น้ำท่วมกรุงเทพ
ผลการศึกษาชี้แผ่นดินทรุด อีก 100 ปี กทม. อาจจมทะเล
ผลการศึกษาโครงการวิจัยร่วมไทย-ยุโรป พบว่ามี 3 ปัจจัยที่ส่งผลทำให้น้ำทะเลเอ่อท่วมเป็นบริเวณกว้างทั่วทั้งกรุงเทพฯและปริมณฑลในอีก 30 ปีข้างหน้า และอีก 100 ปี กรุงเทพฯอาจจมทะเล
ผลการศึกษา โครงการวิจัยร่วม ไทย-ยุโรป เรื่องการเคลื่อนตัวของแผ่นดินและระดับน้ำทะเล ที่เสี่ยงต่อการเกิดน้ำท่วม พบว่าพื้นที่เขตบางขุนเทียนและจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งตะวันออก และจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นฝั่งตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงเทพมหานคร ถูกระบุว่าจะเกิดการทรุดตัวของชั้นดินมากถึง 15 มิลลิเมตรต่อปี นอกจากนี้ผลศึกษายังพบว่ามีการเพิ่มขึ้นของระดับน้ำทะเลเฉลี่ยในอ่าวไทยสูงกว่าค่าเฉลี่ยของโลกประมาณ 2 เท่า โดยบริเวณอ่าวไทยฝั่งตะวันตก เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 3 มิลลิเมตรต่อปี และตอนเหนือของอ่าวไทยใกล้กรุงเทพมหานคร มีน้ำสูงขึ้นเฉลี่ย 4 มิลลิเมตรต่อปี รวมถึงการลดระดับลงอย่างรวดเร็วของแผ่นเปลือกโลกในอัตรา 10 มิลลิเมตรต่อปี หลังเกิดเหตุการณ์สึนามิเมื่อเดือนธันวาคมปี 2547 ถ้ารวมผลการศึกษาทั้ง 3 ปัจจัย จะส่งผลให้พื้นที่ชายฝั่งทะเลและกรุงเทพมหานคร ทรุดตัวลงเฉลี่ยปีละ 3 เซนติเมตร โดยขณะนี้พื้นที่อยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลเพียง 1 เมตร ดังนั้นภายในอีก 30 ปี ข้างหน้า กรุงเทพและปริมณฑลจะถูกน้ำท่วมเป็นบริเวณกว้าง จากการสอบถามประชาชนพบว่า คนที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมกรุงในอีก 30 ปีข้างหน้า เพราะแผ่นดินเริ่มทรุดตัวลงทุกปี ขณะที่บางคนไม่เชื่อว่าจะเกิดขึ้นได้
ด้านนายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการศูนย์จัดการความรู้ด้านการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เผยว่ากรุงเทพและปริมณฑลต้องรับมือกับปัญหาน้ำท่วมและการทรุดตัวของแผ่นดิน รวมทั้งการกัดเซาะชายฝั่งที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยเขตดอนเมืองเป็นพื้นที่ที่มีการทรุดตัวมากที่สุดประมาณ 4 เซนติเมตรต่อปี ภายใน 30 ปีนี้ คนกรุงจะต้องเผชิญกับปัญหาน้ำท่วมหนักขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงมกราคม ขณะที่นักวิชาการเสนอแนวทางแก้ปัญหาว่าไม่ควรใช้วิธีตั้งรับที่ชายฝั่งและถอยร่นมาเรื่อยๆ แบบเดิม เพราะไม่สามารถแก้ปัญหาได้ แต่ควรสร้างความเข้าใจให้ประชาชนทราบข้อเท็จจริง และให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องช่วยกันขับเคลื่อนและตัดสินใจว่าควรจะแก้ปัญหานี้อย่างไร
http://www.thaipbs.or.th/s1000_obj/lite/html/news_detail.asp?content_id=262955
|
|