1
2

เซเว่นเซนส์ โดย ตัน ภาสกรนที (วิถีตัน)




ชีวิตลิขิตเอง - Boy Story Concert



เซเว่นเซนส์
โดย ตัน ภาสกรนที (วิถีตัน)

หลายปีมานี้ การเดินทางไปถ่ายทอดประสบการณ์ทำธุรกิจที่ต่างๆ ฝึกฝนให้ผมสนุกกับการตอบปัญหาทุกรูปแบบ
ครั้งหนึ่งเคยมีคนตั้งปุจฉากับผมถึงประเด็นว่าเก่งหรือจะสู้เฮงได้ ?

ในมุมมองของผม "เก่ง" กับ "เฮง" เป็นของคู่กัน
แต่ชั่วชีวิตคุณคิดว่าจะโชคดีถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 สักกี่ครั้ง

ถ้าจะเอาความสำเร็จแบบยาวๆ นานๆ ไม่มีใครดวงเฮงได้ตลอด
แต่ผมเชื่อว่าคนเก่งก็ยังเป็นคนเก่งอยู่ดี
บางคนถามว่ามีวันนี้ได้ ผมเชื่อเรื่องโชคชะตาไหม ?

คนอื่นอาจจะเรียกว่า “โชคชะตา” แต่ผมเรียกมันว่า “จังหวะและโอกาส”
ผมเชื่อว่าคนเรามีโอกาสเหมือนกัน เพียงแต่มันจะมาหาเราเมื่อไหร่

บางคนโชคดีตั้งแต่ปีแรก
บางคนขยัน ประหยัด มุ่งมั่นมา 10 ปียังไม่เห็นผล
แต่อาจจะไปเห็นผลตอนปีที่ 11
บางคนเหนื่อยมา 20 ปีถึงจะได้เก็บเกี่ยวดอกผล

โอกาสมักจะอยู่กับเราไม่นาน จะมาหาเมื่อไหร่ไม่รู้
แต่ถ้าโอกาสมาแล้วเราไม่พร้อม กว่าจะตัดสินใจนาทีสุดท้ายก็สายไปเสียแล้ว

บางเรื่องที่เรารู้ คนอื่นรู้ ทุกคนรู้เหมือนกัน
แต่ทำไมคนหนึ่งมองเห็นโอกาสเต็มไปหมด
แต่บางคนกลับมองไม่เห็น

บางทีโอกาสก็อยู่รอบๆ ตัวเรา เกิดขึ้นได้ตลอดในชีวิตประจำวัน
บางคนอาจจะเห็นแต่ไม่ได้ทำ หรือทำแต่ทำไม่เป็น เข้าไม่ถูกจังหวะเร็ว ช้า หนัก เบา..

บางอย่างทุกคนมีโอกาสในมือเท่าๆ กัน
เช่น ฟรีมีเดียอย่างเฟซบุ๊ค ทวิตเตอร์
ถึงจะเข้าถูกจังหวะ แต่ถ้าทำไม่ถูกใช้ไม่เป็น แทนที่จะช่วยสร้างสัมพันธภาพที่ดี
อาจจะกลายเป็นตรงกันข้ามเพราะเอาแต่ยัดเยียดโฆษณาขายสินค้า

เมื่อไหร่จะก้าว เมื่อไหร่จะถอย เมื่อไหร่คือจุดที่พอดี
จะจับจังหวะและโอกาสยังไงไม่ให้หลุดมือ
ต้องอาศัย “ประสบการณ์” บวกกับ “ทักษะ”
ผมเรียกสัญชาตญาณแบบนี้ว่า ...
สัมผัสที่ 7 หรือ ‘เซเว่นเซนส์’ ของนักเสี่ยงมืออาชีพ

มากไปกว่าสติ และสัญชาตญาณเอาตัวรอด คือ
สัญชาตญาณตื่นตัวและตอบสนองโอกาสได้อย่างอัตโนมัติ

การมีสายตามองเห็นโอกาสก่อนที่คนอื่นจะมองเห็น
เมื่อไหร่คือจุดอันตราย เมื่อไหร่คือจังหวะที่ได้เปรียบ
การตัดสินใจนาทีสุดท้ายที่ถูกจังหวะและเฉียบคม

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็น “เซเว่นเซนส์” ของการรับรู้
ที่อยู่นอกเหนือการทำงานของประสาทสัมผัสทั้ง 5
เป็นสัญชาตญาณพิเศษที่สามารถฝึกฝนได้จากการทำบ่อยๆ
ทำทุกวันจนชำนาญไปโดยอัตโนมัติ

ผมฝึกได้ คุณฝึกได้ ใครๆ ก็ฝึกได้

ทำไมเด็กเล็กๆ ถึงชอบฉี่รดที่นอน
เด็กบางคนกลางคืนชอบนอนกลิ้งจนตกเตียง
แต่ผู้ใหญ่ที่โตแล้วถึงจะหลับสนิท นอนดิ้นแค่ไหน หลายคนก็ไม่มีปัญหา

เพราะเด็กๆ ยังไร้เดียงสา ยังไม่มีประสบการณ์ ต้องฝึกฝนจนเป็นนิสัย
เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่จึงกลายเป็นสัญชาตญาณตื่นรู้ยามหลับได้โดยไม่รู้ตัว

ไหวพริบและสัญชาตญาณการทำธุรกิจต้องใช้เวลา
สั่งสมประสบการณ์กับทักษะ

ความสำเร็จไม่ได้หล่นมาจากฟ้า
แต่มีลำดับขึ้นตอนที่ต้องอาศัยความตั้งใจ มุ่งมั่น ทุ่มเท และ อดทนรอ

ถ้าจะนับว่าผมประสบความสำเร็จในปีที่เท่าไหร่...
อย่างน้อยๆ ผมคิดว่าน่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 20 ปี

ถึงจะล้มลุกคลุกคลาน ได้บ้างเสียบ้าง
แต่ประสบการณ์ทุกอย่างเป็นต้นทุนให้เราสั่งสมวิชาหาเงิน
การสั่งสมความรู้ เจ้านายที่ดี หุ้นส่วนที่ดี ลูกน้องที่ดีก็เช่นเดียวกัน

ปัญหาทำให้คนแข็งแกร่งขึ้น
ถ้าไม่เคยล้มเหลวก็ยากที่จะรู้ว่าการจะประสบความสำเร็จเขาทำกันอย่างไร

เรื่องบางเรื่องเราอาจเรียนรู้ได้จากคนอื่น
แต่สัญชาตญาณแบบเซเว่นเซนส์ ต้องฝึกฝนและเก็บชั่วโมงบินด้วยตัวเองครับ

ช่างซ่อมเก่งๆ แค่ปรายตาดูเครื่องไวๆ นิดเดียวก็รู้แล้วว่ารถเสียที่ตรงไหน
เพราะอยู่กับมันทุกวันจนชำนาญ

ทำไมคนอื่นหูไวตาไว ทำไมคุณคิดไม่ทัน
ทำไมคนอื่นทำได้ ทำไมคุณทำไม่ได้

บางทีคำตอบอาจไม่ใช่เพราะโชคชะตา
แต่เพราะคุณยังไม่เป็น มืออาชีพ ยังไม่ เข้าใจ
และ ยังอยู่กับมันไม่นานพอ ต่างหากครับ

http://bit.ly/mPKGad






"อุทิศตนให้แก่กัน" ทำได้ชีวิตคู่ไปได้สวย

MV เพื่อเธอตลอดไป - Clash /// Byไผ่



"อุทิศตนให้แก่กัน" ทำได้ชีวิตคู่ไปได้สวย

การอุทิศตน เป็นองค์ประกอบที่สำคัญของความรัก ความรักจะมั่นคงไม่ได้ หากไม่มีความรู้สึกนี้

การอุทิศตน คือ การมอบตัวของเราให้แก่อีกฝ่ายหนึ่ง ซึ่งหมายถึง การที่คุณต้องมีความรับผิดชอบชีวิตของกันและกัน มีความรับผิดชอบร่วมกันในการดูแลรักษาชีวิตคู่ และหากความสัมพันธ์มีปัญหา คุณต้องช่วยกันจัดการแก้ไขปัญหานั้น มีวิธีที่ควรปฏิบัติดังนี้

ลดความเป็นตัวตนของคุณลงเสีย

ยอมเปลี่ยนแปลงความเป็นตัวเอง ทั้งที่คิดว่าดีอยู่แล้ว

ให้คนรักคุณเป็นที่หนึ่งในชีวิต

ถือว่าความต้องการของคนรักสำคัญเสมือนความต้องการของคุณเอง

ยอมสละความต้องการของคุณเพื่อคนรักของคุณ

ปกป้องความสัมพันธ์ชีวิตคู่ของคุณ

รับผิดชอบต่อความรู้สึก ความคิด และการกระทำของกันและกัน

ดูแลเอาใจใส่คนรักอยู่เสมอ

พร้อมที่จะเป็นที่พึ่งพิงอยู่เสมอ

ร่วมทุกข์และร่วมสุขกับเขา

อดทนต่อความยากลำบากเพื่อคนรัก

พยายามทำสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่กัน

การอุทิศตน เป็นภารกิจที่สำคัญในชีวิตคู่ เป็นการตั้งมั่นต่อความรักที่มีต่อกันว่า คุณทั้งสองพร้อมที่จะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เป็นเสมือนคน ๆ เดียวกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน และจะไม่ทอดทิ้งกันไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

การอุทิศตน ต่อกันนั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีทั้งสองฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด เพราะหากเป็นฝ่ายในฝ่ายหนึ่งกระทำอยู่ฝ่ายเดียว ความมั่นคงของชีวิตคู่ย่อมเกิดขึ้นได้ยาก และจะไม่มีความยั่งยืน สักวันความรู้สึกนี้จะค่อย ๆ หมดไปในที่สุด

คู่สมรสใหม่ อาจมีการอุทิศตนต่อกันได้ง่ายกว่า แต่เมื่อเวลาผ่านไปอาจทำได้ยากขึ้น แต่คุณควรจะต้องทำให้ได้

ชีวิตรักหรือชีวิตคู่ จำเป็นต้องลดความเป็นตัวตนให้น้อยลง เพราะคุณต้องคำนึงถึงความรู้สึก ความคิดของคนรักคุณมากขึ้น หากคุณต้องการให้เขาหรือเธออุทิศตนให้คุณมากเท่าใด คุณก็ต้องอุทิศให้เขาหรือเธอมากขึ้นเท่านั้น และที่สำคัญ ต้องมีความเสมอต้นเสมอปลายในการปฏิบัติดังกล่าวด้วย

ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จากคู่มือการเสริมสร้างชีวิตคู่
สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
http://www.manager.co.th/Family/ViewNews.aspx?NewsID=9540000065611



กฎเหล็กเฟซบุ๊ค อ่านดีๆ ระวังแบรนด์หาย




Facebook - ซานิ บอส นิว เบน อ๊อฟ AF.mp3.wmv



กฎเหล็กเฟซบุ๊ค
อ่านดีๆ ระวังแบรนด์หาย
โดย อดิลฟิตรี ประพฤติสุจริต

เฟซบุ๊ค ออก 6 กฎเหล็กในการทำการตลาดของแบรนด์ที่สร้างแฟนเพจบนเฟซบุ๊ค อ่านแล้วมีหนาวกันเลยทีเดียว

เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ค ออกกฎเหล็กในการทำการตลาดของแบรนด์ที่สร้างแฟนเพจบนเฟซบุ๊ค โดย 6 กฎเหล็กนี้ ถ้าอ่านกันไม่ดี สุ่มสี่สุ่มห้าทำไปแล้วละเมิดกฎเข้าแล้วละก็ ผลคือการยกเลิกเพจและห้ามแบรนด์นั้นๆ ทำตลาดผ่านเฟซบุ๊คอีก

กฎหลักเน้นไปที่การรณรงค์ให้คนกด "ถูกใจ" (Like) แบบไม่ลืมหูลืมตา ไม่สนว่าจะเป็นการสแปมหรือไม่ เรียกว่างานนี้ "นักไลค์มืออาชีพ" อ่านแล้วมีหนาวกันเลยทีเดียว

ผมขอย้ำให้อ่านแล้วตระหนักกันมากๆ ทำความเข้าใจให้มากที่สุด เพราะหลายแบรนด์ตอนนี้มีรายงานว่าโดนกฎเหล็กไปแล้ว หรือแบรนด์คู่แข่งบางรายก็ยื่นฟ้องแคมเปญโฆษณาของฝ่ายตรงข้ามเสียเอง



กฎเหล็กข้อที่ 1
การจัดแคมเปญใดๆ บนเฟซบุ๊ค จะต้องจัดผ่านแอพพลิเคชั่นของเฟซบุ๊คเท่านั้น
แค่ข้อนี้ก็งานเข้าละครับ เพราะต่อไปนี้ ทุกแคมเปญต้องใช้แอพพลิเคชั่น เอฟบีเอ็มแอล หรือพูดง่ายๆ คือ ต้องทำแยกออกมาจากเนื้อหาของหน้า "กระดานข้อความ" ที่เราโพสต์ เช่น ใครโพสต์ 10 ท่านแรกจะได้นั่นโน่นนี่ หรือ ใครที่ "ติดป้าย" เพื่อนครบ 50 คนแรกจะได้นั่นโน่นนี่ แบบที่เราทำกันในช่วงที่ผ่านมา ถ้าเฟซบุ๊คจับได้ก็จะแบนบัญชีผู้ใช้ทันที เรียกว่าห้ามมายุ่งกับเฟซบุ๊คอีกต่อไปว่างั้น เมืองไทยมีหลายแบรนด์โดนแล้วนะครับ ระวังตัวกันให้ดี

กฎเหล็กข้อที่ 2
เฟซบุ๊ค ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดแคมเปญต่างๆ
อันนี้เข้าใจได้ไม่ยากครับ คือ ทางเฟซบุ๊คออกตัวไว้ก่อนเลย ข้อนี้ไม่ค่อยน่าห่วงเท่าไร แต่อย่าเผลอไปอ้างอิงอะไร ไม่ว่าจะเป็นชื่อ โลโก้ ไอคอน ของแบรนด์เฟซบุ๊คนะครับ ไม่งั้นอาจจะมีเสี่ยงโดนกฎข้อนี้ได้

กฎเหล็กข้อที่ 3
เฟซบุ๊ค ไม่อนุญาตให้บังคับผู้ใช้กด "ถูกใจ" บนกระดานข้อความ หรือต้องทำอะไรต่อมิอะไรก่อนจะได้ใช้งานแอพพลิเคชั่นที่เราเป็นคนสร้างเด็ดขาด
ซึ่งข้อนี้ละครับที่โดนเต็มๆ ประเภทกิจกรรมที่แบบว่าต้องกด "ถูกใจ" ก่อน แล้วผู้ใช้ถึงจะทำอะไรๆ ได้นี่ โดนแน่ๆ ตามที่เป็นข่าว คือ โดนกันระนาวเลยครับ ข้อนี้ผมไม่อธิบายยาวนะครับ เข้าใจได้ง่ายๆ เลย

กฎเหล็กข้อที่ 4
ไม่อนุญาตให้เอาฟีเจอร์ต่างๆ ของเฟซบุ๊คไปจัดแคมเปญโดยเด็ดขาด
ตัวอย่างเช่น กดปุ่ม "ถูกใจ" ได้รางวัล หรือกดโหวต ข้อนี้ถ้างงให้ย้อนกลับไปอ่านข้อที่ 1 ครับ พูดง่ายๆ คือ พวกช่องแบ่งปันบนกระดานข้อความ การโพสต์ ปุ่มถูกใจ หรือการกดโหวต ที่เป็นฟังก์ชันพื้นฐานนี่ห้ามเอามาเล่นเด็ดขาด ถ้าจะทำ ให้ทำเป็น เอฟบีเอ็มแอล เท่านั้น

กฎเหล็กข้อที่ 5
ถ้าแคมเปญจบและได้ผู้โชคดีแล้ว เฟซบุ๊ค ไม่อนุญาตให้ส่งข้อความไปหา ชวนสนทนาออนไลน์ หรือโพสต์ในหน้าข้อมูลส่วนตัวของผู้โชคดีเด็ดขาด
คือว่าลำพัง 2 อย่างแรกนี่ไม่มีปัญหา แต่ข้อที่บอกว่าห้ามโพสต์ในหน้าข้อมูลส่วนตัวของผู้ได้รางวัลนี่สิเรื่องใหญ่ครับ เพราะคนที่เป็นนักการตลาดก็คาดหวังกระแสไวรัลจากตรงนี้ละครับ

กฎเหล็กข้อที่ 6
เฟซบุ๊ค ไม่อนุญาตให้นำคำว่า "Facebook" (ในที่นี้เหมารวมถึงชื่อ โลโก้ และอื่นๆ) ไปอ้างอิงในการจัดโปรโมชั่นโดยเด็ดขาด
นั่นไงครับ ใครที่อ่านข้อ 2 แล้วไม่เข้าใจ พออ่านข้อที่ 6 นี่พอจะนึกภาพออกนะครับว่าอะไรบ้างที่ถูกห้ามนำไปใช้ในแคมเปญของนักการตลาดทุกท่าน

กฎเหล็กทั้ง 6 ข้อนี้เล่นเอานักการตลาดหนาวๆ ร้อนๆ กันเลยครับ ผมได้ทราบข่าวนี้ก็เลยโทรศัพท์ไปคุยกับตัวแทน เฟซบุ๊ค ในเมืองไทย ก็ได้ความคอนเฟิร์มกันไว้ตามกฎเหล็กนั่นละครับ
เอากำลังใจช่วยให้คุณผู้อ่านรอดพ้นจากกฎเหล็กอันตรายนี้ไปได้ทุกคน และทุกแบรนด์นะ
http://bit.ly/mtjDHX





เง้ออ..." กัปตัน แจ็ก สแปร์โรว์ " กลายเป็น " คนเหล็ก " ไปซะแล้ว...


Heyo Captain Jack


Jack Sparrow (feat. Michael Bolton)


เง้ออ...กัปตัน แจ็ก สแปร์โรว์
กลายเป็นคนเหล็กไปซะแล้ว...



จอห์นนี เดปป์ ในบท แจ็ค สแปร์โรว์ จากภาพยนตร์เรื่องผจญภัยล่าโจรสลัดสุดขอบโลก

JACK SPARROW
Pirates of the Caribbean


-- ทำจากโลหะรีไซเคิลชิ้นส่วนรถยนต์ และชิ้นส่วนอะไหล่
-- รูปปั้นโลหะเคลือบด้วยแล็คเกอร์, ปกป้อง"สนิม"

- It made from recycled metal, useless auto parts&machine.
- Coating metal sculpture by lacquer, protect "Rust".
Short Description

- Dimension is approx 270 x 100 x 120 cm
( height x length x width )
- Weight is approx 450 kg
***A shipping price depend on each country.
***You can buy our items in Etsy shop.
Price: $7,700.00
www.kreatworks.etsy.com



Kreatworks : The Steampunk & Metal arts shop


They are the high quality Steampunk&Metal arts shop. They have various products,
many size ( height 50-270 cm ). They are crazy to create new steampunk&metal arts.
They focus on quality&strange works, every items are strong&endurance, coat them
by lacquer for protect “Rust”
Every items made by “Mr.Sudjai (Mai) & a skillful team”. Mr.Sudjai is a Thai
sculpture artist, have experience over 10 years in steampunk&metal arts.
Our workshop is in Phatumthanee (near Bangkok), Thailand


http://www.kreatworks.com/?page_id=26




1
2

Wish You Happinessss

Success is not the key to happiness. Happiness is the key to success. 
If you love what you are doing, you will be successful. 

~ Albert Schweitzer ~

 คัมภีร์ 5 ห่วง  วิถีแห่ง "ซามูไร" วิถีแห่งนักรบ "บูชิโด"   แนวคิดของตัวเม่น   GOOD LUCK สร้างแรงบันดาลใจเพื่อความสำเร็จ ในชีวิตและธุรกิจด้วยตัวคุณเอง    Why complicate life ?   3 x 8 = เท่าไหร่ ?????   "ฉันชื่อ..โอกาส"

Wish You Happinessss