1
2

สบายใจหายห่วง ชอป “พลอยแท้” ได้มาตรฐาน






สบายใจหายห่วง ชอป “พลอยแท้” ได้มาตรฐาน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


จะชอปอัญมณีให้เพลิดเพลิน ดูให้เป็นนั้น เป็นสิ่งสำคัญ ล่าสุด กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับ คณะกรรมการพัฒนาธุรกิจอัญมณีและเครื่องประดับไทย เปิดตัว โครงการซื้อด้วยความมั่นใจ ช่วยเพิ่มความสบายใจให้บรรดานักชอป ด้วยการกำหนดมาตรฐานและดัชนีราคาอ้างอิง ที่มีความละเอียดและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล สำหรับใช้ในเชิงการค้าได้เป็นครั้งแรกในวงการค้าพลอยสี เพื่อประกาศศักดาของประเทศไทย ในฐานะผู้นำและผู้ผลิตพลอยสีรายใหญ่ของโลก


ปรีชา ผ่องเจริญกุล
ปรีชา ผ่องเจริญกุล ประธานคณะกรรมการพัฒนาธุรกิจอัญมณีฯ กล่าวถึงที่มาและเป้าหมายของ ตราสัญลักษณ์ ซื้อด้วยความมั่นใจ หรือ Buy with Confidence ซึ่งถูกออกแบบให้เป็นรูป ทับทิมสีแดงมีเครื่องหมายถูก ว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อวงการค้าอัญมณี และสามารถใช้การันตีถึงคุณภาพที่เชื่อถือได้ของอัญมณีที่มีเครื่องหมายนี้รับรอง

โครงการนี้จะเริ่มต้นด้วยการมอบตราสัญลักษณ์ให้แก่ พลอยสีที่สำคัญและได้รับความนิยมที่สุดในแวดวงการค้าทั่วโลก โดยเฉพาะ พลอยเนื้อแข็งสีหลักทั้ง 5 สีคือ แดงหรือทับทิม (Ruby) น้ำเงินหรือไพลิน (Blue Sapphire) เหลืองหรือบุษราคัม (Yellow Sapphire) ชมพู (Pink Sapphire) และสีส้ม (Orange Sapphire) ทำให้หลังจากนี้หากใครที่ต้องการเป็นเจ้าของพลอยสี เมื่อเห็นตราสัญลักษณ์นี้ ก็มั่นใจได้เลยว่าอัญมณีที่ครอบครองนั้นได้มาตรฐานแท้จริง ไม่ถูกเอาเปรียบจากผู้ผลิตและผู้ค้ารายย่อย ทั้งในเรื่องคุณภาพและราคาที่เป็นธรรมแน่นอน

โอกาสนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้คัดเลือกร้านค้าและผู้ประกอบการอัญมณีที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อรับมอบประกาศณียบัตรรับรองมาตรฐานและตราสัญลักษณ์ สำหรับประกันคุณภาพสินค้าที่จำหน่ายอย่างเป็นทางการด้วย ซึ่งไม่เพียงแต่ผู้ประกอบการจะมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นแล้ว ในแง่ของลูกค้าที่นิยมเก็บสะสมเครื่องประดับและอัญมณีเอง ก็สามารถวางใจในคุณภาพของสินค้าได้เช่นกัน เพราะตามข้อกำหนดของการเข้าร่วมโครงการนี้ ร้านค้าหรือผู้ประกอบการที่เข้าเป็นสมาชิกโครงการ จะต้องแจ้งรายละเอียดสินค้าที่จำหน่ายอย่างชัดเจนบนป้ายสินค้าแก่ผู้ซื้อ และต้องยินดีรับคืนสินค้าจากผู้ซื้อในสภาพเดิม (ภายใน 7 วัน) นับจากวันจำหน่าย โดยผู้ค้าอาจหักค่าดำเนินการ หรือค่าเสียโอกาส และอื่นๆ ได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของราคาขายด้วย

ตราสัญลักษณ์ ซื้อด้วยความมั่นใจ
สำหรับคนรุ่นใหม่ ที่นิยมชมชอบและอยากเป็นเจ้าของอัญมณี จำพวกพลอยสีต่างๆ ประธานคณะกรรมการพัฒนาธุรกิจอัญมณีฯ แนะนำว่า มี 3 ข้อใหญ่ที่ต้องคำนึงถึง อันดับแรก ต้องทราบก่อนว่า ตนเองนั้นชอบเครื่องประดับสีอะไร ซึ่งแต่ละคนก็มีความชอบที่แตกต่างกันไป

สำหรับบางคนไม่เพียงแต่การเลือกให้เหมาะกับสีผิว หรือเลือกให้เข้ากับชุดที่จะต้องใส่ออกงาน แต่ยังมีผลถึงความเชื่อของคนๆ นั้นด้วยว่า สีที่ถูกโฉลกกับตนนั้นคือสีอะไร และเมื่อได้สีที่ต้องการแล้ว ต่อมาให้พิจารณาถึง คุณภาพของเนื้อพลอยว่ามีความใส ดูแล้วสะอาดตาหรือไม่ จากนั้นจึงมาดูเรื่องของขนาด ซึ่งปัจจัยทั้งสองข้อหลังนี้ จะส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพและราคาของอัญมณี หากใครมีทุนทรัพย์เพียงพอ ก็ไม่จำเป็นต้องซื้ออัญมณีที่มาพร้อมตัวเรือนก็ได้ แต่อยากแนะให้หาซื้อพลอยสีคุณภาพดีที่มีขนาดใหญ่ เพราะยิ่งนานวันไป ก็จะยิ่งเป็นของหายากและมีมูลค่าสูงขึ้น

ลำดับมาตรฐานสีของพลอยชนิดต่างๆ







ต้อกระจก' โรคฮิตในผู้สูงอายุ รู้เท่าทัน ช่วยได้ทัน!








ต้อกระจก' โรคฮิตในผู้สูงอายุ รู้เท่าทัน ช่วยได้ทัน!
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


อาการตามัวในผู้สูงอายุ ดูจะเป็นเรื่องปกติธรรมดา จนหลายๆ คนไม่ได้ให้ความใส่ใจเท่าที่ควร เพราะคิดว่า “ท่านแก่แล้ว หูตาก็ฝ้าฟางเป็นธรรมดา” แต่นั่นคุณกำลังมองข้ามความสำคัญบางอย่างไป ซึ่งไม่ควรนิ่งนอนใจ ถ้าคุณ หรือญาติผู้ใหญ่ของคุณบอกกับเป็นนัยๆ ว่า ทำไมช่วงนี้มองอะไรไม่ค่อยชัดเลย หรือเวลาให้มองอะไรมักจะมองไม่ค่อยเห็นเหมือนแต่ก่อน

อาการดังกล่าวข้างต้น เป็นสาเหตุอันดับหนึ่ง ที่จะเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่า ต้อกระจกอาจจะเริ่มปิดบังความสว่างในการมองเห็นของญาติผู้ใหญ่แล้วก็ได้ ทั้งนี้เพื่อให้เข้าใจ และรู้เท่าทันกับโรคต้อกระจกก่อนจะคุกคามดวงตาไปมากกว่านี้ เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ ทีมงาน Life and Family มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากโรงพยาบาลกรุงเทพ นำมาส่งต่อความรู้ให้ลูกหลาน รวมถึงตัวผู้สูงอายุได้รับทราบเกี่ยวกับโรคนี้กันครับ

หากอธิบายให้เข้าใจถึงโรคต้อกระจก เป็นภาวะที่เลนส์แก้วตาขุ่น แสงจึงผ่านเลนส์เข้าไปยังจอประสาทตาได้น้อยลง หรือบางครั้งการขุ่นนั้น จะก่อให้เกิดการหักเหแสงที่ผิดปกติไปโฟกัสผิดที่ ทำให้จอประสาทตารับแสงได้ไม่เต็มที่ ผู้ป่วยจึงมีสายตาพร่ามัว โดยไม่มีอาการอักเสบ หรือเจ็บปวดใดๆ และยิ่งเลนส์แก้วตาขุ่นยิ่งขึ้น การมองเห็นก็จะลดน้อยลงเรื่อยๆ

สำหรับข้อเท็จจริงเบื้องต้นของโรคต้อกระจกนั้น หากเข้าใจให้ดี โรคนี้ไม่ใช่โรคติดต่อแต่อย่างใด และจะไม่ลุกลามจากตาข้างหนึ่งไปยังอีกข้างหนึ่งด้วย แต่ส่วนใหญ่ต้อกระจกจะเกิดขึ้นพร้อมกันทั้งสองตา โดยมีอาการอาจรุนแรงที่ไม่เท่ากัน ซึ่งมักเกิดขึ้นอย่างช้า ๆ ดังนั้น กว่าสายตาของผู้ป่วยส่วนมากจะขุ่นมัวจนรู้สึกได้ อาจต้องใช้เวลานานหลายเดือน หรือหลายปี

นอกจากนี้ การใช้สายตา และสภาวะของอาหารการกิน ไม่เป็นสาเหตุของต้อกระจก และไม่เป็นปัจจัยที่จะทำให้อาการของโรครุนแรงขึ้น ที่สำคัญ ต้อกระจก ไม่ใช่โรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม แต่ส่วนใหญ่ที่พบว่าญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวหลายคนเป็นต้อกระจกนั้น เพราะว่าการขุ่นของเลนส์แก้วตาในโรคต้อกระจก ที่เกิดจากการเสื่อมของเลนส์แก้วตาตามวัย คล้าย ๆ กับที่ผู้สูงอายุทุกคนจะมีผมหงอกขาวนั่นเอง

*** หนทางการรักษาต้อกระจก

ด้านแนวคิดเกี่ยวกับการรักษาต้อกระจกนั้น ได้เปลี่ยนไปจากเดิมที่ว่า ต้องรอให้ต้อกระจกสุกก่อนถึงจะทำการรักษาได้ผลดี โดยปัจจุบันมีวิทยาการในการรักษาโรคต้อกระจกด้วยคลื่นอัลตราซาวด์ (Ultrasound) ที่เรียกว่าวิธี “สลายต้อกระจก” หรือย่อ ๆ ว่า “เฟโค” (Phacoemulsification) ซึ่งสามารถใช้รักษาต้อกระจกได้โดยไม่ต้องรอให้ต้อสุกก่อน และให้ผลการรักษาดีมาก ทำให้ผู้ป่วยไม่จำเป็นต้องทนทรมานกับสายตาที่มัวลงเพื่อรอให้ต้อสุก ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการผ่าตัดที่ทันสมัยและได้ผลดี โดยใช้คลื่นอัลตราซาวด์ไปสลายเลนส์แก้วตาที่ขุ่นแล้วดูดออกจนหมด เหลือแต่เยื่อหุ้มเลนส์ด้านหลังไว้เป็นถุงสำหรับให้จักษุแพทย์สอดเลนส์แก้วตาเทียมเข้าแทนที่

ขอบคุณภาพประกอบจาก www.kkict.org
การสลายต้อกระจกนี้ สามารถทำได้โดยการให้ยาชาเฉพาะที่เท่านั้น ไม่จำเป็นต้องให้ยาสลบ นอกจากนี้ แผลที่เกิดขึ้นจากการรักษาวิธีนี้จะมีขนาดเล็กมากเพียง 3 ม.ม. จึงสมานตัวได้เป็นปกติอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องเย็บแผล ผู้ป่วยจึงไม่จำเป็นต้องนอนพักในโรงพยาบาล สามารถมองเห็นได้ชัดเจนอย่างรวดเร็ว และสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ

แต่ทั้งนี้ ยังต้องเพิ่มความระมัดระวังในการดูแลความสะอาด และระวังไม่ให้มีอุบัติเหตุกระทบกระแทกต่อดวงตา ขณะที่การรักษาด้วยการใช้ยาใด ๆ ไม่ว่าจะเป็นยาหยอดตา หรือยารับประทาน ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสามารถรักษา หรือยับยั้งการเกิดต้อกระจกได้

*** ทำไมต้องใส่แก้วตาเทียม?

ภายหลังจากการนำเลนส์แก้วตาที่ขุ่นเป็นต้อกระจกออกแล้ว ดวงตาจะไม่มีเลนส์แก้วตาทำหน้าที่รวมแสงอีกต่อไป การมองเห็นจึงยังไม่ชัดเจนเปรียบเหมือนกล้องถ่ายรูปที่ไม่มีเลนส์ ภาพจึงยังไม่โฟกัส จักษุแพทย์จะต้องใส่เลนส์แก้วตาเทียม เพื่อให้มองเห็นได้ชัดเจน โดยเลนส์แก้วตาเทียมมีคุณสมบัติใส ทำมาจากสารพิเศษที่ไม่ก่อให้เกิดการอักเสบหรือปฏิกิริยาใด ๆ กับดวงตา มีอายุการใช้งานได้นานตลอดชีพ และจะอยู่ภายในถุงเยื่อหุ้มเลนส์กลายเป็นส่วนหนึ่งของดวงตาคุณ โดยไม่ต้องดูแลอะไรเป็นพิเศษ

อย่างไรก็ตาม มีผู้ป่วยน้อยรายมากที่ไม่เหมาะสมในการใส่เลนส์แก้วตาเทียม ภายหลังนำต้อกระจกออกแล้ว เนื่องจากคนเหล่านั้นมีโรคของดวงตาบางชนิด ในกรณีนี้ผู้ป่วยอาจต้องใช้แว่นสายตาพิเศษหรือคอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษทดแทนการใส่เลนส์แก้วตาเทียม

การมองเห็นเริ่มผิดปกติ
ทั้งนี้ การเลือกใช้เลนส์แก้วตาเทียมชนิดใดในผู้ป่วยแต่ละรายนั้น จักษุแพทย์สามารถให้ข้อมูลและคำแนะนำแก่คุณ เพื่อประกอบการตัดสินใจร่วมกันระหว่างคุณและจักษุแพทย์ผู้รักษาต่อไป แม้ว่าทุกคนจะหลีกเลี่ยงการเป็นต้อกระจกไปไม่พ้น แต่ด้วยวิทยาการอันทันสมัยของยุคปัจจุบัน ทำให้ต้อกระจกไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป ภายในเวลาไม่กี่นาทีของการสลายต้อกระจก คุณก็สามารถกลับมามองโลกได้สดใสอีกครั้งหนึ่ง

*** ต้อหิน ต่างกับต้อกระจกอย่างไร?

ในประเด็นนี้ เชื่อว่าหลายคนคงเคยสงสัยกันว่า ต้อกระจก กับต้อหิน ต่างกันหรือไม่ เพื่อให้คลายสงสัย ทีมงานได้ทำการบ้านหาข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า ต้อหินเป็นหนึ่งในกลุ่มโรคต้อ ตามที่คนเรียกกันโดยทั่วๆ ไป ที่พบได้บ่อย จะมีต้อกระจก ต้อเนื้อ ต้อลม และต้อหิน แต่ต้อหินเป็นต้อเพียงชนิดที่ไม่มีตัวต้อให้เห็น เพราะต้อหินเป็นกลุ่มโรคที่มีการทำลายขั้วประสาทตา ซึ่งเป็นตัวนำกระแสการมองเห็นไปสู่สมอง ซึ่งเมื่อขั้วประสาทตาถูกทำลายจะมีผลทำให้สูญเสียลานสายตา เมื่อเป็นมากๆ ก็สูญเสียการมองเห็นในที่สุด ซึ่งเป็นการสูญเสียชนิดถาวร ไม่สามารถรักษาให้กลับคืนมามองเห็นได้

ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จะเห็นได้ว่า ดวงตาเป็นอวัยวะสำคัญที่จะต้องดูแล และควรให้ความสำคัญไม่น้อยไปกว่าอวัยวะส่วนอื่นๆ ดังนั้นเมื่อมีอาการตามัว หรืออาการอื่นที่สงสัยว่าจะเป็นต้อกระจก ควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยดวงตาโดยละเอียด เพื่อแยกชนิด และความรุนแรงของต้อกระจก โดยจักษุแพทย์จะต้องตรวจวัดความดันลูกตา และหยอดยา ขยายรูม่านตา เพื่อตรวจประสาทตาให้ทราบแน่ชัดว่าต้อกระจกเป็นสาเหตุเดียวที่ทำให้ผู้ป่วยตามัวลง หรือมีโรคอื่นร่วมด้วยหรือไม่

แต่เหนือสิ่งอื่นใด การรับประทานอาหารบำรุงสายตาที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นผัก หรือผลไม้ รวมทั้งการพักผ่อนสายตาให้เหมาะสม เมื่อต้องจ้องหน้าจอโทรทัศน์ หรือคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน จะช่วยถนอมดวงตาได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญ เมื่อเกิดการอักเสบของดวงตา ไม่ควรใช้ยาหยอดตาใดๆ ทั้งสิ้น โดยไม่ได้คำปรึกษาจากแพทย์ เพราะอาจเกิดการแพ้ ไปจนถึงขั้นตาบอดได้






"นั่ง" นานเสี่ยงเสียชีวิต












06.gif picture by happinessss

"นั่ง" นานเสี่ยงเสียชีวิต
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเผย การนั่งเป็นเวลานาน ๆ ไม่ดีต่อสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นการนั่งทำงาน นั่งเรียน นั่งขับรถ หรือแม้กระทั่งนั่งหน้าจอทีวี - คอมพิวเตอร์ เพราะนอกจากจะทำให้ความเสี่ยงต่อการเกิดปัญหาสุขภาพเพิ่มสูง ทั้งโรคอ้วน โรคหัวใจ ฯลฯ ยังอาจสูญเสียได้แม้กระทั่งชีวิตเลยทีเดียว

Elin Ekblom-Bak นักวิจัยชาวสวีเดนจาก School of Sport and Health Sciences ผู้ทำการวิจัยในเรื่องดังกล่าวเปิดเผยว่า หน่วยงานด้านสุขภาพที่รับผิดชอบควรทบทวนถึงรูปแบบการทำงานที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน ๆ อีกทั้งการการแนะนำให้คนทำงานหมั่นออกกำลังกายเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอเสียแล้ว

"หลังจากนั่งเป็นเวลานานกว่า 4 ชั่วโมง ยีนที่ควบคุมปริมาณของน้ำตาลและไขมันในร่างกายจะเริ่มหยุดการทำงาน ซึ่งนั่นถือเป็นสัญญาณอันตรายต่อร่างกายแล้ว"

ด้านทิม อาร์มสตรอง ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพแห่ง WHO กล่าวว่า ผู้ที่ออกกำลังกายทุกวันแต่ก็ยังใช้เวลานั่งทำงานนาน ๆ ก็มีความเสี่ยงในด้านสุขภาพมากกว่าผู้ที่มีการขยับตัว ไม่นั่งนิ่ง ๆ ตลอดทั้งวันเช่นกัน

นอกจากนี้ จากการเก็บข้อมูลชาวแคนาดาจำนวน 17,000 คนเป็นเวลา 12 ปี นักวิจัยยังพบว่า ผู้ที่นั่งทำงานมากชั่วโมงมีความเสี่ยงสูงที่จะเสียชีวิต ไม่ว่าพวกเขาจะออกกำลังกายหรือไม่ก็ตาม

"ณ ตอนนี้ เรายังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่า การนั่งเป็นเวลานานเท่าใดจึงจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพ แต่มีการค้นพบว่า ยิ่งคุณเปลี่ยนอิริยาบถมากเท่าไร ก็ยิ่งเป็นผลดีต่อสุขภาพมากเท่านั้น" ทิมกล่าวปิดท้าย

สำหรับผู้ที่อยากเปลี่ยนใจหันมารักสุขภาพ อาจลองเปลี่ยนจากการส่งอีเมลหากัน เป็นการเดินเข้าไปคุยงานแทนเป็นอันดับแรกก็ได้ค่ะ










เก๋ไก๋ทันแฟชั่น








เก๋ไก๋ทันแฟชั่น


ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเติบโตหรือตกต่ำ กระแสแฟชั่นก็เหมือนคลื่นที่ซัดเข้ามาไม่มีหยุด ซึ่งนั่นก็เป็นทั้งคำอวยพรและคำสาป ในช่วงเวลาแบบนี้ผู้บริโภคจะคอยติดตามแฟชั่นซึ่งเป็นแค่กระแสที่ผ่านมาแล้ว ก็ผ่านเลยไปได้อย่างไร ยิ่งกว่านั้นธุรกิจนี้จะปล่อยให้ผู้บริโภคไม่ติดตามแฟชั่นได้หรือ

ช่วงเทศกาลนี้เดิมพันที่ดีที่สุดสำหรับเครื่องประดับเก๋ๆ ในราคาไม่แพงจนเกินไป เป็นสินค้าที่มีการเพิ่มมูลค่า และที่สำคัญที่สุดคือมีส่วนช่วยเหลือสังคมด้วย ลองมาดูกระแสมาแรงดังต่อไปนี้

jtv.com
1. จากคลาสสิกสู่ร่วมสมัย

เมื่อปีที่แล้ว Diamond Trading Co. สนับสนุนให้ผู้บริโภคซื้อ "สินค้าน้อยชิ้นแต่คุณภาพดี" นี่คือมนตราซึ่งเน้นความไร้กาลเวลาของเครื่องเพชรคลาสสิก เช่นต่างหูเม็ดจี้เพชรเม็ดเดี่ยว และสายสร้อยข้อมือ แนวทางนี้สัมพันธ์กับสภาพการณ์ในตลาดซึ่งหันมาสนใจสินค้าคลาสสิกที่นำมาปรับปรุงใหม่ และเน้นมูลค่า ลองนึกถึงความยืนยงของเครื่องประดับอย่างต่างหูห่วงกำไลข้อมือ และสร้อยคอโซ่คล้อง

ภาพ Onyx ring จาก Joaillerie de France
2. เงินรมดำ

เนื่องจากราคาทองยังคงไต่สูงขึ้นเรื่อยๆ ธุรกิจเครื่องประดับจึงกระโดดหนีไปหาเงินกันเป็นการใหญ่ จากที่ได้รับการค้นพบใหม่อีกครั้งโดยตลาดบนเมื่อเกือบสองปีก่อน ขณะที่เศรษฐกิจร่วงลงสู่ภาวะถดถอย โลหะสีขาวนี้จึงกลายเป็นพระเอกขี่ม้าขาวให้แก่วงการออกแบบ แต่ที่น่าแปลกคือมันกลับทำหน้าที่นี้ได้ดีเป็นพิเศษเมื่อนำไปรมดำ เนื่องจากว่าเงินรมดำจะช่วยเพิ่มความหรูหราให้งานที่ ดูเรียบๆ น่าสนใจมากยิ่งขึ้น และนอกจากนั้น ในเวลาที่กระแสแฟชั่นที่เน้นความใหญ่และสะดุดตา เงินจึงเป็นทางเลือกเดียวสำหรับผู้ที่ยังชอบโลหะมีค่าชนิดนี้อยู่

โมรา (Agate ring) traderscity.com
3. พลอยสีสุดหรรษา

ด้วยความที่โลกแฟขั่นยังสนใจอยู่กับขนาด จึงไม่แปลกใจที่อัญมณีขนาดใหญ่แต่ราคาถูกซึ่งเคยดูไม่น่าสนใจ กลับกลายเป็นวัสดุสุดพิเศษสำหรับนักออกแบบ โมรา แผ่นหินโพลง ที่มีผลึกรูปเม็ดน้ำตาล และพลอยหลังเบี้ยแบบขุ่นขนาดใหญ่ที่ไม่เคยได้รับความนิยม กลับโดดเด่นด้วยฝีมือนักออกแบบและได้รับความนิยม เป็นอย่างมาก เนื่องจากราคาที่ไม่สูงมากนัก ยังเข้ากับกระแสแฟชั่นในปัจจุบันอีกด้วย

Evil Eye & Hamsa Pendant By kaboodle.com
4. การเดินทางอันแสนหวาน

ช่วยเทศการมักนำคนไปสู่ความโรแมนติก อันเป็นเหตุผลทำให้เครื่องประดับที่บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกกลายเป็นเครื่องประดับยอดนิยมประจำฤดูกาล "เครื่องประดับรูปดวงตาปีศาจ (Evil Eye) ชาร์มนำโชค สัญลักษณ์โยคะ จี้แฮมซา (Hamsa Pendant) อะไรก็ตามที่แฝงความนัยถึงความสงบและเป็นเครื่องลางประจำตัว คือสินค้าสุดฮิตในปีนี้"

designer-jewelry.com & polyvore.com
5. แปลกและแตกต่าง

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วผู้บริโภคสินค้าหรูหราไม่ได้ยึดติดกับมูลค่าของเครื่องประดับอีกต่อไปแล้ว แต่กลับเป็นตรงกันข้าม ผู้หญิงแสดงให้เห็นว่าต้องการเสาะหาเครื่องประดับที่เหมาะกับตัวเองโดย ไม่ขึ้นกับราคา เพราะผู้ซื้อต้องการเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของตัวเอง ซึ่งเหมายถึง การจับเอาเครื่องประดับต่างๆ มาผสมผสานกันในแบบของตัวเอง สร้อยคอที่ใช้ชาร์มจำนวนมาก สร้อยข้อมือชาร์ม สร้อยที่ใส่กับเป็นเลเยอร์ ทองคำสีเครื่องใส่คู่กับสีขาว เป็นการจับคู่ระหว่างเครื่องประดับราคาสูง และราคาปานกลางที่โดดเด่น กลายเป็นเอกลักษณ์ที่ลงตัว

ภาพ Sterling silver bamboo-motif bangles
จาก Thistle & Bee
http://www.git.or.th/thai/know/2010/01_january/g20100126.html






เทคนิคแม่บ้าน...เพิ่มความหอมให้บ้านด้วย "เสื้อผ้า"










เทคนิคแม่บ้าน...เพิ่มความหอมให้บ้านด้วย "เสื้อผ้า"
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์


เรื่องกลิ่นใครบอกว่าไม่สำคัญ ยิ่งโดยเฉพาะกลิ่นหอมสะอาดบนเสื้อผ้าที่หยิบมาสวมใส่ยิ่งสำคัญกว่าอะไรทั้งหมด โดยเฉพาะกับคุณแม่บ้านยุคปัจจุบัน เพราะคงไม่มีแม่บ้านคนไหนอยากให้ลูกๆ หรือสามี หรือแม้แต่ตัวเองใส่เสื้อผ้าที่มีกลิ่นอับ หรือมีกลิ่นตู้เสื้อผ้าติดเสื้อออกนอกบ้าน เพราะนอกจากจะทำให้ผู้สวมใส่ขาดความมั่นใจแล้ว คุณแม่บ้านอาจจะถูกใครตำหนิเอาได้ว่าไม่ดูแลคนในบ้านให้ดีก่อนออกจากบ้าน

ที่สำคัญเรื่องกลิ่นอีกนั่นแหละที่เพิ่มพูนความสุขทางอารมณ์ให้ทุกคนในบ้าน พูดแล้ววันนี้เราเลยมีเคล็ดลับที่ทั้งง่ายทั้งประหยัดในการดูแลเสื้อผ้าให้หอมสะอาดเหมือนใหม่อยู่เสมอมาแนะนำคุณแม่บ้านกัน

พึงรำลึกว่าใส่แล้วต้องซัก

ปัญหาหนึ่งที่ทำให้เสื้อผ้ามีกลิ่นเหม็นอับติดเสื้อก็คือ
การที่คุณพ่อบ้านหรือคุณลูกบางท่านแอบเม้มเสื้อผ้าที่ใส่ไปแค่แป๊บเดียวไว้ใส่ซ้ำอีกนัยว่าช่วยคุณแม่บ้านประหยัดน้ำ ด้วยความที่เมืองไทยเป็นเมืองร้อน ถึงใส่แค่ช่วงสั้นๆ แต่ถ้าเหงื่อได้ออกมาติดเสื้อบ้างแล้วไม่แคล้วกลิ่นไม่พึงประสงค์ก็ตามมาได้อีกเหมือนกัน เพราะฉะนั้นเป็นหน้าที่ของคุณแม่บ้านที่จะต้องสอดส่องกันหน่อยว่ามีเสื้อตัวไหนที่คนในบ้านหยิบมาใส่แล้วไม่ยอมซักบ้างไหม จะได้กำจัดปัญหากลิ่นอับหมักหมม และช่วยให้ทุกคนในบ้านใส่เสื้อหอมสะอาดทุกครั้ง

ซักผ้าในเวลาจำกัด

มาว่ากันต่อในกรณีของคุณแม่บ้านที่มีเวลาน้อยกันบ้าง บางทีที่ต้องใส่ซ้ำก็เพราะจำเป็นต้องใส่แต่ไม่เหลือเวลามากมายให้ซัก ถึงจะกังวลเรื่องกลิ่นแต่จะซักก็กลัวแห้งไม่ทัน หรือต่อให้แห้งทันก็ไม่มีเวลามารีดอีก
เคล็ดลับที่เราอยากแนะนำก็คือ ให้ซักเสื้อที่คุณต้องการใส่แล้วเอามาห่อทิ้งไว้ในผ้าขนหนูประมาณ 10-15 นาที ผ้าขนหนูจะทำหน้าที่ซับความชื้นออกจากผ้าจนเสื้อแห้งหมาดพอที่จะนำไปรีดได้ เท่านี้ก็ประหยัดเวลาไปได้มากและช่วยให้คุณมีเสื้อทันเวลาที่ต้องการ แถมไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ด้วย

กำจัดกลิ่นตู้ติดเสื้อด้วยสารพัดวิธี

ส่วนถ้าเป็นเรื่องกลิ่นตู้ติดเสื้อ เรามีหลายวิธีมาแนะนำ เริ่มจากการสำรวจตู้เสื้อผ้าของคุณเองก่อนว่า มีเสื้อผ้าอัดอยู่แน่นแค่ไหน และแต่ละตัวได้หมุนเวียนออกมาใส่บ่อยครั้งหรือไม่ เพราะถ้ามีเสื้อที่คาตู้อยู่นาน กาลเวลาผ่านไปก็ไม่พ้นต้องมีปัญหาเรื่องกลิ่น เพราะฉะนั้นคุณต้องจัดระเบียบตู้เสื้อผ้าเสียใหม่ อาจจะใช้หลักสีเดียวกันแขวนหรือพับไว้ด้วยกันก็ง่ายดี เมื่อเป็นระเบียบก็หยิบใช้ได้ง่าย ทำให้เสื้อผ้าได้หมุนเวียนออกจากตู้ไปใช้งานง่ายขึ้น และลดปัญหาเรื่องกลิ่นตู้ติดเสื้อลงได้ด้วย


จัดระเบียบอย่างเดียวยังไม่พอ ต้องวางแผนการใส่ด้วย กล่าวคือ สำรวจให้ละเอียดว่ามีเสื้อผ้าชิ้นไหนอยู่ในตู้บ้าง ใส่บ่อยแค่ไหน ตัวไหนยังไม่ได้ใส่ ฯลฯ แล้วมาจัดตารางการใส่เสื้อผ้าโดยอาจจะเริ่มเป็นสัปดาห์ๆ ไป หรือถ้าจัดได้ทั้งเดือนก็ยิ่งดี เพื่อให้เสื้อผ้าได้หมุนเวียนออกจากตู้ แต่ถ้าจัดก็แล้ว วางแผนก็แล้วยังไม่ได้ผลอีก งั้นก็ต้องเพิ่มตู้ หรือไม่ก็ลดจำนวนเสื้อผ้าโดยเลือกชิ้นที่คิดว่าไม่ใส่แล้วแน่ๆ แต่ยังมีสภาพดีอยู่เอาไปแปลงสินทรัพย์เป็นทุนด้วยการเปิดท้ายขายต่อ บริจาค หรือยกให้คนอื่นไปเลยก็น่าจะดี อย่างน้อยก็มีประโยชน์กว่าเก็บไว้จนแน่นและมีกลิ่นอับติดเสื้อ

หรือทางสุดท้ายที่หลาย ๆ ครอบครัวใช้กันก็คือพึ่งเจ้าน้ำยาปรับผ้านุ่มเสียเลย เพราะน้ำหอมในน้ำยาปรับผ้านุ่มหลาย ๆ ยี่ห้อก็ช่วยระงับกลิ่นไม่พึงประสงค์ไปได้ด้วยเช่นกันค่ะ









1
2

Wish You Happinessss

Success is not the key to happiness. Happiness is the key to success. 
If you love what you are doing, you will be successful. 

~ Albert Schweitzer ~

 คัมภีร์ 5 ห่วง  วิถีแห่ง "ซามูไร" วิถีแห่งนักรบ "บูชิโด"   แนวคิดของตัวเม่น   GOOD LUCK สร้างแรงบันดาลใจเพื่อความสำเร็จ ในชีวิตและธุรกิจด้วยตัวคุณเอง    Why complicate life ?   3 x 8 = เท่าไหร่ ?????   "ฉันชื่อ..โอกาส"

Wish You Happinessss