โจรเข้าบ้าน ทำไงดี!

ด้วยปัญหาจากคนว่างงานที่มีเยอะขึ้นทำให้อาชญากรรมเพิ่มขึ้นตามลำดับเป้าหมาย สำคัญของเหล่าโจรคือบ้านที่มีแต่ผู้หญิงอาศัยอยู่ แล้วเราจะทำอย่างไรให้อยู่บ้านได้อย่างปลอดภัยดีล่ะ

กรณีที่คุณอยู่บ้านแล้วพบว่าโจรเข้ามาย่องเบากลางดึก แถมคุณยังตื่นนอนและรู้ตัวเสียด้วย วิธีเหล่านี้จะช่วยให้คุณปลอดภัยกว่าการไม่เตรียมรับมือใดๆ เลย

1. ตั้งสติให้มั่น ไม่ว่าโจรจะมาในรูปแบบใด คุณต้องตั้งสติไว้ให้ดี เพราะคุณจะคิดหาทางออกได้เสมอ อย่างเช่น โจรเข้ามาแบบคนเดียวหรือสองคน มีเป้าหมายเพื่อย่องเบาไม่ให้เรารู้ตัว เราอาจจะแกล้งหลับต่อไปและระหว่างที่โจรขนของก็รีบโทรแจ้งตำรวจ รวมทั้งรีบหาที่ซ่อนแบบที่โจรคิดไม่ถึง บอกสมาชิกในบ้าน หรือรีบเผ่นออกจากบ้าน แต่ถ้าเกิดโจรมากันเป็นแก๊ง และจับสมาชิกในบ้านมัดรวมกัน ให้คุณอยู่เฉยๆ ไม่ควรต่อสู้กลับ เพราะอาจกระตุ้นให้คนร้ายฆ่าคุณได้

2. โทรศัพท์มือถือใกล้ตัว สิ่งที่ต้อง คว้าไว้ก่อนคือโทรศัพท์มือถือ ให้คุณรีบโทรไปที่ 191 ทันทีที่ออกจากบ้านได้ แต่ถ้าเกิดคุณถูกมัด ให้ค่อยๆ กดเบอร์ 191 และพูดคุยกับคนร้ายเพื่อให้รายละเอียดตำรวจที่กำลังรับฟังอยู่ เช่น หมู่บ้าน...นี้โดนยกเค้าประจำเลย อย่างบ้านที่อยู่นี้เลขที่...หมอดูก็เคยทักว่าดวงไม่ดี ทำไมพวกคุณมากันตั้ง 7 คน เอารถอะไรมา เป็นต้น เพื่อตำรวจจะได้รู้ที่อยู่ของคุณและประเมินสถานการณ์ได้ว่ากำลังอยู่ในภาวะ อันตรายแค่ไหน

3. จดจำรายละเอียดโจร ถ้าดูแววแล้ว ลักษณะโจรจะไม่สามารถชวนคุยได้ ให้คุณจดจำรูปพรรณสัณฐาน ทรงผม แผลเป็น บุคลิก พื้นเพ ซึ่งทราบได้จากภาษา ให้คุณสังเกตเงียบๆ ไม่ต้องชวนคุยหรือเถียง เพราะจะก่อนให้เกิดอารมณ์ด้วยกันทั้งสองฝ่าย ที่สำคัญจดจำสิ่งของที่โจรขโมยไปด้วย เช่น นาฬิกา พระเครื่อง เครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น

4. เรียนรู้การใช้อาวุธ ถ้าโจรหวังเข้า มาทำร้ายหรือต้องการจะข่มขืน ให้คุณใช้อาวุธที่ไม่ผิดกฎหมาย เช่น สเปรย์พริกไทย ท่อนไม้ เครื่องช็อตไฟฟ้า โดยต้องตั้งไว้ในที่ที่หยิบสะดวก เช่น หัวเตียง ใต้หมอน จากนั้น อาจจะตะโกนให้เพื่อนบ้านทราบว่าไฟไหม้ คนจะตื่นขึ้นมาดูเหตุการณ์ได้ง่ายกว่าที่คุณจะตะโกนว่าช่วยด้วยเพียงอย่าง เดียว

5. รอดแล้วเล่าเรื่อง เมื่อรอดจาก เหตุการณ์ขโมยขึ้นบ้านแล้ว ก็ควรให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจถึงเส้นทางเข้าออก เวลาที่โจรเข้าและออก สิ่งที่โจรรื้อค้น รูปพรรณ เสื้อผ้า พาหนะ รวมทั้งทรัพย์สินที่โจรหยิบไป เพื่อจะได้ติดตามทรัพย์สินอย่างทันท่วงที

ขอขอบคุณข้อมูล : Lisa

ผู้หญิงป้องกันตัว 1. เคล็ดลับจากวิชาเทควันโด ข้อศอกเป็นจุดที่แข็งแกร่งที่สุดของร่างกาย หากถูกทำร้ายหรือกำลัง จะถูกทำร้าย และคุณอยู่ในระยะที่ใกล้พอ จงใช้ข้อศอกให้เป็นประโยชน์ (ถองกบาลหรือกกหูมันแรงๆ) 2. ข้อแนะนำจากหนังสือแนะนำนักท่องเที่ยว หากถูกโจรจี้ และขอกระเป๋าถือหรือกระเป๋าสตางค์ อย่ายื่นกระเป๋าให้โจร แต่ให้เขวี้ยงกระเป๋าไปไกลๆ เ พราะเป็นไปได้ว่าเจ้าโจรนั่นอาจสนใจเงิน หรือข้าวของ ในกระเป๋ามากกว่าตัวคุณ มันจะวิ่งไปคว้ากระเป๋าที่คุณโยนออกไป ทีนี้ก็จงวิ่งอย่าง ไม่คิดชีวิตไปในทิศทางตรงกันข้าม 3. ถ้าถูกจับขังในฝากระโปรงท้ายรถ พยายามทุบให้ไฟท้ายรถหลุดออก จากนั้นยื่นแขนออกมาจาก รูโหว่แล้วโบกสุดฤทธิ์ คนขับมองไม่เห็นคุณ แต่รับรองชาวบ้านเห็นแน่ๆ วิธีนี้ช่วยชีวิตคนมานักต่อนักแล้ว 4. อย่านั่งแช่ในรถ สาวๆ ทั้งหลาย เมื่อเสร็จภารกิจช้อปปิ้ง กินข้าว เลิกงาน ฯลฯ ก้าวขึ้นรถแล้วก็ มักจะนั่งแช่ ทำอะไรต่อมิอะไรกระจุกกระจิก เป็นต้นว่า ดูสมุดบัญชี จดลิสต์รายการข้าวของ หรือเรื่องที่จะต้องทำ หรืออื่นๆ ขอเตือนว่าอย่าทำเช่นนี้เป็นอันขาด ผู้ร้ายอาจกำลังจับตาเฝ้าดูคุณอยู่ การที่นั่งจ่อมอยู่อย่างนี้แหละจะเป็นโอกาสอันงามที่มันจะ ก้าวขึ้นมานั่งในรถข้างๆ คุณ เอาปืนจี้ แล้วสั่งให้พาไปไหนต่อไหน เพราะฉะนั้นก้าวขึ้นนั่งในรถเมื่อไรให้รีบล็อคประตูแล้วออกรถทันที 5. ต่อไปนี้เป็นข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ เมื่อคุณต้องเดินไปยังรถที่จอดในลานจอดรถ โรงจอดรถ หรืออาคารที่จอดรถ ก. ประสาทตื่นตัว หมั่นสำรวจรอบตัว มองข้างในรถ ทั้งที่นั่งข้างคนขับ พื้นรถ รวมถึงเบาะหลังด้วย ข. ถ้ารถคุณจอดอยู่ข้างรถตู้คันใหญ่ แนะนำให้ขึ้นรถด้านประตูผู้โดยสาร ผู้ร้ายส่วนใหญ่มักฉวย โอกาสจังหวะที่เหยื่อกำลังเปิดประตูรถลากตัวเหยื่อขึ้นรถตู้ ค. ดูรถที่จอดอยู่ข้างรถคุณ ทั้งฝั่งซ้ายและขวา หากมีผู้ชายนั่งอยู่คนเดียวตรงเบาะ ด้านที่ใกล้รถคุณ ควรหลีกเลี่ยงด้วยการเดินกลับเข้าไปในห้าง หรือที่ทำงานแล้ว ขอให้เจ้าหน้าที่ห้างหรือรปภ. หรือเพื่อนชายเดินกลับมาส่งที่รถ (ระวัง รปภ. ไว้ด้วยก็ดีนะ) ปลอดภัยไว้ก่อนี่ ดีกว่าต้องเสียใจทีหลัง (โดนหาว่าประสาทดีกว่าต้องซี้ม่องเซ็ก) 6. ควรใช้ลิฟต์แทนการขึ้นลงทางบันได บันไดเป็นจุดที่น่ากลัวที่สุดถ้าอยู่คนเดียว รวมทั้งเป็นจุด ที่เกิดอาชญากรรมได้ดีที่สุด 7. หากผู้ร้ายมีปืน และคุณยังไม่ได้ถูกจี้วิ่งหนี โอกาสที่มันจะยิงโดนคุณมีเพียง 4 ใน 100 ครั้งเท่านั้น (เป้าเคลื่อนที่) และถึงจะยิงโดน ก็เป็นไปได้มากว่าจะไม่ถูกอวัยวะสำคัญ เพราะงั้น วิ่งลูกเดียว 8. ผู้หญิงมักใจอ่อน ขี้สงสารและเห็นอกเห็นใจ ไม่ต้องเลย เพราะอาจนำไปสู่การทำร้ายร่างกาย ข่มขืน หรือฆาตกรรมได้ กรณีนี้มีตัวอย่างมาแล้ว ฆาตกรต่อเนื่องรายหนึ่งในอเมริกาชื่อ เท็ด เบินดี้ม เป็นชายหนุ่มหน้าตาดี มีการศึกษา มักใช้กลวิธีเรียกร้องความ สงสารจากเหยื่อ

http://www.page-4.net/ver2.0/content.asp?pageid=Mw&directory=MTEx&parent=MA〈=&content=NzE