ขาวกับดำ ดีมากๆ
เศรษฐี คนหนึ่งชอบใจลูกสาวชาวนายากไร้ผู้หนึ่ง เขาเชิญชาวนากับลูกสาวไปที่สวนในคฤหาสน์ของเขา เป็นสวนกรวดกว้างใหญ่ที่มีแต่กรวดสีดำกับสีขาว เศรษฐีบอกชาวนาว่า ท่านเป็นหนี้สินข้าจำนวนหนึ่ง 'แต่หากท่านยกลูกสาวให้ข้า ข้าจะยกหนี้สินทั้งหมดให้'
ชาวนา ไม่ตกลง
เศรษฐี บอกว่า 'ถ้าเช่นนั้นเรามาพนันกันดีไหม ข้าจะหยิบกรวดสองก้อนขึ้นมาจากสวน ใส่ในถุงผ้านี้ ก่อนหนึ่งสีดำ ก้อนหนึ่งสีขาว ให้ลูกสาวของท่านหยิบก้อนกรวดจากถุงนี้ หากนางหยิบได้ก้อนสีขาว ข้าจะยกหนี้สินให้ท่าน และนางไม่ต้องแต่งงานกับข้า แต่หากนางหยิบได้ก้อนสีดำ นางต้องแต่งงานกับข้า และแน่นอน ข้าจะยกหนี้ให้ท่านด้วย'
ชาวนา ตกลง
เศรษฐี หยิบกรวดสองก้อนใส่ในถุงผ้า
หญิงสาวเหลือบไปเห็นว่า กรวดทั้งสองก้อนนั้นเป็นสีดำ เธอจะทำอย่างไร?
หากเธอไม่เปิดโปงความจริง ก็จะต้องแต่งงานกับเศรษฐีขี้โกง หากเธอเปิดโปงความจริง เศรษฐีย่อมเสียหน้า และยกเลิกเกมนี้ แต่บิดาของเธอก็ต้องเป็นหนี้เศรษฐีต่อไปอีกนาน
เราส่วนใหญ่ถูกสอนมาให้มองปัญหาแบบ ขาวกับดำแต่ไม่ใช่ทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้อย่างขาวกับดำเสมอไป
ในทางตรงกันข้าม หากเราลองมองต่างมุม จะพบว่า หนทางการแก้ปัญหามีมากกว่าหนึ่งทางเสมอ การยืดหยุ่นและพลิกแพลงไปตามสถานการณ์เป็นวิธีการหนึ่ง บางครั้งในการแก้ปัญหา เราอาจต้องสร้างเครื่องมือในการแก้ปัญหาขึ้นมาใหม่
ในยุคของ มิคาอิล กอร์บาชอฟ เขากล่าวว่า เป็นเรื่องเขลาที่คิดว่า ปัญหาที่รุมเร้ามนุษย์ในวันนี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยเครื่องมือที่เคยใช้ได้ผลในอดีต หากเขาไม่ได้คิดเช่นนี้ บางทีวันนี้สังคมนิยมโซเวียตยังไม่เปิดประเทศ และสันติภาพระหว่างฝ่ายขาว-ฝ่ายแดงคงล้าหลังไปอีกหลายปี โลกไม่มีสีขาวกับดำ
ลูกสาวชาวนาเอื้อมมือลงไปในถุงผ้า หยิบกรวดขึ้นมาหนึ่งก้อน พลันเธอปล่อยกรวดในมือร่วงลงสู่พื้นกลืนหายไปในสีขาวและดำของสวนกรวดเธอมองหน้าเศรษฐีเอ่ยว่า
'ขออภัยที่ข้าพลั้งเผลอปล่อยหินร่วงหล่น แต่ไม่เป็นไร ในเมื่อท่านใส่กรวดสีขาวกับสีดำอย่างละก้อนลงไปในถุงนี้ ดังนั้นเมื่อเราเปิดถุงออกดูสีกรวดก้อนที่เหลือ ก็ย่อมรู้ทันทีว่า กรวดที่ข้าหยิบไปเมื่อครู่เป็นสีอะไร'
ที่ก้อนถุงเป็นกรวดสีดำ '...ดังนั้นกรวดก้อนที่ข้าทำตกย่อมเป็นสีขาว' ชาวนาพ้นสภาพลูกหนี้ และลูกสาวไม่ต้องแต่งงานกับเศรษฐีขี้โกงคนนั้น Fwd.
|