แต่ท่านที่เดินซูเปอร์มาร์เก็ตบ่อยๆ คงจะเคยเห็นว่า มีสินค้าบางรายได้รับการ “ดูแล” เป็นพิเศษ ด้วยการจัดวางที่ “เหนือกว่า” คู่แข่งอื่นๆ เช่น วางด้านหน้า วางในส่วนจัดโปรโมชัน หรือหากจะให้ละเอียดลงลึกไปกว่านั้นก็คือ วางในระดับสายตาผู้บริโภค
สิ่งนี้เป็นเรื่องสำคัญครับ หากคุณฝากเขาขายของแล้วไปดูทีไร ก็เห็นสินค้าของเราวางอยู่ชั้นล่างสุดทุกที ก็คงต้องขอเจรจากับเจ้าของร้านว่า จะเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะขยับขึ้นมาวางในตำแหน่งดีขึ้น ซึ่งคงต้องบอกกันตรงๆ ว่า บางร้านอาจจะมีการเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มพิเศษ สำหรับการจัดวางสินค้าในตำแหน่งที่ดี ซึ่งเจ้าของสินค้าจะต้องพิจารณาว่า ควรจะยอมจ่ายเพื่อให้ได้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมหรือไม่ ซึ่งบางครั้งเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องจำเป็น
นอกจากห้างสรรพสินค้าหรือซูเปอร์มาร์เก็ตแล้ว ร้านแบบอื่นๆ เช่น ร้านโชห่วยที่มีสินค้าของเราวางขาย ก็ควรจะต้องหมั่นไปเยี่ยมเจ้าของร้านเพื่อพูดคุย ซึ่งจะได้ทั้งความรู้ว่า ลูกค้าปลายทางแต่ละคนมองสินค้าของเราอย่างไร และได้สร้างความสัมพันธ์กับเจ้าของร้านที่เป็นช่องทางการจำหน่าย ทำให้สามารถพูดคุยขอร้อง ให้เจ้าของร้านจัดวางสินค้าของเราในตำแหน่งที่ดี
นอกจากกรณีที่ให้เจ้าของร้านจัดวางให้แล้ว ในบางครั้งอาจจะต้องลงทุนสร้างชั้นวางของเราขึ้นมาต่างหาก เพื่อให้เกิดจุดเด่น ซึ่งผมก็เชื่อว่าหลายท่านเคยเห็นกรณีแบบนี้มาแล้ว เช่น ชั้นวางน้ำอัดลมบางยี่ห้อที่ผู้ผลิตมอบให้ร้านค้าไปเลย ชั้นวางหนังสือพิมพ์ที่มีโลโก้หนังสือพิมพ์ติดอยู่ ฯลฯ ไม่ว่าเจ้าของร้านจะนำชั้นวางที่ผู้ผลิตมอบให้ไปวางสินค้าของเราหรือของคนอื่น แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นแล้วแน่นอนก็คือ ลูกค้าจะเห็นโลโก้ เกิดการตอกย้ำแบรนด์ทำให้ในปัจจุบันนี้มีผู้ผลิตที่สร้างชั้นวาง หรืออย่างน้อยก็อุปกรณ์ในการจัดวางที่โดดเด่นให้เจ้าของร้านต่างๆมากขึ้น
การให้ชั้นวางหรืออุปกรณ์ในการจัดวางนี้ ก็จะต้องพิจารณาให้เหมาะสมกับร้านที่เราจะมอบให้ กล่าวคือจะต้องมีความโดดเด่น แต่เป็นระเบียบเรียบร้อย เพราะเจ้าของร้านส่วนใหญ่ โดยเฉพาะโชห่วยนั้นมีพื้นที่จำกัด จู่ๆ คงไม่ได้ยอมให้เราเอาชั้นวางขนาดใหญ่คับร้านไปวาง แต่จะต้องเป็นชั้นวางขนาดพอเหมาะ (ผู้ผลิตอาจจะทำมาหลายขนาด เพื่อร้านแต่ละประเภท) ที่สำคัญคือ ต้องมีรูปลักษณ์ที่ดี ไม่ทำให้เจ้าของร้านรู้สึกว่าเสียภาพลักษณ์ที่จะวางชั้นของเรา
ดังนั้น ชั้นวางจะต้องเป็นชั้นที่ทำให้เจ้าของร้านรับไปแล้วยินดีที่จะนำมาใช้วางของ ไม่ใช่ให้ไปแล้วเขาเอาไปซุกไว้หลังร้าน ก็จะเสียเงินเปล่าๆ
นอกจากการเจรจา การแจกชั้นวาง รวมไปถึงการจ่ายเงินเพื่อให้สินค้าของเราได้วางในตำแหน่งดีๆ แล้ว การมีดีต้องโชว์สามารถทำได้อีกหลายทาง เช่น การโฆษณา ซึ่งในปัจจุบันนี้มีช่องทางที่ราคาย่อมเยา เช่น การแจกแผ่นพับ ใบปลิว หรือการโฆษณาผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
พึงระลึกเสมอว่า หากมีดีแล้วไม่โชว์ ก็ไม่มีใครรู้ว่าเราดี
ความดีนั้นก็ไม่มีประโยชน์ใดๆ เลยครับ
แหล่ง : โพสต์ ทูเดย์ (www.posttoday.com)