Happinessss Fb : DIY & How to Part 4
1. DIY : Pop Chocolate
ภาพขนาดใหญ่ค่ะ -> http://goo.gl/6XwqG
:: www.dnshop.com ::
2. ทำหลอดไฟ 55 watts จากขวดน้ำพลาสติก
วิธีการทำหลอดไฟพลังงานแสงอาทิตย์นี้เป็นการออกแบบหลักมาเพื่อช่วยเหลือประเทศที่ยังเข้าถึงไฟฟ้าได้ยาก หรือค่าไฟฟ้ายังแพงเอาการอยู่มากๆ หรือใช้กับพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้กัน ซึ่งหลักการของหลอดไฟพลังงานแสงอาทิตย์นั้นไม่ได้ เป็นการเอา solar cell มาทำให้ลำบากแต่อย่างใด แค่เอาขวดน้ำโค้ก 1.5 – 2 ลิตรมาเอาใส่น้ำกรอง หรือน้ำกลั่นก็สุดแล้วแต่ว่าจะหาอะไรได้ แล้วก็ใส่พวกครอรีนเข้าไป หรือน้ำยาฟอกขาวก็ได้ เพื่อไม่ให้ตะไคร่ขึ้นเท่านั้นเองครับ โดยในขวดนั้นที่มีน้ำอยู่จะทำให้หน้าที่กระจายแสง ที่ปกติแล้ว ถ้าหากว่าคุณแค่เจาะหลังคา มันก็จะฉายแสงออกมาเป็นรู หรือเป็นวงลอดไปที่พื้นเท่านั้น ทำให้มันไม่ได้สว่างทั่วทั้งห้อง ไม่เหมือนกับการที่แสงแดดผ่านขวดน้ำที่มีน้ำอยู่เต็มขวดแบบนี้ แสงมันจะกระจายตัวออกไปได้ทั่วทั้งห้องมากกว่าเป็นไหนๆ ซึ่ง มันก็จะทำตัวเหมือนกับเป็นหลอดไฟแสงสีขาว 55 วัตต์กันเลยทีเดียวเชียวแหละ
- เอาขวดน้ำอัดลมพลาสติกมาแกะสติ๊กออกมาให้หมด และทำความสะอาดให้เกลี้ยงเกลาไม่เหลือน้ำอัดลมด้านใน
- เอาน้ำกลั่นหรือว่าน้ำกรองใส่เข้าไปเต็มขวดพร้อมทั้งใส่สารฟอกขาว (น้ำยากฟอกขาว) เข้าไปประมาณ 1-2 ฝาเท่านั้นก็เพียงพอ เพื่อเป็นการไม่ให้มีตะไคร่โตในขวดได้
- เอาตะไบหรือว่ากระดาษทรายเบอร์หยาบขัดให้รอบขวดให้พื้นที่ผิวขวดหยาบ
- เจาะรูสังกะสีเป็นวงกลมโดยทำเป็นแฉกไว้ แล้วเอาขวดใส่เข้าไป
- เอากาวอีพร๊อกซี่กันน้ำได้ปาดให้รอบขวดเพื่อให้กันน้ำระหว่างขวดและสังกะสี
- ติดตั้งที่หลังคาสังกะสีบ้านคุณเอง (ถ้าหากว่าบ้านคุณเป็นหลังคาแบบอื่นจะไม่สามารถใช้ได้)
- แล้วก็ทากาวกันน้ำซ้ำอีกครั้งเพื่อไม่ให้ฝนตกแล้วน้ำรั่วเข้ามาในบ้านได้
อธิบายด้วยตัวหนังสือเหมือนว่า จะอธิบายยากเอาการเหมือนกัน แต่ถ้าหากว่าคุณดู vdo ด้านบนแล้วคิดว่าน่าจะเข้าใจได้ไม่ยากแม้แต่น้อยครับ เอาเป็นว่าถ้าหากว่าบ้านคุณเป็นหลังคาสังกะสีหรือว่าโรงรถ หรือ หลังบ้าน เพิงหลังน้อยของคุณ เป็นหลังคาที่เป็นลอนๆแบบนี้ ก็คิดว่าน่าจะใช้ได้เหมือนกันนะครับ ลองไปทำกันเองดูที่บ้านได้
ประเด็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับหลอดไฟพลังงานแสงอาทิตย์จากขวดน้ำพลาสติก :
สังเกตว่า มันจะมีแสงก็ต่อเมื่อมันมีแดดเท่านั้นน่ะครับ เมื่อฝนตก จะทำให้ความสว่างตอนกลางวันจาก 55 วัตต์ เหลือแค่ 42 วัตต์เท่านั้น เรียกว่าก็น่าจะใช้ได้อยู่ดี แต่สำหรับกลางคืนแล้ว มันก็จะไม่มีแสงและเป็นห้องมืดเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นแล้วห้องคุณนั้นก็ต้องคิดหลอดไฟเหมือนเดิม หรือว่า คุณจะใช้ห้องตอนกลางคืนก็ต้องจุดเทียนเอา หรือ ตะเกียงเอาก็ได้เหมือนกัน
ไม่เหมาะสำหรับคนที่กลัวเรื่อง UV สักเท่าไหร่ เพราะ ต้องบอกเอาไว้ก่อนว่า แบบนี้ก็คือ การเอาแสงแดด และ รังสีอื่นๆที่มากับแดดสะท้อนเข้ามาให้ห้อง โดยคาดว่าน่าจะเหลือ UVA อยู่เป็นประมาณมาก แต่ UVB อาจจะโดยกระจายกรองออกไปได้บางส่วน ถ้าหากว่าคิดมากเรื่องแบบนี้ ก็อาจจะไม่คุ้มกับที่คุณได้ประหยัดค่าไฟ .. ก็เป็นได้สำหรับคนที่รักษาผิวตัวเองแบบสุดๆเท่านั้น
อายุการใช้งานมีการประมาณกันออกมาแล้วว่า มันจะอยู่ได้ 5 ปี
:: rackmanagerpro.com ::
3. DIY : รั้วดินสอ (pencil fence)
:: google.com ::
4. มาเรียนวิธีพันส่าหรีกันค่ะ
ส่าหรีเป็นเครื่องแต่งกายของหญิงชาวอินเดีย ซึ่งเกิดจากการนำผ้าชิ้นผืนยาวกว่า 5 เมตร มานุ่งหรือพันให้ถูกวิธี ผ้าที่นำมาทำส่าหรีนั้นมีตั้งแต่เนื้อผ้าบางเบา จนถึงผ้าไหมส่วนวิธี(ขอเรียกว่า)พันส่าหรีนั้น มีมากกว่า 30 วิธีค่ะ บางครั้งวิธีแต่งการด้วยส่าหรีของผู้หญิงอินเดีย สามารถบ่งบอกถึงภูมิลำเนาของเธอได้ด้วย เพราะแต่ละภูมิภาคหรือแต่ละเมืองก็มีวิธีแต่งกายด้วยส่าหรีที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองแตกต่างกันออกไป อย่างเช่น
Nivi Style แบบที่นิยมใช้ในชีวิต
+ ขั้นตอนที่ 1 จ้ะ +
ก่อนที่จะใส่ส่าหรีได้จะต้องมีเสื้อผ้าอีก 2 ชิ้น ที่จะต้องเลือกอย่างเอาใจใส่สักนิดเพื่อเสริมให้ส่าหรีที่เราจะสวมใส่นั้นดูดีและเด่นยิ่งขึ้นค่ะ ทั้งสองชิ้นนั้นก็คือ
เสื้อตัวใน ควรเลือกที่มีขนาดกระชับ พอดีตัว ความยาวครึ่งตัว (โชว์พุงงามๆ) จะเป็นแขนสั้น หรือแขนกุดก็ได้ สีสันของเสื้อควรเข้ากันกับส่าหรี หรืออยู่ในอิมเมจของส่าหรี หรือจะแต่งเติมด้วยสร้อยคอที่เข้าชุดกันก็ได้ค่ะ
ปติโคท (กระโปรงซับใน) ความยาวตั้งแต่เอวจนถึงพื้น ขนาดแน่นพอดีกับเอว แต่ไม่แน่นจนเกินไป (ที่สำคัญห้ามใช้แบบยางยืดเด็ดขาดนะคะ ไม่เช่นนั้นส่าหรีเพื่อนๆอาจเลื่อนหลุดระหว่างเดินได้) สีของซับในต้องเข้ากับสีพื้นของส่าหรี หรือพยายามให้ใกล้เคียงที่สุด หลังจากสวมใส่ส่าหรีแล้วจะต้องไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของซับในปรากฎให้เห็นค่ะ
+ ขั้นตอนที่ 2 จ้ะ +
การใส่ส่าหรีเริ่มต้นโดยสอดปลายชายด้านบน(หรือด้านที่ไม่มีลาย) ของส่าหรีเข้าไปในปติโคท จาก บริเวณเอวเยื้องไปทางด้านขวา กะระยะให้ชายส่าหรีกรอมพื้นพอดี โดยความยาวส่วนที่เหลือจะอยู่ทางด้านซ้ายของลำตัว พันส่าหรีรอบลำตัวหนึ่งรอบ จนมาจบที่จุด ที่เพื่อนสอดปลายชายไว้ในปติโคท ตอนนี้ความยาวส่วนที่เหลือของส่าหรีจะมาอยู่ทางด้านขวาของลำตัวของเพื่อนๆ ค่ะ
+ ขั้นตอนที่ 3 จ้ะ +
จับจีบขนาดเท่าๆ กันประมาณ 5 - 7 ทบ ความยาวจีบละประมาณ 5 นิ้ว เริ่มตั้งแต่จุดที่สอดชายผ้า รวบจีบทั้งหมดซ้อนเข้าด้วยกันโดยเรียงทบให้ซ้อนกันพอดี ดูให้แน่ใจว่าชายของส่าหรีสม่ำเสมอและสัมผัสกับพื้นพอดี เมื่อเสร็จแล้วจะได้จีบที่เรียงตรงและสม่ำเสมอสวยงาม เพื่อนๆ สามารถใช้เข็มหมุดกลัดเพื่อป้องกันไม่ให้จีบทั้งหมดเลื่อนหลุดออกจากกันได้ค่ะ
+ ขั้นตอนที่ 4 จ้ะ +
จับปลายส่าหรีที่ทบจีบทั้งหมดเข้าด้วยกันเรียบร้อยแล้วสอดเข้าไว้ในปติโคทโดยให้เยื้องไปทางด้านซ้ายของสะดือเล็กน้อย ทั้งปติโคทและส่าหรีที่ได้พันไว้ก่อนแล้วจะถูกถ่วงหรือกดให้ต่ำลงเล็กน้อย เพราะฉะนั้นช่วงเอวทางด้านซ้ายของเพื่อนๆ จะเผยให้เห็นความเซ็กซี่ค่ะ ;-)
+ ขั้นตอนที่ 5 จ้ะ +
พันส่วนที่เหลือรอบลำตัวอีกครั้งโดยอ้อมสะโพกจากซ้ายไปทางด้านขวา แล้วถือปลายด้านบนของส่วนที่เหลือไว้ด้วยมือขวา
+ ขั้นตอนที่ 6 จ้ะ +
เลื่อนชายผ้าส่วนที่เหลือขึ้นให้ส่วนของส่าหรีที่อยู่ด้านหลังคลุมหลังของเพื่อนๆ (เพราะฉะนั้นหลังของเราตั้งแต่ช่วงกลางจนถึงล่างจะถูกส่าหรีบังนะคะ ถ้าใครอยากโชว์หลังงามๆ ให้เลือกเสื้อตัวในที่เว้าด้านหลังค่ะ จะเผยให้เห็นหลังด้านบนนะจ๊ะ) แล้วไพล่ส่าหรีจากใต้แขนขวา (จั๊กแร้) ขึ้นไปพาดบนไหล่ซ้าย ส่วนที่เหลือของส่าหรีจะยาวตั้งแต่ระดับเข่าจนถึงกรอมพื้นค่ะ
เพื่อนๆสามารถใช้เข็มกลัด กลัดชายส่าหรีส่วนที่พาดอยู่กับไหล่ซ้ายเข้ากับเสื้อตัวใน เพื่อป้องกันไม่ให้ส่าหรีเลื่อนหลุด เวลาทำกิจกรรมต่างๆได้ค่ะ
แถมนิดค่ะ ส่วนชายของส่าหรีที่เหลือนั้น ในกรณีที่ไม่เป็นทางการเพื่อนๆ สามารถปล่อยทิ้งชายได้เลยค่ะ (เรียกว่า Pallu) ถ้าเป็นผ้าเนื้อเบาจะพริ้วสวยมากเลย แต่ถ้าอยากให้เป็นทางการนิดหรือกรณีที่ผ้าส่าหรีมีเนื้อหนักเช่นผ้าไหม เพื่อนๆ สามารถทบชายโดยพับครึ่งตามแนวยาวของส่าหรีแล้วนำมาพาดไว้บนไหล่ ทับส่วนที่พาดไว้แล้ว จะได้ส่าหรีแบบสมบูรณ์แบบและสวยงามเรียบร้อยค่ะ (Complete Look)
:: bloggang.com ::
:: subscribe.ru ::
5. DIY : สร้อยโบว์ลูกปัด
:: vdom1.ru ::
6. Jean plants ^^
:: flickr.com ::
7. ผีเสื้อสีน้ำ
:: ellinee.com ::
8. DIY : ที่ใส่ดินสอจากกระดาษ
แม่แบบสำหรับตัดกระดาษค่ะ
แบบที 1 :: http://goo.gl/71TpN ::
http://goo.gl/71TpN (ตามภาพค่ะ)
แบบที่ 2 :: http://goo.gl/71TpN::
http://goo.gl/M1znQ (คล้ายๆ กันค่ะ)
ตัดกระดาษตามเส้นสีดำค่ะ
9. DIY : แต่งเสื้อด้วยเข็มกลัด
:: instructables.com ::
10. DIY : แอปเปิ้ล1 ลูก = ปลา 2 ตัว
(1 Apple = 2 Fish)
:: cutefoodforkids.com ::
* เคล็ดลับ วิธีปอกแอปเปิ้ลไม่ให้ดำ
เคยสังเกตมั้ยเวลาปอกแอปเปิ้ล หรือสาลี่ทิ้งไว้ผิวของผลไม้ ประเภทนี้จะหมองคล้ำยิ่งเวลาผ่านไปความน่ารับประทานก็ยิ่งลดลงเรื่อยๆ เคล็ดลับ วิธีป้องกันผิวของผลไม้ดำได้โดย
วิธีที่ 1 : ละลายเกลือ ประมาณ 1 ช้อนชาลงในน้ำเปล่า 1 ชามแกง นำแอปเปิ้ลหรือสาลี่ที่ปอกเสร็จแล้วลงแช่ทิ้งไว้สักพัก เมื่อนำขึ้นมา จัดใส่จานผิวของผลไม้ก็จะไม่ดำคล้ำค่ะ
วิธีที่ 2 : เตรียมน้ำสักค่อนชาม บีบมะนาวใส่ลงไปสัก 1 ผล แล้วผสมให้เข้ากับน้ำ เมื่อปลอกแอ๊ปเปิ้ลเสร็จแล้ว ก็น้ำแอ๊ปเปิ้ลไปล้างในน้ำที่ผสมมะนาวนี้ แล้วยกขึ้นมาสะเด็ดน้ำแล้วเรียงไว้ในจาน นำไปแช่ตู้เย็นต่อไป
วิธีที่ 3 : หลังจากปอกเปลือก หรือหันแล้วให้แช่ในน้ำเย็นจัด โดยใส่น้ำแข็งลงไปด้วย ทิ้งไว้สัก 2-5 นาที จากนั้นนำน้ำมาสะเด็ดน้ำ รอเสิร์ฟแอปเปิ้ลสวยๆ ได้เลยค่ะ
:: food.mthai.com ::
11. จุ๊ จุ๊ จุ๊ ^^
:: jandan.net ::
12. DIY : แต่งลายให้ตู้เย็น ^^
:: liveinternet.ru ::
13. ชุุด Multi-wear
สาวๆ ที่ต้องเดินทางลองหาชุุด Multi-wear มาไว้ใช้ดูซิคะช่วยประหยัดเนื้อที่กระเป๋าเดินทางได้เยอะทีเดียว ^^
:: ydress.com ::
อีกตัวอย่างค่ะ
จาก Wacoal Swim : Miracle Multi-Wear
:: creaturecomfortsblog.com ::
15. บัตรอวยพรดอกไม้ (Pop-Up Card)
:: www.marthastewart.com ::
16. เปลี่ยนหินให้กลายเป็นม้าน้ำ ^^
:: atelie42.kz ::
17. DIY : ตะกร้ากระดาษ
:: blog.imhonet.ru ::
18. โต๊กล่องไม้ขีดแนววินเทจ
:: pastilka.blogspot.pt ::
19. ปกเสื้อเนคไท ^^
:: go.tipjunkie.com ::
20. Card- Butterfly
:: sasya-handmade.blogspot.com ::
21. ส้อมได้ ^^ ..... fork jewelry
:: google.com ::
22. DIY : ดอกไม้กระดาษ
:: weddingchicks.com ::
23. รองเท้าเปลี่ยนส้นได้ ^^
*ชมวีดีโอค่ะ -> http://youtu.be/E7CtjCmh1Bk
:: ecouterre.com ::
24. ตะกร้าดอกไม้ และ แครอท
(ถ้าจะทำไว้ใส่ขนม ใช้สีผสมอาหารย้อมสีกระดาษนะคะ)
:: urbancomfort.typepad.com ::
25. วิธีทำ แซนวิชร้อนๆ จ้า ^^
How to Make a Grilled Cheese Sandwich with an Iron
1. Turn on your clothes iron. Set the iron on its highest setting, (usually "Linen" or "Cotton").
2. Cut a piece of aluminum foil big enough to wrap around the sandwich.
3. Place the hot iron flat on the foil-wrapped sandwich, (this doesn't hurt the iron). Let the iron sit on the foil for about 30 seconds; peek inside to see if the sandwich has been toasted.
4. Flip the foil packet over when the first side is done;Place the hot iron flat on the foil-wrapped sandwich,
5. Open the foil, and put the sandwich onto a plate.
:: wikihow.com ::
26. บัตรอวยพร ~ ร่มดอกไม้
:: liveinternet.ru ::
27. หมอนปักเข็ม
Designer: Linda Albrecht
:: gluearts.blogspot.com ::
28. Happily handmade :)
:: etsy.com ::
29. กล่องโคมไฟ
:: devbox.in ::
30. DIY : โทรทัศน์เก่า ^^
:: diggerslist.com ::
|