1
2

"ความรัก" หรือ "ความใคร่" อะไรที่นำพาสู่ชีวิตคู่



MV "Too much so much very much" in At Ten

 Loving You Too Much So Much Very Much…Right Now 



"ความรัก" หรือ "ความใคร่" อะไรที่นำพาสู่ชีวิตคู่
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ "ธงชัย ประดับชนานุรัตน์"
 
ณ วันนี้มองไปทางไหนก็เห็นแต่ความรักที่ผลิบานของหนุ่มสาว ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่พร้อมจะสร้างเนื้อสร้างตัวและใช้ชีวิตครอบครัวที่อบอุ่น แต่จะมีสักกี่คนที่วางแผนเรื่องของอนาคตไว้ โดยเฉพาะการตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ร่วมกับใครสักคนไปตลอดชีวิต

"การแต่งงาน" เป็นเหมือนจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงตัวเอง เพื่อใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับคนๆ หนึ่งอย่างมีความสุข "ธงชัย ประดับชนานุรัตน์" ผู้อำนวยการศูนย์รวมนักศึกษาแบ๊บติสต์ และผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา Pre-Marital Counseling หลักสูตรก่อนแต่งงาน กล่าวให้ความรู้และสะท้อนมุมมองว่า การใช้ชีวิตคู่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันไม่ได้แตกต่างกันมากนัก เพราะส่วนใหญ่คนมักชอบทำตามใจตัวเอง ถือว่าเป็นพื้นฐานนิสัยของคนทั่วไป แต่เนื่องจากในอดีตขนบธรรมเนียมประเพณีมันเคร่งครัด จึงทำให้คนอยู่ในกรอบ อีกอย่างเป็นสังคมของครอบครัวใหญ่ เวลาที่หนุ่มสาวจะทำอะไรก็ไม่ค่อยมีเสรีภาพเทียบเท่ากับสมัยนี้ กว่าจะออกจากบ้านได้แต่ละวันต้องขออนุญาตพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย แม้อยากจะทำอะไรตามใจก็ไม่สามารถทำได้อย่างใจปรารถนา


แต่เมื่อพูดถึงสมัยนี้ ผู้คนต่างๆ อยากทำอะไรก็สามารถทำได้ เพราะสังคมกว้างขึ้น วัยรุ่นหนุ่มสาวออกมาใช้ชีวิตอยู่นอกบ้านกันมากขึ้น อาจเนื่องด้วยต้องมาศึกษาเล่าเรียนต่างถิ่น บวกกับความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีล้ำหน้า ที่สามารถพูดคุยกันได้ โดยไม่ต้องออกไปเจอกันนอกบ้าน


ผู้อำนวยการศูนย์รวมนักศึกษาแบ๊บติสต์ บอกว่า ไม่แปลกที่การเลือกคู่ครองจะมาจากการตามใจ และอารมณ์ความรู้สึก แต่ก็ไม่ใช่ทางที่ดีที่สุด เพราะอารมณ์ของคนเราไม่แน่นอนอาจขึ้นๆ ลงๆ ได้ วันนี้บอกว่ารักมาก แต่พรุ่งนี้รักกลับหาย


"ความรักต้องมาจากความตั้งใจ แม้ว่าสมัยก่อนทุกคนอยากจะทำอะไรตามใจ แต่สุดท้ายก็เข้าใจความถูกต้องของประเพณี และยึดมั่นว่าเมื่อแต่งงานกับใครแล้วจะต้องอยู่ด้วยกันและดูแลกันไปตลอดชีวิต ถึงแม้มันจะมีอุปสรรคอะไรเกิดขึ้นมากมายก็ตาม ต้องซื่อสัตย์ การแต่งงานกันด้วยความรู้สึกที่ฉาบฉวยมักมีโอกาสเสี่ยงต่อการหย่าร้างที่สุดมาก"


สำหรับคนที่ต้องการใช้ชีวิตคู่จะต้องมีการวางแผน อย่าเอาความรู้สึกมาเป็นบรรทัดฐานในการตัดสินใจเพียงอย่างเดียว ผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษาก่อนแต่งงานแนะนำว่า ต้องเริ่มจากการเรียนรู้ว่าการแต่งงานคืออะไร ความรักคืออะไร เพราะความรักกับความใคร่ถูกนำมาใช้ปนกันจนแยกแยะไม่ออก


"Lust แปลว่า ความใคร่ ส่วน Love แปลว่า ความรัก ที่หลายคนนำมาใช้บอกแทนความรู้สึกแก่กัน ซึ่งบางคนก็ไม่ได้รู้ความหมายของมันอย่างแท้จริง เพราความใคร่มีแต่ความต้องการเพื่อตอบสนองความรู้สึกของตัวเอง แต่ความรักมีแต่ให้โดยไม่หวังสิ่งใดตอบแทน แม้บางครั้งต้องยอมเสียสละสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป" อ. ธงชัยอธิบายให้เห็นภาพความแตกต่าง


การแต่งงานจึงไม่ควรมาจากอารมณ์ความรู้สึกที่ครอบงำอยู่ แต่ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของคำว่า "ตั้งใจ" ฉะนั้น การเตรียมตัวก่อนเข้าสู่ประตูวิวาห์จึงเป็นเหมือนด่านแรกของความตั้งใจ เพื่อสร้างชีวิตคู่หลังการแต่งงานให้มีความสุข ซึ่งสามารถทำได้ดังนี้


 1. เตรียม Head ต้องศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับการแต่งงาน โดยต้องเรียนรู้ว่าความรักคืออะไร การแต่งงานคืออะไร การอยู่กันจะต้องมีการปฏิบัติอย่างไรบ้าง เช่นเดียวกับการสร้างบ้านที่ต้องมีการวางแผนก่อน ทั้งการออกแบบ การจัดเตรียมอุปกรณ์ ลงมือสร้าง จัดตกแต่ง และสุดท้ายการที่เจ้าของเข้ามาอยู่ในบ้านอย่างมีความสุข
 2. เตรียม Heart เชื่อว่าทุกคนที่ตัดสินใจแต่งงานจะต้องมีการเตรียมใจที่มาจากความรัก แต่ไม่ได้เตรียมใจเพื่อยอมรับการสิ่งต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น อาทิ การอยู่บ้านหลังเดียวกัน การร่วมเตียงนอนกัน และการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันไปตลอดชีวิตที่ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้างในอนาคต
 3. เตรียม Hand จากเมื่อก่อนที่แทบจะไม่ต้องทำอะไรเอง เนื่องจากมีคุณพ่อคุณแม่หรือแม้กระทั่งแม่บ้านเป็นคนที่คอยทำให้ทุกอย่าง เมื่อต้องมารร่วมใช้ชีวิตคู่กับใครสักคน ผู้หญิงก็ต้องเรียนรู้การเป็นแม่บ้านที่ดี เช่น ทำงานบ้าน ทำอาหาร ทำหน้าเป็นภรรยาที่ดีในการปรนนิบัติสามี ส่วนผู้ชายก็เช่นกันจะต้องมีการแบ่งเบาภาระของภรรยาในงานบางอย่าง เช่น การซ่อมของใช้ในบ้านที่ชำรุดเสียหาย หรือบางครั้งอาจจะช่วยทำงานบ้านบ้าง
 4. เตรียม House เตรียมบ้านที่อยู่อาศัย โดยต้องให้สมกับฐานะความเป็นไม่มากหรือน้อยเกินไป หรือใช้หลักของ "นกน้อยทำรังแต่พอตัว" ก็เหมาะกับคู่ชีวิตที่เริ่มต้นสร้างครอบครัว บางคู่แต่งงานด้วยกันซื้อบ้านร่วมกันหลังใหญ่มาก ต้องช่วยกันทำงานเพื่อหาเงินมาผ่อนบ้าน แล้วถามว่าความสุขของคนเราอยู่ตรงไหน
 5. เตรียม Home เป็นส่วนสุดท้ายที่สำคัญมากในการใช้ชีวิตคู่ เนื่องจากมันเป็นผลลัพธ์ทั้งหมดของการเตรียมตัว-เตรียมใจ เมื่อมีบ้านก็ต้องสร้างครอบครัวให้เกิดขึ้นในบ้าน บางคนอยู่ในบ้านหลังใหญ่โต แต่กลับไม่มีความสุข เนื่องจากไม่มีคำว่า "ครอบครัว" เพราะว่าบ้านสร้างด้วยอิฐ แต่ครอบครัวสร้างด้วยความรักและความเข้าใจ ถ้าไม่มีความรัก ครอบครัวก็ไม่มีความสุข


นอกจากนั้น ยังมีพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อต้องการจะใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคนอย่างมีความสุข คือ อย่ายึดตัวเองเป็นหลัก ผู้อำนวยการศูนย์รวมนักศึกษาแบ๊บติสต์ อธิบายว่า การแสดงความเห็นแก่ตัวออกมา ทำให้คำว่าเรามีพื้นที่น้อยลง จนอีกฝ่ายรู้สึกอึกอัดในความไม่เสมอภาค ฉะนั้นการสร้างชีวิตคู่ให้มีความสุขต่างฝ่ายต่างต้องเห็นใจกัน ไม่เห็นแก่ตัว รู้จักคำว่า "ขอโทษ" และ "อภัย" รวมถึงจะต้องไม่ขุดคุ้ยเรื่องเก่าๆ ที่อีกฝ่ายเคยทำผิดพลาด เพราะสิ่งนี้เป็นชนวนที่ก่อให้เกิดความร้าวฉานและทำให้ชีวิตครอบครัวไม่มีความสุข


ทั้งนี้ อ. ธงชัย ฝากทิ้งท้ายว่า ถ้าเรายังปล่อยให้ครอบครัวแตกแยก ปัญหาต่างๆ ในสังคมก็คงไร้ทางเยียวยาให้กลับมาสู่สภาพที่ดีได้ และไม่แปลกที่เด็กมีปัญหาเพิ่มสูงขึ้น เพราะเติบโตในครอบครัวที่ขาดความอบอุ่น ขาดคนดูแลอบรมสั่งสอน ฉะนั้นถ้าคุณคิดจะแต่งงานก็ต้องสร้างครอบครัวให้มีความรักความอบอุ่น แต่เมื่อใดคุณไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งเหล่านี้ แสดงว่าคุณกำลังจะสร้างปัญหาให้กับสังคม ถ้าคิดจะแต่งงานก็ต้องเตรียมรับผิดชอบกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และจะดีไม่น้อยถ้าทุกคนร่วมกันสร้างครอบครัวที่มีแต่ความรักความอบอุ่นอันเป็นรากฐานที่มั่นคงของสังคมด้วย


http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9530000163117








1
2

Wish You Happinessss

Success is not the key to happiness. Happiness is the key to success. 
If you love what you are doing, you will be successful. 

~ Albert Schweitzer ~

 คัมภีร์ 5 ห่วง  วิถีแห่ง "ซามูไร" วิถีแห่งนักรบ "บูชิโด"   แนวคิดของตัวเม่น   GOOD LUCK สร้างแรงบันดาลใจเพื่อความสำเร็จ ในชีวิตและธุรกิจด้วยตัวคุณเอง    Why complicate life ?   3 x 8 = เท่าไหร่ ?????   "ฉันชื่อ..โอกาส"

Wish You Happinessss