้าไปแล้ว นี่ยังไม่นับห้องนั่งเล่น ห้องดูหนัง ห้องออกกำลัง ฯลฯ ?แถมยังมีสนามที่ใหญ่และสวยงามมากอีกด้วย
เทวดาทั้งสองจึงลงมาจากสวรรค์และปลอมกายเป็นชายชรา เมื่อถึงเวลากลางคืนก็ไปเคาะประตูหน้าบ้านเศรษฐีเพื่อขอพักอาศัยหนึ่งคืน แต่เศรษฐีออกมาหาและบอกว่า ไม่มีห้องพักให้เลย ถ้าจะอยู่ให้ได้ก็มีเพียงห้องใต้ดินเท่านั้น และอาหารก็ไม่ค่อยมีด้วย เมื่อเทวดาทั้งสองเข้าห้องพักก็พบว่า ห้องนั้นเล็กมากอยู่ในชั้นใต้ดินที่อับชื้น ผนังห้องก็ร้าวและมีตะไคร่น้ำขึ้นเต็มไปหมด เมื่อคนใช้เอาอาหารเข้ามาให้ก็มีเพียงเศษข้าวและเศษผักเท่านั้น เทวดาเล็กโกรธมากแต่ในที่สุดก็หลับไป พอตื่นขึ้นมากลางคืน ก็เห็นเทวดาใหญ่กำลังซ่อมผนังที่ร้าวให้บ้านเศรษฐี เทวดาเล็กก็งงว่าทำไมถึงทำดีกับเขา ท้ั้งๆ ที่เขาก็ทำไม่ดีกับเรา เทวดาใหญ่ก็ไม่ตอบ ได้แต่เงียบ
วันรุ่งขึ้น ทั้งคู่เที่ยวเมืองมนุษย์จนเหนื่อย และค่ำคืนนั้นทั้งคู่ก็ตัดสินใจจะไปขอพักนอนที่บ้านของชายชรายากจนคนหนึ่ง มีเพียงกระท่อมหลังเล็กๆ และวัวหนึ่งตัวพร้อมกองฟางหนึ่งกอง เขามีหมั่นโถวกินเป็นอาหารเย็นเพียงสองลูกเท่านั้น เมื่อมีชายชราแปลกหน้าสองคนมาขออาศัยนอน เจ้าของบ้านจึงบอกว่า ได้เลย ขอให้ท่านนอนบนบ้าน แล้วตัวเราจะไปนอนกับวัวที่กองฟางเอง และให้ท่านทั้งสองแบ่งหมั่นโถวกันทานเป็นอาหารเย็นจะได้ไม่หิว คืนนั้น ฝนเริ่มตกหนักและในที่สุดฟ้าก็ผ่าลงมา
พอตอนเช้า เทวดาเล็กก็พบว่า ฟ้าได้ผ่าวัวเพียงตัวเดียวของชายชราตายเสียแล้ว เมื่อทราบเรื่อง เทวดาเล็กก็โกรธเทวดาใหญ่มากว่า ชายยากจนคนนี้ดีกับเรานักหนา แต่ท่านก็ได้ปล่อยให้วัวของเขาตายโดยไม่ช่วยอะไร ส่วนเศรษฐีใจดำคนนั้นท่านกลับไปช่วยซ่อมผนังร้าวให้เขา เทวดาใหญ่ฟังแล้วก็ไม่ได้ตอบอะไร
เมื่อทั้งคู่กลับไปถึงสวรรค์แล้ว เทวดาเล็กก็รีบไปศึกษาข้อมูลว่า ทำไมเรื่องราวจึงเป็นแบบนี้ ในที่สุดก็ได้ทราบความจริงว่า แท้ที่จริงแล้วเศรษฐีคนแรกนั้นกำลังจะได้โชคใหญ่ เพราะบรรพบุรุษของเขาที่รวยมาหลายชั่วคนได้ซ่อนเหรียญทองมากมายมหาศาลไว้ในห้องใต้ดินแล้วโบกปูนปิดไว้ พอมาถึงรุ่นเขา ปูนที่โบกไว้กำลังจะแตกออกมาแล้ว แต่เมื่อเขาใจร้ายกับคนที่มาขอความช่วยเหลือ เทวดาใหญ่จึงโบกปูนปิดเอาไว้
ส่วนชายยากจนนั้น ตอนมาเกิดเขาเซ็นสัญญากับสวรรค์ไว้เพียงหกสิบปี และในคืนนั้น จริงๆ แล้วฟ้าต้องผ่าเขาตายไปพร้อมกับวัว แต่เพราะความดีของเขา สวรรค์จึงต่อสัญญาให้อีกยี่สิบปี เรื่องราวเป็นแบบนี้นี่เอง
คล้ายๆ กับชีวิตของคนเราอีกจำนวนมากที่เมื่อโอกาสเดินทางมาถึงแล้วผ่านเลยไป
โดยที่เราไม่เคยได้รู้ตัวเลย เพราะทำตัวไม่ดีพอสำหรับโอกาสนั้นนั่นเอง...
ฟังเรื่องนี้แล้ว หนูดีได้แง่คิดดีๆ มากมาย ซึ่งเป็นข้อพิสูจน์ว่า
สมองผู้ใหญ่ยังโหยหานิทานดีๆ อยู่ไม่เคยเสื่อมคลาย
:: bangkokbiznews.com ::
บทความใหม่กว่า
บทความที่เก่ากว่า
หน้าแรก
1
2
Wish You Happinessss
Success is not the key to happiness.
Happiness is the key to success.
If you love what you are doing,
you will be successful.
~ Albert Schweitzer ~
Wish You Happinessss