10 กลยุทธ์ทำร้านค้าปลีกให้ 'รุ่ง'

เทคนิคการขายสู่ความสำเร็จ By วรกร.wmv (ตะกายดาว) 10 กลยุทธ์ทำร้านค้าปลีกให้ 'รุ่ง' เจาะลึก 10 วิธีในการทำธุรกิจ "ร้านค้าปลีก" ของคุณ ให้ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่ร้านเสื้อผ้าไปจนถึงร้านของจุกจิก และต่อไปนี้คือไอเดียดีๆ ในการทำร้านค้าปลีก ที่จะทำให้ร้านของคุณดำเนินการได้อย่างราบรื่นและประสบความสำเร็จ... สถานที่ คุณอยู่ที่ไหน? การเลือกสถานที่ เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการทำฝันของคุณในการมีร้านให้เป็นความจริง จะดีได้อย่างไรถ้าหากคุณมีพนักงานที่ดีและมีสินค้าที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่มีลูกค้า? คุณควรเลือกทำเลที่มีการสัญจรพลุกพล่าน ร้านใหม่ๆ มักจะไม่มีลูกค้าประจำหากไม่ใช่แฟรนไชส์ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักดี ดังนั้น ถ้าจะให้ดีคุณควรไปเปิดร้านข้างๆ กับร้านค้าปลีกที่ไม่มีคู่แข่ง และมีลูกค้าประจำอย่างมั่นคงอยู่แล้ว เพราะร้านนั้นจะนำลูกค้าแวะเวียนมาทักทายร้านของคุณได้ทันที หากคุณกำลังมองหาชอปปิงพลาซ่าใหม่ๆ ก็ควรศึกษาสภาวะแวดล้อมรายรอบร้านของคุณก่อน ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่าคุณจะไม่เปิดร้านสุดหรูในห้างที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชนชั้นกลางในเมืองนั้นๆ สังเกตสิ่งแวดล้อมและใช้ค่อยๆ ศึกษาทำเลที่ "ดีที่สุด" อย่าเลือกเพียงเพราะทำเลนั้นอยู่ใกล้บ้านคุณ ห้างใหญ่ การบริหารห้างสรรพสินค้านั้น คือการทำให้แน่ใจว่าร้านต่างๆ ที่จะเข้ามาในห้างนั้น หรืออยู่ในห้างนั้นแล้วได้ทำตามกฎและนโยบายที่เหมาะสมกับพื้นฐานของแต่ละราย และควรช่วยเหลือผู้เช่าที่มาใหม่ให้คุ้นเคยกับห้างมากขึ้น เพราะห้างมีกฎเกณฑ์มากมาย และการละเมิดกฎก็หมายความถึงเงินที่คุณอาจต้องเสียไปด้วย เช่นการเปิดร้านช้า นั้นเป็นข้อห้ามและต้องโดนปรับ ผู้บริหารห้างเป็นทีมงานมืออาชีพและวิธีที่ดีที่สุดที่คุณควรทำคือการสำรวจข้อมูลก่อนจะนัดหมายหรือเจรจากับผู้จัดการห้าง สินค้า จัดวางสินค้าบนชั้น การเลือกสินค้าสำหรับร้านค้าของคุณอาจต้องใช้เวลามากที่สุดและใช้เงินมากที่สุดในการทำธุรกิจ และหน้าที่นี้ก็ไม่ควรทำอย่างขอไปที ก่อนที่คุณจะเปิดร้าน คุณควรไปร้านขายของส่งทั้งหลายเพื่อดูว่าคุณต้องการสินค้าอะไรบ้าง และตัดสินว่าจะตั้งราคาขายที่เท่าไหร่จึงจะเหมาะสมกับท้องที่ของคุณ การเลือกสินค้าอาจจะสนุก แต่จำไว้ว่าต้องรักษาคอนเซปต์และวัตถุประสงค์หลักของร้านของคุณ อาจลองปรึกษาและขอคำแนะนำจากผู้ขายหรือตัวแทนขายในร้านค้าส่งนั้น คุณจะพบว่าพวกเขายินดีที่จะช่วยเหลือและแบ่งปันประสบการณ์ในสินค้าแต่ละตัว ซึ่งนี่จะช่วยให้คุณตัดสินใจด้วยตัวเลือกที่แคบลงว่าในร้านของคุณจะมีอะไรบ้าง รักษาคอนเซปต์ อย่างเช่นเป็นร้านสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ ลูกค้าจะรู้ได้ทันทีว่าควรจะคาดหวังอะไรเมื่อก้าวเข้ามาในร้าน นั่นก็คือสินค้าสวยๆ งามๆ ของคุณผู้หญิงทั้งหลาย และมีไม่กี่คนที่เข้ามาเพื่อจะหาสินค้าของผู้ชาย โดยในร้านของคุณอาจจะมีสินค้าสำหรับผู้หญิงทุกช่วงอายุ ไม่ว่าจะเป็นตะไบเล็บ ของขวัญ ของตกแต่งห้อง, รองเท้า และอุปกรณ์จุกจิกอื่นๆ ซึ่งล้วนเป็นของที่ถูกคัดสรรมาแล้วให้เข้ากับคอนเซปต์ของร้าน การยึดมั่นกับคอนเซปต์จะทำให้คุณมีลูกค้าประจำที่เหนียวแน่นและกลายเป็นเอกลักษณ์ที่ใครก็เลียนแบบไม่ได้ หมั่นอัพเดทเทรนด์ อย่าคิดว่าคุณรู้เทรนด์ทุกอย่าง แต่ให้ติดตามแนวโน้มต่างๆ ทั้งในท้องถิ่นและประเทศว่าเป็นอย่างไร คุณอาจจะเห็นเทรนด์ที่คล้ายๆ กันทั้งในโทรทัศน์และในนิตยสาร แต่คุณต้องรู้จักตลาดของคุณด้วย มันมีขายในห้างของคุณหรือไม่? มันเข้ากับร้านของคุณหรือไม่? และอย่าพยายามขายอะไรที่อยู่นอกเหนือจากงบประมาณในการจัดซื้อของคุณเพียงเพราะว่ามัน "อินเทรนด์" แต่สิ่งที่ดีที่สุดคือฟังลูกค้าของคุณ ลูกค้าจะบอกให้รู้เสมอว่าเขาต้องการอะไร ถ้าเพียงแต่คุณจะถาม ลองไปร้านค้าส่งใกล้ๆ แล้วดูว่ามีเทรนด์สินค้าอะไรใหม่ๆ บ้าง การจัดจ้างและการจัดการ เด็กดี มันหลีกเลี่ยงไม่ได้ว่าคุณจะต้องรับเด็กหนุ่มสาวเข้ามาทำงานให้คุณ คุณควรจ้างคนอายุน้อยที่ต้องการรู้เรื่องธุรกิจที่คุณกำลังทำอยู่ คนที่สนใจเรื่องรถแต่ต้องการทำงานในร้านขายเสื้อผ้าของคุณอาจไม่เหมาะสมเท่ากับคนที่ตั้งใจเรียนในชั้นเรียนเรื่องแฟชั่นดีไซน์ เมื่อสัมภาษณ์คนเหล่านี้ ให้ลองถามความสนใจและงานอดิเรก และพวกเขาสามารถอุทิศอะไรให้ได้บ้างในฐานะพนักงานของคุณ หามือขวา ตรวจสอบรายชื่อบุคคลอ้างอิงในเรซูเม่ที่ส่งมา ลงโฆษณารับผู้จัดการหากคุณมีงบประมาณเพียงพอและเตรียมพร้อมที่จะจ่ายเงินในอัตราที่แข่งขันได้ ผู้เข้าแข่งขันควรมีประสบการณ์ในการจัดการร้านมาอย่างน้อย 1 ปี และประสบการณ์ในวงการค้าปลีกอีก 2 ปี ลองถามคำถามต่างๆ เกี่ยวกับซอฟต์แวร์ การจัดการเงินสด และที่สำคัญคือ ทักษะในการจัดการด้านการบริการลูกค้าและการจัดการพนักงาน สูญเสียการป้องกัน คุณอาจเจอการขโมยของในร้านได้ตลอดเวลา ให้ลองคำนวณและบวกเพิ่มไปในราคาด้วย วิธีที่จะทำให้รู้ว่าคุณเสียไปเท่าไหร่คือการทำรายการสินค้าขึ้นมา คุณอาจลองใช้ระบบการบริหารสินค้าแบบ real-time ซึ่งสามารถบอกได้อย่างแม่นยำว่ายังมีสินค้าอะไรเหลืออยู่เท่าไหร่บ้าง รักษาความซื่อสัตย์ของพนักงานของคุณไว้ด้วยกล้อง หากคุณขายสินค้าชิ้นเล็กๆ ที่สามารถหยิบฉวยไปได้ ก็วางไว้ในชั้นที่ปลอดภัย และทำให้แน่ใจว่าพนักงานของคุณใช้กระเป๋าใสใส่ของมาทำงาน หรือไม่มีกระเป๋ามาเลยยิ่งดี เพราะคุณต้องป้องกันไว้ก่อน หาลูกค้าและรักษาไว้ ทุกอย่างต้องดำเนินต่อไป ระบุที่สำหรับการขายสินค้าลดราคา ลูกค้าควรแยกแยะได้อย่างง่ายดายระหว่างสินค้าปกติและสินค้าลดราคา การวางสินค้าไว้หลังร้านจะเป็นการทำให้ลูกค้าเดินผ่านสินค้าปกติก่อนจะมาถึงสินค้าลดราคา จึงเป็นการเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าปกติตามไปด้วย และเขียนราคาสินค้าอย่างชัดเจนชนิดที่สามารถเรียกร้องความสนใจจากลูกค้าได้ทันที การติดเครื่องหมายหน้าร้านจะทำให้ลูกค้ารู้ว่าเข้ามาร้านนี้เพื่ออะไร และอาจเรียกลูกค้าใหม่ๆ ที่อยากลองเข้ามาดูในร้านว่ามีอะไรลดราคาบ้าง ลูกค้ามีค่าดั่งทอง การบริการลูกค้า เป็นกุญแจสำคัญในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ ผู้ประกอบการที่ฉลาดๆ จะบอกคุณว่าลูกค้าเปรียบเหมือนขุมทองที่คุณต้องปฏิบัติอย่างดี การบริการลูกค้าไม่ใช่แค่การทักทายลูกค้า แต่ยังรวมถึงการช่วยหิ้วของไปยังรถ แพ็คของให้ และทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าเขาได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการมาซื้อของที่ร้าน ปฏิบัติต่อลูกค้าด้วยความเคารพ เพราะการบอกกันปากต่อปากนั้นประเมินค่าไม่ได้ มันเป็นวิธีการโฆษณาที่ดีที่สุดที่มาจากลูกค้าที่มีความสุข และต้นทุนของคุณก็คือ "เวลา" เท่านั้น. แหล่ง : กรุงเทพธุรกิจ (www.bangkokbiznews.com)